ปวดหลังบ่อย รู้ไว้ 5 สาเหตุนี้แหละที่ต้องเลี่ยง !

ปวดหลังบ่อย รู้ไว้ 5 สาเหตุนี้แหละที่ต้องเลี่ยง !

ปวดหลังบ่อย รู้ไว้ 5 สาเหตุนี้แหละที่ต้องเลี่ยง !
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

1.สะพายกระเป๋าหนักเกินไป

เรื่องของการสะพายกระเป๋านี้ เป็นปัญหาใหญ่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยทีเดียว ในเด็กนั้นมักจะมีปัญหาในเรื่องของการแบกหนังสือเรียนเป็นจำนวนมากทุกวัน ซึ่งมีผลให้เกิดการกดทับที่บ่าและเป็นเหตุให้สันหลังคดได้ ส่วนผู้ใหญ่ก็มักจะชอบสะพายกระเป๋าข้างเดียวมากกว่า เพราะรู้สึกสบายและสะดวกกว่า ก็จะทำให้เกิดปัญหาสันหลังผิดรูปเพียงข้างเดียวเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากเป็นไปได้ ควรใช้สองมือถือข้างหน้าให้เท่ากันจะดีที่สุด

2.ใส่รองเท้าส้นสูง

สำหรับผู้หญิงที่มีรูปร่างไม่ค่อยสูงเท่าไร หรือต้องการความโดดเด่นก็มักจะเลือกใช้รองเท้าส้นสูงเป็นตัวเลือกที่จะช่วยดึงดูดความสนใจได้มากยิ่งขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า อันที่จริงการใส่รองเท้าส้นสูงไม่ได้ดีต่อสุขภาพของเราเลย เพราะทำให้เกิดปัญหาหลายส่วนตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อเท้า ข้อเข่า ขา รวมมาถึงหลังด้วย ยิ่งถ้าหากใส่รองเท้าส้นสูง ที่สูงเกิน 1 นิ้วครึ่งขึ้นไป ก็มีโอกาสที่เราจะถ่วงน้ำหนักลงไปที่กระดูกสันหลังช่วงร่าง จนทำให้แอ่นผิดรูปไปจากเดิม

3.นั่งไขว่ห้าง

แม้ว่าการนั่งไขว่ห้างจะเป็นท่าที่สบายสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่ถ้าหากนั่งเป็นประจำ หรือนั่งจนติดเป็นนิสัย ก็มีผลทำให้เกิดการปวดหลังได้ เพราะร่างกายของเราขณะนั่งไขว่ห้างนั้น จะทิ้งลงไปที่ก้นหรือบั้นท้ายช่วงใดช่วงหนึ่ง จนเป็นเหตุให้กระดูกสันหลังคดผิดรูปได้

4.ชอบกอดอดบ่อยๆ

นอกจากไขว่ห้างแล้ว การกอดอกก็มีผลกับกระดูกสันหลัง ลองสังเกตดูเวลาที่เราเผลอยกมือกอดอกไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะหงุดหงิดหรือเกิดความเครียดก็ตาม ตั้งแต่ช่วงหลังด้านบนของเราขึ้นไปถึงศีรษะจะงุ้มลงไปด้านหน้า ซึ่งมีผลทำให้กระดูกคอต้องยื่นตามไปด้วย จึงทำให้มีความเสี่ยงที่กระดูกสันหลังจะงอ หรือเบี้ยวผิดรูปได้

5.ยืนแอ่นพุง/ยืนหลังค่อม

อันนี้ต้องเรียกว่าเป็นความเคยชินสำหรับบางคน ที่เมื่อใดก็ตามที่ยืนเฉย ๆ ก็จะยืนแอ่นพุงไปข้างหน้า หรือยืนค้อมหลังจนทำให้ดูไม่สง่างาม เมื่อทักครั้งหนึ่งก็จะยืนตรงที่หนึ่ง แต่เมื่อใดที่เผลอก็จะทำพฤติกรรมเช่นเดิม ซึ่งการยืนแบบนี้มีผลเสียต่อกระดูกสันหลังช่วงล่างโดยตรงที่อาจจะแอ่นและทำให้ปวดหลัง

และทั้งหมดนี้คือสาเหตุของอาการปวดหลังที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน ใครที่รู้ตัวว่าชอบทำพฤติกรรมเช่นนี้ก็ควรเลิกได้แล้ว ก่อนที่การปวดหลังจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook