10 สุดยอดอาหารมีฤทธิ์เป็นด่าง ลดอาการกรดไหลย้อน

10 สุดยอดอาหารมีฤทธิ์เป็นด่าง ลดอาการกรดไหลย้อน

10 สุดยอดอาหารมีฤทธิ์เป็นด่าง ลดอาการกรดไหลย้อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไลฟ์สไตล์และการกินอยู่แบบสมัยใหม่ ทำให้ผู้คนป่วยเป็นกรดไหลย้อน โรค GERD และอาการข้างเคียงมากขึ้น โดยเฉพาะอาการแสบร้อนกลางอก ซึ่งพบได้บ่อยและทรมาน บางรายถึงขั้นส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน คนเป็นกรดไหลย้อนบางคนอาจควบคุมอาหารและเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพื่อลดโอกาสเกิดอาการกำเริบหรือรุนแรง ขณะที่บางคนก็มีอาหารที่เชื่อว่าช่วยบรรเทาอาการได้ การจำกัดอาหารเป็นกรด และทดแทนด้วยอาหารมีฤทธิ์เป็นด่างจึงมีแนวโน้มลดอาการแสบร้อนกลางอกได้ โดย 10 อาหารฤทธิ์ด่างช่วยลดกรดไหลย้อนได้ทั้งสิ้น

10 อาหารฤทธิ์ด่างช่วยลดกรดไหลย้อน

1.ผักโขม

แม้ผักโขมจะมีค่า pH อยู่ที่ 5.5-6.8 ซึ่งจัดเป็นกรดอ่อน แต่กลับมีฤทธิ์ปรับสมดุลกรด-ด่างในร่างกายไปทางเบส เนื่องจากมีคลอโรฟิลล์และแร่ธาตุต่างๆ ที่ออกฤทธิ์เป็นเบส ผักโขมยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ซึ่งมีส่วนช่วยปรับสมดุลกรด-ด่าง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโลหิตจาง ชะลอวัย เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ สรุปคือแม้ผักโขมจะจัดเป็นกรดอ่อน แต่มีคุณสมบัติเสริมสร้างความเป็นเบสในร่างกาย และมอบประโยชน์ดีๆ มากมาย จึงเหมาะแก่การนำมาผสมผสานในอาหาร

2.อะโวคาโด

อะโวคาโด เป็นผลไม้แสนอร่อยและทรงคุณค่า อุดมไปด้วยไขมันดี ช่วยลดการอักเสบ ดีต่อหัวใจ และยังอัดแน่นไปด้วยโพแทสเซียม โฟเลท ไฟเบอร์ ซิลิเนียม วิตามิน A, B5, C, K และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีน อัลฟาแคโรทีน และลูเทอิน รับประทานอะโวคาโดเป็นประจำ อาจช่วยลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย และส่งเสริมสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง

3.ขึ้นฉ่ายฝรั่ง

ขึ้นฉ่ายฝรั่งเป็นผักที่มีฤทธิ์เป็นเบ สและช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ อุดมไปด้วยวิตามิน A, B, C และ K แมกนีเซียม แคลเซียม ไฟเบอร์ โพแทสเซียม โฟเลต และฟอสฟอรัส การทานขึ้นฉ่ายฝรั่งยังช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งบางชนิด ลดคอเรสเตอรอล ลดการอักเสบในร่างกาย

4.แตงกวา

แตงกวา แม้จะมีค่า pH ที่เป็นกรดอ่อน (5.1-5.7) แต่กลับมีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลกรด-ด่างในร่างกายไปทางเบส เพราะมีปริมาณน้ำสูง ช่วยกระตุ้นการขับของเสีย แตงกวายังเป็นแหล่งวิตามิน B C และ K ที่ดีเยี่ยม การผสมแตงกวาในอาหาร ช่วยเติมแร่ธาตุอย่างทองแดง โพแทสเซียม ไฟเบอร์ แมกนีเซียม ซิลิกา ฟอสฟอรัส และแมงกานีส อีกด้วย สรุปคือ แม้เป็นกรดอ่อน แต่คุณสมบัติเด่นในแง่ปรับสมดุลกรด-ด่าง เสริมแร่ธาตุ วิตามิน และส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม

5.ใบอ่อนข้าวสาลี

ใบอ่อนข้าวสาลีมีค่า pH เป็นกรดอ่อน (6.7) แต่เมื่อร่างกายเรารับประทานเข้าไป จะกลายเป็นเบส (pH 9) เนื่องจากมีคลอโรฟิลล์และสารอาหารที่มีฤทธิ์เป็นเบสสูง โดยอุดมไปด้วยกรดอะมิโน ชีวิตะมินบี วิตามิน A, C, D, E และสารอาหารอื่นๆ อีกมากมาย สรุปคือ ใบอ่อนข้าวสาลี เป็นอาหารที่มีคุณสมบัติปรับสมดุลกรด-ด่างในร่างกายไปทางเบส พร้อมด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ส่งผลดีต่อสุขภาพ

6.บร็อคโคลี่

เป็นผักยอดนิยมที่มีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลกรด-ด่างในร่างกายไปทางเบสด้วยค่า pH อยู่ที่ 6.3-6.85 นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญฮอร์โมนเอสโตรเจน บรรเทาอาการจากภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไป บร็อคโคลี่ยังอุดมไปด้วยโปรตีน โฟเลท ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แมงกานีส และไฟเบอร์ จัดเป็นผักที่ทรงคุณค่าทั้งต่อการปรับสมดุลกรด-ด่างและสารอาหารสำคัญต่างๆ เหมาะแก่การนำมาใส่ในอาหารเป็นประจำ

7.เคล

ผักใบเขียวชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลกรด-ด่างในร่างกายไปทางเบส อุดมไปด้วยวิตามิน A, C และ K นอกจากนี้ยังมีแมงกานีส ทองแดง แคลเซียม แมกนีเซียม โปรตีน ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก สารต้านอนุมูลอิสระในผักเคลมีส่วนช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรง

8.แครอท

ครอท มีค่า pH 5.8-6.4 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทานอาหารสายเบส เพราะไม่กระตุ้นกรดไหลย้อน กลับมีฤทธิ์ปรับสมดุลกรด-ด่าง ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอก แถมยังอัดแน่นไปด้วยสารอาหาร แครอทขนาดกลาง 1 ลูก ให้วิตามิน A มากกว่า 200% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน พร้อมโปตัสเซียมในปริมาณที่ดี นอกจากนี้ยังแคลอรี่และคาร์โบไฮเดรตต่ำ เหมาะสำหรับการลดน้ำหนัก และมีไฟเบอร์สูง ช่วยระบบย่อยอาหาร

9.ถั่วเหลือง

เหมาะสำหรับสายกินพืช ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ผลิตฮอร์โมนและเอนไซม์ มีค่า pH ใกล้เคียงกับเบส ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ต้องการลดอาหารเป็นกรด อร่อยหลากหลาย ทานกับข้าว ใส่ซุป สลัด ก็ลงตัว

10.เต้าหู้

เต้าหู้มีค่า pH 7.2 เหมาะเป็นทางเลือกสายเบส ทดแทนเนื้อหรือปลา ได้รับคุณค่าดีๆ ทำจากถั่วเหลือง เสริมโปรตีน ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ไขมันต่ำ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบด้วยสารลดการอักเสบ ดีต่อสุขภาพโดยรวม

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook