รู้จัก "ผักลืมผัว" ผักพื้นบ้านชื่อแปลก อร่อยจนได้ชื่อ กินแล้วจะลืมจริงไหม?
Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
//s.isanook.com/wo/0/ud/52/263233/pak.jpgรู้จัก "ผักลืมผัว" ผักพื้นบ้านชื่อแปลก อร่อยจนได้ชื่อ กินแล้วจะลืมจริงไหม?

รู้จัก "ผักลืมผัว" ผักพื้นบ้านชื่อแปลก อร่อยจนได้ชื่อ กินแล้วจะลืมจริงไหม?

แชร์เรื่องนี้

ผักลืมผัวคืออะไร?

ผักลืมผัว หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Lobelia thorelii E. Wimm. เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ Campanulaceae พบได้บ่อยตามคันนาและหัวไร่ปลายนา โดยเฉพาะพื้นที่ดินทราย เมื่อถึงฤดูเกี่ยวข้าวจะออกดอกสีม่วงสดใสปกคลุมเป็นผืนสวยงาม

ที่มาของชื่อชวนสะดุด

แม้ชื่อจะดูแปลกและชวนสงสัย แต่แท้จริงแล้ว ผักลืมผัวไม่ได้ทำให้ลืมสามี หากแต่มีที่มาจากความอร่อย เวลากินสดกับน้ำพริก ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกปลาร้าบองหรือน้ำพริกจรั๊วะโดง อร่อยจนภรรยากินเพลิน ลืมเก็บไว้ให้สามี จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเล่นชวนยิ้มนี้

การเก็บและการกิน

วิธีเก็บที่นิยมคือหาโคนต้นแล้วดึงขึ้นจากผืนทราย จะได้ทั้งต้นพร้อมกิ่งก้าน ชาวบ้านนำมารับประทานสดคู่กับน้ำพริกนานาชนิด โดยสามารถกินได้ทั้งต้น

ลักษณะของผักลืมผัว

ผักลืมผัวเป็นไม้ล้มลุกอายุปีเดียว กิ่งก้านแผ่แนบไปตามพื้นดิน ใบเดี่ยวเรียงเวียน ใบโคนมักกลม ส่วนใบด้านบนรูปไข่ ขอบหยักไม่เป็นระเบียบ เส้นใบนูนชัดเจน ดอกมีลักษณะเดี่ยวหรือติดเป็นช่อเล็กที่ปลายยอด สีม่วงสด ผลและรังไข่มีขน เมล็ดเป็นทรงสามเหลี่ยม

การกระจายพันธุ์และความหายาก

ผักชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดและกระจายพันธุ์จำกัด พบเฉพาะในไทยและลาว ส่วนกัมพูชามีโอกาสพบได้ แต่ยังไม่มีรายงานชัดเจน ปัจจุบันกลับหายากขึ้น เนื่องจากพื้นที่เกษตรนิยมใช้ยาฆ่าหญ้า ทำให้ผักลืมผัวค่อย ๆ ลดจำนวนลง

เกร็ดทางวิชาการ

คำระบุชนิด “thorelii” ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Clovis Thorel ผู้เคยเดินทางสำรวจลุ่มแม่น้ำมูลและโขงในช่วงปี ค.ศ. 1866–1868

สรุป

แม้ชื่อจะชวนให้สงสัย แต่ผักลืมผัวเป็นเพียงผักพื้นบ้านหายากที่มีรสชาติอร่อย กินกับน้ำพริกได้อย่างเข้ากัน ถือเป็นอีกหนึ่งพืชท้องถิ่นที่สะท้อนวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของคนไทย หากพบเจอจึงนับว่าพิเศษ เพราะในปัจจุบันเริ่มหาดูได้ยากแล้ว

เอกสารอ้างอิง:
de Wilde, W. J. J. O. & Duyfjes, B. E. E. (2014). Campanulaceae. In: T. Santisuk & H. Balslev (eds.), Flora of Thailand 11(4): 517–537. The Forest Herbarium, Bangkok.
ที่มา : หอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :หอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ภาพ :ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช