7 ประโยชน์ของ "กุ้ง" ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน อาหารทะเลยอดฮิต ดีต่อสุขภาพกว่าที่คิด

7 ประโยชน์ของ "กุ้ง" ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน อาหารทะเลยอดฮิต ดีต่อสุขภาพกว่าที่คิด

7 ประโยชน์ของ "กุ้ง" ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน อาหารทะเลยอดฮิต ดีต่อสุขภาพกว่าที่คิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

7 ประโยชน์ของ "กุ้ง" ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน อาหารทะเลยอดฮิตโปรตีนสูง ดีต่อสุขภาพกว่าที่คิด

“กุ้ง” (Shrimp) ถือเป็นหนึ่งในอาหารทะเลที่ดีต่อสุขภาพที่สุด เพราะมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และมีปริมาณสารปรอทน้อยกว่าปลาใหญ่หลายชนิด อีกทั้งยังอุดมด้วยแร่ธาตุและวิตามินสำคัญ เช่น ซีลีเนียม (Selenium) และ วิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของหัวใจและระบบภูมิคุ้มกัน

1. ช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตก่อนวัย

การเลือกแหล่งโปรตีนจากกุ้งแทนเนื้อแดงหรือเนื้อแปรรูป อาจช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคต่าง ๆ ได้ งานวิจัยพบว่าการรับประทานปลาและอาหารทะเลช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยกุ้งต้มขนาดกลาง 10 ตัว ให้โปรตีนประมาณ 9 กรัม ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย

2. มีสารต้านอนุมูลอิสระ

กุ้งเป็นแหล่งของสารแอสตาแซนทิน (Astaxanthin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสีส้มแดงจากสาหร่ายขนาดเล็กที่กุ้งกินเข้าไป มีรายงานว่าสารนี้ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน มะเร็ง โรคหัวใจ และโรคอ้วน

3. มีปริมาณปรอทต่ำ

ตามคำแนะนำของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (DGA) แนะนำให้บริโภคอาหารทะเลที่มีปรอทต่ำ เช่น กุ้ง ประมาณ 8 ออนซ์ต่อสัปดาห์ เพราะปรอทในระดับสูงอาจทำลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ

4. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

ผู้ที่รับประทานกุ้งเป็นประจำมีแนวโน้มความดันโลหิตและระดับคอเลสเตอรอลต่ำกว่า อีกทั้งยังมีความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองลดลง กุ้งมีไขมันอิ่มตัวต่ำ แต่ให้กรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งช่วยบำรุงหัวใจได้ดี

5. ดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์

งานวิจัยพบว่าการรับประทานอาหารทะเลเพียง 4 ออนซ์ต่อสัปดาห์ ช่วยพัฒนาสมองทารกในครรภ์ กุ้งยังเป็นแหล่งของไอโอดีน ที่สำคัญ โดยกุ้งปรุงสุก 3 ออนซ์ ให้ไอโอดีนราว 13 ไมโครกรัม หรือประมาณ 9% ของความต้องการต่อวัน

6. อุดมด้วยแร่ธาตุและวิตามินสำคัญ

กุ้งให้สารอาหารหลายชนิด เช่น ซีลีเนียม ซึ่งช่วยสร้างเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินบี 12 ที่ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและบำรุงระบบประสาท

7. เสริมภูมิคุ้มกัน

กุ้งเป็นแหล่งของสังกะสี (Zinc) ซึ่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและสมานแผล อีกทั้งยังมีวิตามินอี ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์จากความเสียหาย และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็ง และหลอดเลือดสมอง

ข้อมูลโภชนาการกุ้งต้มขนาดกลาง 10 ตัว

  • พลังงาน: 45.5 กิโลแคลอรี
  • ไขมัน: 0.7 กรัม
  • โซเดียม: 174 มิลลิกรัม
  • คาร์โบไฮเดรต: 0 กรัม
  • โปรตีน: 8.7 กรัม

ข้อควรระวังในการบริโภคกุ้ง

  • อาการแพ้: กุ้งเป็นหนึ่งในอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้รุนแรงได้ เช่น หายใจลำบาก บวม หรือช็อก
  • สารปนเปื้อน: กุ้งบางชนิดอาจมีโลหะหนักหรือไมโครพลาสติก ควรเลือกกุ้งที่มาจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้

วิธีเลือกและเตรียมกุ้งอย่างปลอดภัย

  • เลือกกุ้งสดที่แช่เย็นหรือวางบนก้อนน้ำแข็ง และไม่มีกลิ่นคาวแรง
  • กุ้งดิบควรมีเปลือกใส สีมุก และตาใสไม่ขุ่น
  • หากแช่แข็ง ควรละลายน้ำแข็งในตู้เย็นหรือแช่ในน้ำเย็นก่อนปรุง
  • ปรุงให้สุกที่อุณหภูมิอย่างน้อย 145°F (62.8°C) เพื่อฆ่าเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงการทอด ควรเลือกวิธีต้ม นึ่ง หรือย่างด้วยน้ำมันเพื่อสุขภาพ เช่น น้ำมันอะโวคาโด

สรุป

กุ้งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง ไขมันต่ำ และมีสารอาหารสำคัญต่อสุขภาพหัวใจและภูมิคุ้มกัน การรับประทานกุ้งในปริมาณพอเหมาะร่วมกับอาหารที่หลากหลาย จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะเมื่อปรุงอย่างถูกสุขลักษณะและหลีกเลี่ยงการทอด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล