ดูแลสัตว์เลี้ยงในหน้าฝนอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ป่วย ไม่เครียด

ฤดูฝนไม่ได้ส่งผลแค่กับคน แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของสัตว์เลี้ยงหลายชนิด ทั้งสุนัข แมว หรือสัตว์เล็กในบ้าน เช่น กระต่ายและหนูแฮมสเตอร์ โดยเฉพาะเมื่อสภาพอากาศชื้นเป็นเวลานาน ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคผิวหนัง พยาธิ รวมถึงภาวะเครียดจากฟ้าร้องและเสียงฝนตกหนัก
วิธีดูแลสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยในหน้าฝน
1. ดูแลสัตว์เลี้ยงด้วยการรักษาความสะอาด
- เช็ดตัวทันทีหลังเปียกฝน โดยเฉพาะบริเวณอุ้งเท้า ซอกหู และขาหนีบ
- เป่าขนให้แห้งสนิทเพื่อลดความเสี่ยงของเชื้อราและกลาก
2. ระวังพยาธิและเห็บหมัด
- ฤดูฝนเป็นช่วงที่เห็บหมัดและพยาธิชอบมากที่สุด
- แนะนำให้ใช้ยาหยดหลังหรือยากินป้องกันอย่างสม่ำเสมอภายใต้คำแนะนำของสัตวแพทย์
3. ปรับสภาพแวดล้อมให้แห้งและอบอุ่น
- ดูแลสัตว์เลี้ยงด้วยการเปลี่ยนที่นอนให้เป็นวัสดุที่แห้งง่าย เช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์
- หลีกเลี่ยงการปูผ้าหนา หรือผ้าขนสัตว์ที่อมน้ำ
4. ลดความเครียดจากเสียงฟ้าร้อง
- จัดมุมสงบให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกปลอดภัย เช่น ใต้โต๊ะหรือห้องเงียบ
- สำหรับสัตว์ที่กลัวเสียงดังมาก อาจปรึกษาสัตวแพทย์เรื่องยาคลายเครียดแบบอ่อน
5. ใส่ใจอาหารและน้ำดื่ม
- หมั่นเปลี่ยนน้ำดื่มทุกวัน หลีกเลี่ยงน้ำที่มีเศษฝุ่นหรือมีการปนเปื้อนจากอากาศชื้น
- อาหารควรเก็บในที่แห้งและปิดสนิท เพื่อป้องกันเชื้อรา
หน้าฝนควรพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่นไหม
หากฝนตกหนักและอากาศชื้นต่อเนื่อง แนะนำให้เลี่ยงการพาออกนอกบ้าน
- ถ้าจำเป็นต้องพาออก ควรใช้เสื้อกันฝนสำหรับสัตว์และเช็ดตัวให้แห้งทันที
- หลังกลับเข้าบ้านควรล้างเท้าและเช็ดให้แห้ง เพื่อลดโอกาสสะสมเชื้อ
- ออกกำลังกายในบ้าน เช่น เล่นของเล่น หรือฝึกคำสั่งเล็กๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดี
หมั่นเช็กสุขภาพคือสิ่งที่สำคัญในหน้าฝน
ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น คันตามผิวหนัง เลียตัวบ่อย เบื่ออาหาร หรือขนร่วงผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรืออาการเครียดที่ต้องได้รับการดูแล หากพบสิ่งผิดปกติควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
หน้าฝนคือช่วงเวลาที่ต้องเพิ่มความใส่ใจเป็นพิเศษ การดูแลสัตว์เลี้ยงให้สะอาด แห้ง และรู้สึกปลอดภัย จะช่วยให้พวกเขาห่างไกลจากโรคและความเครียด อย่าลืมเช็กสุขภาพเป็นประจำ และปรึกษาสัตวแพทย์หากมีอาการผิดปกติ