Baby Bangs = ม้าเต่อ ไปกับ เฟิร์น ศุภนารี สุทธวิจิตรวงษ์

Baby Bangs = ม้าเต่อ ไปกับ เฟิร์น ศุภนารี สุทธวิจิตรวงษ์

Baby Bangs = ม้าเต่อ ไปกับ เฟิร์น ศุภนารี สุทธวิจิตรวงษ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Baby Bangs = ม้าเต่อ

ในช่วงหลังคุณต้องผ่านตาสาวคนนี้ไม่จากทางใดก็ทางหนึ่ง–โฆษณา เอ็มวี คลิปไวรัล ภาพถ่ายแฟชั่น เพราะเธอเป็นนางแบบที่มาแรงและงานชุกสุดๆ คนหนึ่งของ พ.ศ. นี้ ผมบ๊อบ ม้าเต่อ ตาแป๋ว หน้าเก๋ คือคาแรคเตอร์อันโดดเด่นที่ทำให้คนจดจำ และกลายเป็นจุดขายของเธอไปแล้ว สำหรับ เฟิร์น ศุภนารี สุทธวิจิตรวงษ์

แต่หลายคนอาจบอกว่า รู้จัก เฟิร์น ศุภนารี มาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว ตอนนั้นภาพลักษณ์ของเธอไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา!ใช่, ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 เธอเคยเป็นผู้ชนะเลิศจากเวทีการประกวดสาวเซ็กซี่เวทีหนึ่ง เฟิร์น ศุภนารี ในตอนนั้น ผมยาว เซ็กซี่ วาบหวิว และร้อนแรง ต่างจากลุคสาวฮิิปในตอนนี้ราวกับคนละคน

คำถามที่ตามมาคือ เหตุใดเธอถึงเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้-ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องหาคำตอบมาให้คุณ อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายๆ แง่มุม ที่เราอยากให้คุณได้รู้จักกับเธอ และสัมผัสกับThe Power of ม้าเต่อ ไปพร้อมๆ กัน!

ก่อนที่ทุกคนจะรู้จัก เฟิร์น ศุภนารี จากภาพของผู้ชนะเลิศการประกวดสาวเซ็กซี่เวทีหนึ่งเมื่อปี 2014 ก่อนหน้านั้นเธอก็ถ่ายแบบทั่วไป ถ่ายแนวเกาหลี ถ่ายคอนแทคเลนส์ ซึ่งเธอเริ่มทำงานด้านนี้มาตั้งแต่ ม.6
“หนูชนะตอนเรียนปี 1 อายุ 18 ตอนนี้อายุ 23 เริ่มจากทางนิตยสารที่จัดประกวดติดต่อให้ไปถ่ายแบบ เราก็รับอยู่แล้วไม่ได้คิดอะไร เสร็จเขาก็บอกว่ามีแคมเปญนี้ เราก็ไปประกวด แล้วก็ชนะมาแบบงงๆ เพราะว่าคนอื่นเขาสวยกันหมดเลย เราชนะได้ไงไม่รู้ (หัวเราะ)”

จากที่ถ่ายแบบปกติทั่วไป อาจจะเคยถ่ายบิิกินีมาบ้าง เธอจึงต้องเข้าสู่เส้นทางสาวเซ็กซี่ ถ่ายแบบแต่ละทีนุ่งน้อยห่มน้อย โชว์เรือนร่าง
“ไม่เขินนะ หนูคิดว่ามันก็เป็นงานงานหนึ่ง เราชอบถ่ายแบบ ชอบเห็นตัวเอง สะสมผลงานตัวเอง ตัดรูปตัวเองแปะทั่วบ้าน มองว่ามันเป็นงานอาร์ตมากกว่า ไม่ใช่โป๊ เราไม่ได้แก้ผ้า ซึ่งตัวจริงก็ไม่ใช่คนเซ็กซี่ ไม่ใช่คนแต่งตัวโป๊ ก่อนหน้านั้นเราก็เป็นปกติแบบปัจจุบันนี่แหละ”



ถึงตรงนี้ จากที่หลายคนอาจจะเข้าใจว่า ภาพปัจจุบันของเธอคือการเปลี่ยนลุค แต่จริงๆ แล้วต้องบอกว่า ทุกวันนี้คือตัวตนที่จริงของเฟิร์นมากกว่าภาพสมัยก่อนอีก ซึ่งอันนั้นเป็นแค่อีกลุคหนึ่งสำหรับการทำงานเท่านั้น
หลังจากหมดสัญญาระยะเวลา 1 ปีกับเวทีการประกวดดังกล่าวแล้ว เราก็ไม่เห็นเฟิร์นในแบบเซ็กซี่อีกเลย
“เพราะว่าหนูเบื่อมั้ง เซ็กซี่ทุกวันมันก็เบื่อ คนเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเราชนะมา เราเซ็กซี่ ไม่จำเป็นจะต้องแต่งตัวเซ็กซี่เพื่อให้คนเห็นอีก แล้วหนูก็ไม่ใช่คนชอบแต่งตัวโชว์นม เพราะว่าไม่มีนมให้โชว์ (หัวเราะ)”

แล้วมีโอกาสที่เธอจะกลับไปถ่ายแบบนั้นอีกมั้ย-เราอยากรู้?
“อาจจะนะ ถ้าวันไหนที่อยากถ่าย คอนเซปต์ดีๆ สวยๆ ก็จะถ่าย แต่ว่าถ้าไปถ่ายธรรมดาไม่ถ่าย เบื่อ”

เธอมีฐานแฟนคลับจากตรงนั้นเยอะพอสมควร ซึ่งอาจจะเซอร์ไพรส์กับลุคของเธอในปัจจุบัน
“หนูว่าหลายคนก็คงไม่ชอบมั้ง คนละแนว (หัวเราะ) แต่บางคนที่ชอบเราจริงๆ เขาก็ชอบ แต่ว่าใครที่ไม่ชอบก็ไม่เป็นไร หนูก็เป็นตัวหนู ส่วนหลายๆ คนที่ร่วมงานด้วยเขาก็บอกว่าดี ทำได้หลายอย่าง เป็นได้หลายแนว บางคนเห็นรูปตอนนั้นแล้วบอก ใช่เฟิร์นเหรอ”

หมดสัญญาแล้ว เฟิร์นถ่ายแบบบ้างประปราย แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยได้ทำอะไร เพราะช่วงนั้นติดเรียนสัปดาห์ละ 4 วัน ที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงไม่ค่อยมีเวลา บวกกับอารมณ์เด็กๆ ที่ขี้เกียจไปแคสต์งานด้วย นั่นคือเหตุผลที่เราไม่ค่อยได้เห็นเธอในช่วงหนึ่ง
“ตอนหลังถึงเริ่มขยันออกไปแคสต์งาน เพราะว่าหนูเรียนปีสุดท้ายแล้ว เรียนแค่วันเดียว ก็มีเวลาวิ่งไปแคสต์งาน ถ่ายงาน มีเวลาทำอะไรมากขึ้น และแต่ก่อนเราขี้เกียจ เพราะว่าแคสต์งานมันใช้เวลาทั้งวัน เคยไปเช้ารอถึงห้าโมงเย็นไม่ต้องทำอะไร แต่พอโตมา การรอ คนอื่นเขาก็รอเหมือนกัน ร้อยคนก็มีโอกาสเท่ากันร้อยคน แต่ถ้าเราไม่แคสต์ เราก็ไม่มี
โอกาส ถ้าสมมุติเราถอดใจก่อน หนูก็ไม่ได้มีงานถึงทุกวันนี้”

งานในช่วงยุคหลัง ภาพสาวเซ็กซี่ของเธอนั้นเริ่มจากมีคนติดต่อมาในอินสตาแกรม บอกให้มาแคสต์งานให้หน่อย แต่เธอไม่ยอมไป จนทางนั้นตื๊อมาเป็นครั้งที่ 4 เธอจึงเริ่มรู้สึกว่าสมควรต้องไปแล้วล่ะ ซึ่งเธอก็ได้งานแรก คือโฆษณา KFC เมื่อปีกว่าที่ผ่านมา
“ลองทำงาน ก็สนุกดี กินไก่ (หัวเราะ) ต่อจากนั้นคนก็เห็น เราก็ไปแคสต์เรื่อยๆ แล้วก็ได้งานมาจนถึงทุกวันนี้”

ตอนนั้นเธอผมม้าแล้ว ต้องบอกว่าเพราะลุคใหม่และม้าเต่อด้วย ที่กลายเป็นซิกเนอเจอร์และเป็นจุดขายของเธอนอกจากงานเยอะแยะมากมาย ทั้งโฆษณา เอ็มวี ถ่ายแฟชั่น พิธีกร ล่าสุดเธอกำลังจะมีผลงานการแสดงซีรีส์ด้วย
“น่าจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ลองดู ก็น่าจะสนุกดี” เธอว่า เธออยากแสวงหาความท้าทายในงานต่างๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป “ทำต่อไปเรื่อยๆ อะไรที่รู้สึกว่าไม่ดี เราก็เอาไปแก้ไข เราก็จะรู้จุดบกพร่องของตัวเอง และไม่ทำตรงนั้น แล้วก็พัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม”



อย่างที่เธอบอกว่า ตอนนี้เรียนปีสุดท้ายแล้ว เทอมหน้าเรียนอีกวิชาเดียวก็จบ เราอยากรู้ว่าถ้าจบแล้วเธอวางแผนยังไงต่อไป
“ยังไม่รู้เลยค่ะ ถ้ายังทำงานก็ทำไป แต่คิดว่าอยากไปเรียนต่างประเทศ อาจจะไปเรียนต่อที่อเมริกา น่าจะเป็นด้านวาดรูป”

จริงๆ แล้ว เฟิร์นชอบวาดรูปมาตั้ังแต่เด็ก ตรงนี้ต้องขอเล่าย้อนกลับไปตอนวัยเด็กของเฟิร์นสักนิด ว่าไม่ว่าเธออยากทำอะไร พ่อกับแม่จะส่งเสริมตลอด
“ตอนเด็กๆ เรียนพิเศษทุกอย่าง เทควันโด ศิลปะ ไวโอลิน เรียนมากเกือบหมดแล้ว เขาก็สนับสนุนทุกอย่าง ประกวดอะไร ทำงานอะไรพ่อแม่ให้กำลังใจตลอด ไม่เคยบอกว่าอย่าทำ ให้ลองผิดลองถูกมากกว่า ซึ่งตอนเด็กๆ เราก็ชอบวาดรูป ไปเรียนวาดรูป เรียนวาดภาพเหมือน เพนต์กำแพงวัด แต่ว่าพอโตมาแล้วไม่สามารถเรียนศิลปกรรมได้ เพราะคิดแล้วว่าการบ้านเยอะมากๆ แล้วเราทำงานด้วยมันจะไม่มีเวลา เรียนนิเทศฯ ยังไปในทางที่ง่ายกว่า มีโอกาสจบมากกว่า (หัวเราะ)”

ทุกวันนี้เธอก็ยังชอบวาดรูปอยู่ ถ้ามีเวลาก็วาดบ้าง เธอบอกว่าเธอชอบสีๆ ชอบวาดตัวอะไรประหลาดๆ แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นคนไฮเปอร์และอยากลองทำอะไรหลายๆ อย่าง
“อยากทำไปเรื่อย อยากลองเป็นบาร์เทนเดอร์ อยากลองตักไอติม อยากลองไปหมดเลย (หัวเราะ) ถ้ามีเวลาก็จะไปหาฝึกงานเอา อยากลองสิ่งที่ไม่เคยทำ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ เจอสังคมใหม่ๆ คนก็ไม่เหมือนกัน แปลกๆ เรียนรู้กันไป บางคนก็ดี บางคนก็ไม่ดี คนมีหลายรูปแบบ”

แล้วจริงๆ แรงผลักดันในชีวิตของเธอคืออะไร?
“หนูชอบหาเงิน หนูชอบทำงาน ทำงานได้เงินแล้วรู้สึกดี ให้เงินแม่ ซื้อบ้าน ทำโน่นทำนี่”

พูดถึงอเมริกา เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งไปนิวยอร์กมา โดยเป็นการเดินทางคนเดียว
“หนูอยู่คนเดียวได้ ไปวิ่งหนูก็ไปวิ่งคนเดียว จะทำอะไรก็ไปทำคนเดียว เพราะว่าเพื่อนก็ทำงาน ว่างไม่ตรงกัน แล้วเราก็ไม่อยากรอ ไปอเมริกาหนูก็ไปคนเดียว แต่ว่ามีเพื่อนที่โน่น ไปแต่ละเมืองเราก็ไปเจอเพื่อน แล้วช่วงนี้เป็นช่วงที่เราสามารถหยุดงานได้ ว่าง ก็ไปเที่ยว

“เดินทางคนเดียว กับไปกับเพื่อน มันก็จะคนละฟีล ก็ได้อะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ฝรั่งเขาไนซ์ เฟรนลี่ คุยกันได้ เราก็ไม่เหงา เดินไปโน่นไปนี่ ถ่ายรูปไปเรื่อย ไม่รู้ก็ถาม คุย เปิดอินเทอร์เน็ต อยากไปที่ไหน อยากกินอะไรก็ไม่ยาก ไปนิวยอร์กก็ได้เพื่อนใหม่ ได้มิตรภาพดีๆ ไปร้านกาแฟ เจอคนก็คุย มาทำอะไร โน่นนี่ แต่ก็มีเพื่อนที่อยู่นิวยอร์กเยอะมาก เพื่อนเก่าๆ ที่ไม่ได้เจอ ความฝันหนูคืออยากไปเที่ยวรอบโลก และชอบไปมิวสิกเฟสติวัลใหญ่ๆ ปีที่แล้วก็ไป Tomorrowland ไป Creamfields ที่อังกฤษ"

สำหรับชีวิตยามว่าง เธอจะใช้เวลาออกกำลังกาย หลายคนคงรู้ว่าเธอชอบวิ่ง
“ชอบวิ่งมาก เป็นการค้นพบที่รู้สึกว่าใช่เลย เป็นคนติดวิ่งไปแล้ว วิ่งสวนลุมฯ บ้าง ที่อื่นบ้างแล้วแต่ หนูเคยทนวิ่งถึง 3 รอบที่สวนลุมฯ ก็ประมาณ 7.5 กิโลฯ พอฝืนวิ่งไปถึงจุดหนึ่งแล้วมันก็จะไม่เหนื่อยจริงๆ แต่ปกติก็วิ่งประมาณ 5 กิโลฯ”

ประเด็นสุดท้ายที่เราคุยกับเฟิร์น คงถูกใจหนุ่ม GM ทั้งหลาย–ตอนนี้เธอเป็นสาวโสด!
“ตอนนี้ไม่มีแฟนค่ะ เพิ่งเลิกไปประมาณหนึ่งปี ก็เฉยๆ ทำงาน เที่ยว สบาย ไม่ต้องขอใคร ทำอะไรก็ได้ จะไปไหนก็ไป”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook