เมล็ดอะโวคาโดกับวิธีการนำมาใช้ประโยชน์แบบคนญี่ปุ่น

เมล็ดอะโวคาโดกับวิธีการนำมาใช้ประโยชน์แบบคนญี่ปุ่น

เมล็ดอะโวคาโดกับวิธีการนำมาใช้ประโยชน์แบบคนญี่ปุ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้จะเป็นผลไม้ที่นำเข้ามาจากแม็กซิโกและชิลี แต่คนญี่ปุ่นนิยมทานอะโวคาโดมาก เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินอีซึ่งช่วยป้องกันการแก่ก่อนวัยแล้ว อะโวคาโดก็ยังอุดมไปด้วยกรดโอเลอิกซึ่งช่วยลดไขมันชนิดไม่ดีในร่างกายและช่วยป้องกันไม่ให้มีการสะสมของไขมันในเส้นเลือด นอกจากการนำมาทานแล้ว คนญี่ปุ่นก็ยังนำเมล็ดอะโวคาโดมาใช้ประโยชน์อย่างอื่นด้วย มารู้ประโยชน์ของเมล็ดอะโวคาโดดังต่อไปนี้นะคะ

ใช้ปลูกเพื่อประดับบ้าน

เมล็ดอะโวคาโดมีขนาดใหญ่และมีลักษณะคล้ายรูปไข่ การเพาะเลี้ยงในน้ำจะทำให้ได้ต้นอะโวคาโดเก๋ๆ ใช้ประดับบ้านเพิ่มสีสีเขียวให้แก่บ้านได้  โดยมีวัตถุดิบดังนี้คือ ขวดแก้วหรือพลาสติก เมล็ดอะโวคาโด และไม้จิ้มฟัน 3-4 อัน

วิธีการปลูก

1. เติมน้ำจนปริ่มขวดแก้วหรือขวดพลาสติก

2. ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปบริเวณใกล้ฐานของเมล็ด แต่ไม่จิ้มจนลึก เพราะอาจจะไปทำลายเนื้อเยื่อที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของต้นอะโวคาโดได้ จากนั้นจึงนำเมล็ดไปวางบนขวดแก้วหรือพลาสติกที่เติมน้ำรอไว้ ไม้จิ้มฟันจะป้องกันไม่ให้เมล็ดอะโวคาโดจมน้ำ

3. นำไปวางในที่โดนแสงและคอยดูแลเปลี่ยนน้ำเมื่อน้ำขุ่น รอประมาณ 1 เดือน ก็จะได้ต้นอะโวคาโดน่ารักไว้ประดับบ้าน หากต้องการจะนำต้นอะโวคาโดลงดินก็ย้ายต้นอ่อนลงกระถางและวางไว้ในที่โดนแสง

ชาเมล็ดอะโวคาโด

คนญี่ปุ่นนำเมล็ดอะโวคาโดมาทำเป็นชาและใช้ดื่มเพื่อการลดน้ำหนักและดีท็อกซ์ เนื่องจากเมล็ดอะโวคาโดอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยดูดซับไขมันส่วนเกินในลำไส้และขับออกทางอุจจาระ นอกจากนี้เมล็ดอะโวคาโดยังอุดมไปด้วยโพลีฟีนอล ได้แก่คาเทชิน ซึ่งช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น มะเร็ง ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ และกรดคลอโรจีนิก (Chlorogenic acid) ซึ่งมีผลช่วยในการเผาผลาญไขมัน เหมาะสำหรับคนที่อยู่ในช่วงที่กำลังลดและควบคุมน้ำหนัก

วิธีการทำชาเมล็ดอะโวคาโดวัตถุดิบ

เมล็ดอะโวคาโด 1 เมล็ด และน้ำ 1.5 ลิตร

วิธีการทำ

1. นำเมล็ดอะโวคาโดมาล้างให้สะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้ง แล้วใช้มีดหั่นครึ่ง และนำแต่ละครึ่งมาหั่นให้มีความกว้างประมาณ 5 มิลลิเมตร ในขณะหั่นควรระวังมือด้วยเพราะเมล็ดอะโวคาโดลื่น

2. นำเมล็ดอะโวคาโดที่หั่นเสร็จมาต้มในน้ำด้วยไฟกลางจนเดือด จากนั้นต้มเคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 30  นาที แล้วจึงปิดไฟ นำชาที่ได้มาดื่มวันละ 2 ถ้วย ชาที่เหลือก็เก็บใส่ตู้เย็นไว้ดื่มได้อีก 2-3 วัน หากรสชาติของชาไม่ค่อยอร่อยก็สามารถเติมมะนาวหรือเลมอนลงไปเพื่อให้ดื่มง่ายขึ้นได้

หากชอบทานอะโวคาโดก็อย่าทิ้งเมล็ดไปนะคะ ผู้เขียนเองก็เอามาปลูกประดับไว้ในบ้าน แล้วก็ยังคิดต่อไปเลยว่าบ้านเรามีเมล็ดทุเรียนขนาดใหญ่ หากเอามาลองปลูกประดับบ้านแบบเมล็ดอะโวคาโดก็คงเก๋ดี พอโตขึ้นหน่อยก็เอาปลูกลงดินต่อไปค่ะ

สรุปเนื้อหาจาก excite, lovegreen

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook