หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าผักกูดเป็นพืชผักชนิดหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว ผักกูดจัดเป็นเฟิร์นชนิดหนึ่งที่มีลำต้นเป็นเหง้าตั้งตรง ลักษณะเด่นคือใบอ่อนที่ม้วนงอคล้ายหอยทาก ซึ่งเป็นส่วนที่เรานำมารับประทานกันทั่วไป ใบของผักกูดเมื่อยังอ่อนจะประกอบแบบขนนกชั้นเดียว แต่เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะเป็นใบประกอบแบบสองชั้น
ผักกูดมีหลายสายพันธุ์ โดยแต่ละชนิดจะมีรสชาติแตกต่างกันออกไป บางชนิดมีรสขม บางชนิดมีขนปกคลุม แต่โดยทั่วไปแล้วส่วนใหญ่สามารถนำมารับประทานได้ นอกจากรสชาติที่หลากหลายแล้ว ผักกูดยังมีสรรพคุณทางยาที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์อีกด้วย
ผักกูด 100 กรัม (ส่วนที่รับประทานได้) อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่น่าสนใจ โดยให้พลังงาน 19 กิโลแคลอรี พร้อมเส้นใยอาหาร 1.4 กรัม ที่ช่วยในการขับถ่าย นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญ เช่น แคลเซียม 5 มิลลิกรัม ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน เหล็ก 36.3 มิลลิกรัม ที่ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง และฟอสฟอรัส 35 มิลลิกรัม ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ยิ่งไปกว่านั้น ผักกูดยังเป็นแหล่งของวิตามินที่หลากหลาย อาทิ วิตามินเอ ซึ่งจำเป็นต่อสายตาและผิวพรรณ วิตามินบี 1 ที่ช่วยในการเผาผลาญอาหาร วิตามินบี 2 ที่ช่วยบำรุงสายตา และวิตามินบี 3 ที่ช่วยในการทำงานของระบบประสาท
ผักกูดเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย ช่วยบำรุงร่างกายและรักษาโรคได้หลายชนิด โดยเฉพาะส่วนของใบที่นำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ดังนี้
นอกจากนี้ ผักกูดยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยขับปัสสาวะ และช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย