“ฝังเข็มรักษาฝ้า” หายได้จริงหรือ

“ฝังเข็มรักษาฝ้า” หายได้จริงหรือ

“ฝังเข็มรักษาฝ้า” หายได้จริงหรือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

       ‘ฝ้า’ คือปัญหาผิวที่ทำให้สาวๆ หลายคนต้องทนทุกข์ แต่การฝังเข็มแก้ฝ้าจะช่วยได้จริงหรือวันนี้ ดอกเตอร์บักเฮง ลี ไท่(Bach Hien Le Thi) แพทย์แผนจีนชื่อดังจะมาไขข้อสงสัยให้จากนี้ค่ะ

        การเรียนฝังเข็มนั้นมีความท้าทาย เนื่องจากต้องรู้หลักพื้นฐานทางกายวิภาคศาสตร์เป็นอย่างดี อีกทั้งถ้าจะฝังเข็มให้ได้ผล จำเป็นจะต้องเข้าใจสาเหตุของการเกิดโรคทั้งในมุมมองของแพทย์แผนจีนและแผน ปัจจุบันด้วยเพื่อเลือกจุดที่จะฝังให้เห็นผลการรักษาอย่างรวดเร็ว

        โดยหลักการแล้วการฝังเข็มสามารถออกฤทธิ์ได้ทั้งเฉพาะจุดและส่งผลโดยรวม การออกฤทธิ์เฉพาะจุดก็คือ การยืดกล้ามเนื้อมัดนั้นๆ โดยเฉพาะตำแหน่งที่มีปัญหา เช่น ปวด หรือเป็นพังผืด ซึ่งจะพบว่ากล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะหดเกร็ง จนทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและเส้นประสาทบริเวณนั้น ได้สะดวกส่งผลให้เกิดการคั่งค้างของเสียเช่นกรดแลกติก(Lactic Acid) ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดเมื่อย

        ขณะนี้มีงานวิจัยยืนยันออกมาแล้วว่าการฝังเข็มและรมยาช่วยลดปริมาณกรดแลก ติกในกล้ามเนื้อ เนื่องจากการกระตุ้นด้วยเข็มทำให้กล้ามเนื้อยืดและคลายตัวอย่างช้าๆ ฉะนั้นเลือดจึงหมุนเวียนได้สะดวก และสามารถนำกรดแลกติกออกจากกล้ามเนื้อได้มากขึ้น อาการปวดจึงลดลง

         การฝังเข็มยังมีผลทำให้หลอดเลือดโดยเฉพาะตำแหน่งที่ฝังเข็มนั้นขยายตัว เช่น ฝังบริเวณศีรษะ ทำให้หลอดเลือดสมองขยายตัวเพิ่มขึ้น เลือดจึงไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น เห็นได้จากการนำวิธีนี้มาช่วยเยียวยาผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตร่วมกับการใช้ยา หรือในการรักษาอาการชาตามส่วนต่างๆ ของร่างกายก็ใช้หลักการเดียวกัน

         นอกจากนี้การฝังเข็มยังช่วยปรับระดับฮอร์โมนและภูมิคุ้มกัน จึงนำมาใช้รักษาโรคและอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น สิว ฝ้า อ้วน ภูมิแพ้ เป็นต้น

        ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างการรักษาฝ้าด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน ซึ่งการเกิดฝ้านั้นเกิดจากระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล มีระดับเอสโตรเจนสูง พบได้ในสตรีขณะตั้งครรภ์หรือผู้ที่กินยาคุมกำเนิดเป็นเวลานานๆ นอกจากนี้ยังเกิดจากโดนแดดเป็นเวลานาน ความเครียด การอดนอน

        แพทย์แผนจีนอธิบายว่า ฝ้าเกิดจากอารมณ์ที่อัดอั้นไม่ผ่อนคลายทำให้เกิดการอุดกั้นของเส้นลมปราณตับ ส่งผลให้เลือดหมุนเวียนไม่ดี เมื่อเลือดหมุนเวียนไปเลี้ยงบริเวณใบหน้าไม่ดีจึงเกิดฝ้าหมองคล้ำ

        อารมณ์และความเครียดเป็นสาเหตุหลักของฝ้า รวมถึงการนอนไม่หลับก็ส่งผลต่อการเกิดฝ้าด้วย พบผลสำรวจว่าประมาณ 2 ใน 3 ของผู้เป็นฝ้า มักมีอาการนอนไม่หลับร่วมด้วย การรักษาทางแพทย์แผนจีน จะใช้การฝังเข็มปรับระดับฮอร์โมน ร่วมกับการใช้ยากลุ่มที่ทำให้เลือดเดิน

        นอกจากนี้การกระตุ้นจุดบนใบหูก็สามารถปรับระดับฮอร์โมนได้ ที่สำคัญจะแนะนำให้ผู้ป่วยงดกินของเผ็ดของร้อนเช่น ขิง ให้กินผักผลไม้มากๆ เช่น มะเขือเทศ ผลไม้ตระกูลส้ม แตงกวา เป็นต้น

        การฝังเข็มปรับระดับฮอร์โมนจะช่วยคนเป็นฝ้าที่มีสาเหตุจากฮอร์โมนไม่ สมดุล เช่น ขณะตั้งครรภ์ กินยาคุมกำเนิด เป็นโรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ เช่น ไทรอยด์ ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตผิดปกติ การแก้ที่สาเหตุจะทำให้ฝ้าดีขึ้น

        แต่บางคนหาสาเหตุไม่ได้ ก็สามารถเลือกรักษาด้วยแพทย์แผนจีน โดยสิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้ในการรักษาฝ้าคือ การปรับอารมณ์อาจต้องใช้ยาตำรับที่ช่วยปรับอารมณ์ให้รื่นรมย์มากขึ้น ลดอาการหงุดหงิดเนื่องจากยิ่งอารมณ์เสียจะยิ่งทำให้ชี่ติดขัด เลือดก็จะหมุนเวียนได้ไม่ดีตามมา

        ในบางรายอาจต้องให้ตำรับบำรุงหยิน หรือตำรับบำรุงม้ามซึ่งเน้นการบำรุงเลือดและการหมุนเวียนเลือด สิ่งสำคัญคือต้องตรวจวินิจฉัยให้ได้ก่อนว่าผู้ป่วยเป็นฝ้าจากสาเหตุใด แล้วจ่ายยาให้ตรงกับโรคและอาการ นอกจากนี้ยังสามารถมาส์กหน้าด้วยยาสมุนไพรจีนที่มีสูตรและคุณสมบัติทำให้ หน้าขาว มาส์กไว้ก่อนนอนตื่นมาล้างออกก็จะทำให้ฝ้าจางลง

       เห็นไหมคะว่า การรักษาอาการผิดปกติต่างๆตามแพทย์แผนจีนนั้นต้องทำแบบผสมสาน และต้องปรับพฤติกรรมร่วมด้วยจึงจะเห็นผล

      แพทย์จีนด็อกเตอร์บักเฮง ลี ไท่(Bach Hien Le Thi) หรืออาจารย์เฮง บางท่านอาจรู้จักแล้วในฐานะแพทย์จีนคนเก่ง ท่านทำงานเป็นอาจารย์ประจำสำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และแพทย์ประจำคลินิกแพทย์แผนจีน โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ขอบคุณภาพประกอบ : istock

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook