อาการคันช่องคลอด โรคของคุณสาวๆ

อาการคันช่องคลอด โรคของคุณสาวๆ

อาการคันช่องคลอด โรคของคุณสาวๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาการคันนั้นนับว่าเป็นอาการที่น่า รำคาญเป็นอย่างมาก เพราะว่าอาการนี้จะตามรังควาญตลอดเวลาและเมื่อเราเกาก็จะยิ่งคัน เมื่อยิ่งคันก็ยิ่งเกา แต่ถ้าตำแหน่งที่คันอยู่บริเวณที่ไม่ควรเกาต่อหน้าผู้อื่นก็จะสร้างความ ทุกข์ทรมานให้กับผู้มีอาการคันเป็นอย่างยิ่ง

อาการคันช่องคลอด สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ นับตั้งแต่การแพ้ การแพ้นั้นอาจจะเกิดได้จากการสัมผัสกับ กางเกงใน การสัมผัสกับผ้าอนามัยบางยี่ห้อ หรือการที่มีการอับชื้นมากๆก็สามารถทำให้เกิดผื่นคันขึ้นได้ หรือบางคนนุ่งกางเกงแน่นมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดอาการคันขึ้นได้ การคันจากสาเหตุนี้มักคันบริเวณปากช่องคลอด

สาเหตุที่พบบ่อยมากที่สุด ก่อให้เกิดการคันก็ คือ เชื้อรา โดยเฉพาะในคนที่มีรูปร่างอ้วน และในคนที่เป็นเบาหวาน การที่เป็นเชื้อรานั้นนอกจากทำให้เกิดผื่นและคันแล้ว หากมีการเกาจนเกิดรอยแผลก็อาจจะมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติมได้ การติดเชื้อราบริเวณขาหนีบ มักจะมีรอยแดงและถลอกเป็นสะเก็ดให้เห็น ส่วนการติดเชื้อภายในช่องคลอด มักมีตกขาวสีขาว เป็นก้อนเหมือนนมแห้ง การรักษาบางครั้งอาจต้องให้การรักษาสามีร่วมด้วย การติดเชื้อรานี้สามารถเป็นซ้ำได้ และสามารถเกิดได้กับทุกคนหากมีการอับชื้น หรืออุณหภูมิที่พอเหมาะ

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการคันอย่างสาหัสสากรรจ์ก็คือการติดเชื้อพยาธิหนวด(ทริโคโมแนส) การติดเชื้อนี้ในผู้ชายมักไม่มีอาการแต่ในผู้หญิงจะมีตกขาวสีเหลืองเป็นฟอง อาจมีกลิ่นเหม็น และมีอาการคันที่รุนแรงมาก ส่วนอาการคันในช่องคลอดบางครั้งในเด็กเล็กๆอาจเกิดจากการติดพยาธิเข็มหมุดก็ได้ หากรักษาสาเหตุอื่นแล้วไม่ได้ผล ควรให้การรักษาภาวะนี้ร่วมด้วย

อาการ คันที่บริเวณช่องคลอดด้านในหรือด้านนอกส่วนมากแล้วไม่พบว่ามีสาเหตุที่ร้าย แรง แต่มักมีอาการที่รุนแรงและก่อความรำคาญให้กับผู้มีอาการเท่านั้น สำหรับคนที่มีความเขินอายหมอ หากมีอาการคันแล้วสามารถซื้อยามาทาหรือมาสอดเองก่อนได้

หากทาหรือสอดแล้วไม่หายอาจรักษาไม่ถูกสาเหตุ แต่หากทาแล้วยิ่งมีอาการมากขึ้นควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาจจะ แพ้ยาที่ทาได้ การไปพบแพทย์หากเราไม่ต้องการตรวจภายในก็สามารถปฏิเสธการตรวจได้ หรือสอบถามว่ามีหมอผู้หญิงหรือเปล่า หากมันไม่หายจริงๆก็อาจต้องตรวจหาสาเหตุต่อไป เพราะอาการคันนั้นส่วนมากแล้วรอไม่ได้นาน

 

 

ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก : Lady2010.com
ภาพประกอบจาก Photos.com

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook