กลิ่นตัวชายหญิง จุดซ้อนเร้นที่ไม่ควรมองข้าม

กลิ่นตัวชายหญิง จุดซ้อนเร้นที่ไม่ควรมองข้าม

กลิ่นตัวชายหญิง จุดซ้อนเร้นที่ไม่ควรมองข้าม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โดย : นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์


เมื่อพูดเรื่องของกลิ่น ก็ต้องแยกกันระหว่างกลิ่นตัวกลิ่นกายที่หอมโดยธรรมชาติ กับกลิ่นตัวที่เกิดจากการหมักหมมไม่ยอมอาบน้ำเพราะค่าน้ำขึ้นราคา ในภาษาไทยเราก็ไม่มีคำเฉพาะที่สามารถบรรยายให้เข้าใจได้ชัดเจน แต่ในภาษาอังกฤษ กลิ่นตัวหอมๆ เราจะเรียกว่า "Scent" ส่วนกลิ่นตัวเหม็นๆ ก็จะเรียกว่า "Odor"

 


 

กลิ่นธรรมชาติให้มา

กลิ่นตัวกลิ่นกายที่หอมโดยธรรมชาติ เป็นกลิ่นหอมที่ติดตัวมาโดยไม่ต้องไปแต่งเติมอะไร เหมือนกับกลิ่นของเด็กทารก มันมีกลิ่นแบบนี้ของมันเองโดยธรรมชาติ ไม่ต้องใช้แป้งเด็ก ไม่ต้องใช้โลชั่นใดๆ กลิ่นหอมของเด็กก็จะทำให้เรารู้สึกสงบลง อ่อนโยน และรู้สึกว่าต้องทะนุถนอมดูแล น่ากอด น่าอุ้ม...แป้งเด็กที่มีขายออกมาก็มีกลิ่นหอมเบาๆ คล้ายๆ กลิ่นของเด็กโดยธรรมชาติแหละ

พอโตขึ้นเป็นหนุ่มเป็นสาวก็มีกลิ่นกายที่เปลี่ยนไป กลิ่นเนื้อหนุ่มดูไม่ค่อยชัดเจนเท่ากลิ่นเนื้อสาว กลิ่นเนื้อสาวแบบธรรมชาติ เป็นกลิ่นที่ทำให้เกิดความรู้สึกถึงความอ่อนโยน บอบบาง น่าทะนุถนอม เป็นกลิ่นที่ดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม กลิ่นนี้เป็นลักษณะเฉพาะคน บางคนมี บางคนก็ไม่มี ผู้หญิงประเภทสาวห้าวทอมบอย จะไม่ค่อยมีกลิ่นอย่างที่ว่าหรอกค่ะ

กลิ่นกายของคนเราก็คงมีลักษณะคล้ายๆ กับฟีโรโมน (Pheromone) คือ สัตว์บางชนิดสามารถปล่อยกลิ่น หรือสารเคมีบางอย่างออกมา เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น หรือเป็นการดึงดูดความสนใจ กระตุ้นเกี้ยวพาราสีในช่วงฤดูกาลผสมพันธุ์ ในคนเราไม่มีฟีโรโมนชัดเจนเหมือนกับสัตว์ การกระตุ้นดึงดูดด้วยฟีโรโมนเป็นเรื่องง่ายเกินไปสำหรับมนุษย์ หากคนเรามีฟีโรโมนเหมือนกับสัตว์ สงสัยคงยุ่งแน่ ตรงไหนที่มีการปิ๊งกัน คงมีกลิ่นของคนโน้น คนนี้ปนกันเต็มไปหมดแต่การที่คนเราจะปิ๊งกันได้ ก็ต้องมีองค์ประกอบมากมาย กลิ่นอย่างเดียวไม่พอหรอกครับ ส่วนมากแล้วหนุ่มสาวก็มักจะมีภาพของคู่ตนในใจเอาไว้อยู่แล้ว ...หนุ่มคนนั้นต้องมีหน้าตาแบบนี้นะ รูปร่าง บุคลิก นิสัยอย่างนี้นะ แถมบางทีก็ต้องมีข้อแม้เพิ่มเติมอีก เช่น ต้องมีรถโก้ๆ ฯลฯ ดังนั้นสังคมมนุษย์มันมีอิทธิพลประกอบอย่างอื่นเยอะ มีฟีโรโมนออกมาเยอะยังไง ก็ช่วยอะไรได้ไม่มากนักนะคะ

 

กลิ่น..ดับอารมณ์

พูดถึงกลิ่นดีๆแล้ว ก็เลยขอว่าถึงกลิ่นที่ไม่ดีด้วยแล้วกันนะ กลิ่นไม่ดีอาจทำให้หมดอารมณ์ไปดื้อๆ เลยก็ได้ กลิ่นที่เกิดขึ้นในผู้ชายก็มักเป็นกลิ่นตัวจากเหงื่อไคล จากจุดอับต่างๆ เช่น ซอกรักแร้ หากเคยเจอที่มันเหม็นจริงๆ รับรองเห็นจนสลบไปเลยครับ กลิ่นที่ว่าก็เกิดจากการที่มีแบคทีเรียเจริญเติบโตสะสมอยู่ในจุดอับเป็นจำนวนมาก พอมีเหงื่อไคลอับชื้น มันก็จะย่อยสลายโดยแบคทีเรียเกิดเป็นกลิ่นเหม็นๆ ออกมา

ดังนั้นหากมีกลิ่นตัวแรงๆ กลิ่นเต่าพลังสูงก็ต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดอาบน้ำบ่อยๆ ใช้สบู่ที่สามารถฆ่าเชื้อโรค ลดจำนวนสะสมของแบคทีเรียได้ หรือถ้าสุดความสามารถแล้วก็ต้องใช้น้ำหอม หรือลูกกลิ้งดับกลิ่นเฉพาะที่บ้าง

จุดที่มีกลิ่นไม่ดีอีกที่ของผู้ชายก็คือที่หนังหุ้มปลายนั่นแหละ ปกติแล้วผู้ชายที่มีหนังหุ้มปลายหลงเหลืออยู่ ยังไม่โดนขลิบไปเสียก่อน เวลาอาบน้ำก็ต้องรูดลงมาขัดสีฉวีวรรณตามซอกคอของหนังหุ้มปลายทุกวันให้เป็นกิจวัตร หากมีหนังหุ้มปลายแล้วไม่ล้างให้สะอาดก็จะเกิดการหมักหมม มีกลิ่นเหม็น

กลิ่นไม่ดีที่เกิดขึ้นในผู้หญิง ก็มักจะเกิดขึ้นตรงจุดสำคัญคล้ายปากกับช่องคลอด เยื่อบุช่องปากกับเยื่อบุช่องคลอดก็คล้ายคลึงกันมาก ปากต้องมีน้ำลายหล่อเลี้ยง ช่องคลอดก็ต้องมีน้ำเป็นมูกหล่อเลี้ยงตลอดเวลา สำหรับปากเราสามารถแปรงฟันทำความสะอาดได้ง่าย แต่สำหรับช่องคลอด เราไม่ค่อยได้ดูแลรักษาความสะอาดมันเท่ากับช่องปากเลย บางทีก็เกิดการหมักหมมภายใน มูกตกขาวที่มีส่วนประกอบเป็นแป้งก็มีการบูดเสีย มีกลิ่นตามมาได้ ยิ่งหากมีการอักเสบติดเชื้อก็ยิ่งมีกลิ่นมากขึ้น

คุณผู้หญิงที่มีกลิ่นเหม็นในบริเวณจุดสำคัญตรงนี้ต้องหมั่นดูแลความสะอาดให้ดี อย่าให้มีการสะสมของเชื้อโรค หากรู้สึกว่าตกขาวออกมาผิดปกติ มีสีเขียว สีเหลือง มีกลิ่นแรง ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา

 

 

 

ขอบคุณข้อมูล : นิตยสาร โมเดิร์นมัม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook