ระวัง! โรค Burnout Syndrome อันตรายเงียบ...ชาวออฟฟิศควรเร่งรับมือ

ระวัง! โรค Burnout Syndrome อันตรายเงียบ...ชาวออฟฟิศควรเร่งรับมือ

ระวัง! โรค Burnout Syndrome อันตรายเงียบ...ชาวออฟฟิศควรเร่งรับมือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลาย เคยสังเกตตัวเองกันหรือไม่คะว่าเมื่อไรที่รู้สึกอ่อนล้า เบื่อหน่ายกับการทำงานหรือมีอาการเหมือนไฟตก หมดพลังทั้งร่างกายและจิตใจไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ

แท้จริงเป็นเพราะเราเหนื่อยกับการทำงานหนักเกินไปหรือมันอาจจะเป็นสัญญาณฟ้องถึงโรคใดอยู่หรือไม่ วันนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจถึงอาการเบื่อหน่ายในการทำงานที่เรียกกันอีกอย่างว่า “Burnout Syndrome”

ระวัง! โรค Burnout Syndrome อันตรายเงียบ...ชาวออฟฟิศควรเร่งรับมือ
ระวัง! โรค Burnout Syndrome อันตรายเงียบ...ชาวออฟฟิศควรเร่งรับมือ

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.kaewsaiidea.com/

Burnout Syndrome คืออะไร?

Burnout Syndrome เป็นโรคในทางจิตเวชชนิดหนึ่งที่มีสาเหตุจากการทำงานหนักเกินไป บวกกับการร่างกายนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานต่ำลง อีกทั้งผู้ป่วยยังมีภาวะความเครียดเรื้อรังสะสมจนก่อให้เกิดโรคนี้มากขึ้น สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าคุณจะเป็นโรคนี้อยู่หรือไม่ เรามีคำแนะนำให้มาลองสังเกตอาการของตัวเองดูค่ะ เพราะหากสังเกตพบว่ามีอาการดังนี้หลายข้อก็แปลว่าคุณอาจจะป่วยเป็นโรคนี้อยู่ก็เป็นได้ จากนั้นจะได้รีบรักษาอย่างทันท่วงทีนั่นเอง

มีอาการอ่อนเพลีย

อาการอ่อนเพลียเป็นสัญญาณเด่นชัดของโรค Burnout Syndrome โดยจะรู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลียตลอดเวลา อาการเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อภาวะอารมณ์ สภาพจิตใจและส่งผลต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย

ระวัง! โรค Burnout Syndrome อันตรายเงียบ...ชาวออฟฟิศควรเร่งรับมือ
ระวัง! โรค Burnout Syndrome อันตรายเงียบ...ชาวออฟฟิศควรเร่งรับมือ

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.kaewsaiidea.com/

หมดแรงใจในการทำงาน

หากรู้สึกหมดแรงใจในการทำงาน ไฟที่เคยมีตกฮวบนั่นแปลว่าคุณอาจกำลังเป็นโรค Burnout Syndrome อยู่ก็เป็นได้ สำหรับวิธีการสังเกตอาการของโรคนี้เด่นชัดก็คือ หากตื่นขึ้นมาทุกเช้ามีความรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่อยากไปทำงาน อีกทั้งยังต้องฝืดฝืนหรือใช้ความพยยามอย่างมากในการบังคับตัวเองออกไปทำงาน แนะนำให้รีบพบกับจิตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำก่อนอาการจะหนักไปมากกว่านี้จะดีที่สุด

อารมณ์ร้ายและมีทัศนคติติดลบง่ายกับสิ่งรอบตัว

เมื่อใดที่คุณเริ่มมีทัศนคติติดลบกับงานที่ทำอยู่ มองสิ่งรอบตัวในแง่ร้ายบ่อยๆ และมักมีอารมณ์ร้าย ไม่สนใจสิ่งรอบตัวหรือคนรอบข้าง นี่ก็บ่งบอกว่าคุณกำลังเป็นโรค Burnout Syndrome อยู่ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น อย่ารอช้ารีบพาตัวเองไปพบจิตแพทย์จะดีกว่านะคะ

ระวัง! โรค Burnout Syndrome อันตรายเงียบ...ชาวออฟฟิศควรเร่งรับมือ
ระวัง! โรค Burnout Syndrome อันตรายเงียบ...ชาวออฟฟิศควรเร่งรับมือ

ไร้สมาธิ ประสิทธิภาพของการทำงานต่ำลง

อาการของโรค Burnout Syndrome และภาวะความเครียดเรื้อรังที่เป็นอยู่มันจะเข้าไปก่อกวนจิตใจ และทำให้สมองของคุณฟุ้งซ่านไร้สมาธิในการทำงาน เมื่อคุณไม่สามารถรับมือจัดการกับความเครียดได้ ความรู้สึกก็จะเริ่มมองทุกอย่างติดลบตลอดเวลา รู้สึกหงุดหงิดและไม่พอใจ หากไม่ได้รับการปลดปล่อยหรือระบายออกมาอาการก็จะยิ่งสุมอกมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพต่ำลงได้

คุณภาพชีวิตย่ำแย่ลง

การที่คุณป่วยเป็นโรคนี้จะส่งผลมายังตัวคุณเองก่อนอันดับแรกกล่าวคือ จะทำให้คุณใช้ชีวิตอย่างไร้ความสุข หมดหวัง ท้อแท้กับชีวิตการทำงานง่าย ทำให้มีปัญหากับหัวหน้า เพื่อนร่วมงานและคนในครอบครัวตามมา นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดโรคซึมเศร้าและประสบปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้ด้วย

ระวัง! โรค Burnout Syndrome อันตรายเงียบ...ชาวออฟฟิศควรเร่งรับมือ
ระวัง! โรค Burnout Syndrome อันตรายเงียบ...ชาวออฟฟิศควรเร่งรับมือ

หากเมื่อรู้ว่าคุณมีอาการเหล่านี้หลายข้อ จงไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อขอรับคำแนะนำจะดีกว่านะคะ เพราะแม้โรคนี้จะไม่ได้มีความเจ็บปวดเกิดขึ้น แต่การใช้ชีวิตแบบหมดหวัง เบื่อหน่ายตลอดเวลามันก็เป็นการทำลายความสุขในชีวิตที่ควรจะมีไม่น้อย และรังแต่จะทำให้เกิดอาการป่วยทางจิตระยะยาวจนแก้ยากต่อไปด้วยซ้ำ

ดังนั้น รีบหาทางบำบัดรักษาแก้ไขก่อนความสุขของชีวิตจะหมดไปอย่างน่าเสียดายดีกว่า

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook