7 เรื่อง “บ้าน” ที่เปลี่ยนไปหลังโควิด-19 ระบาด

ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 “บ้าน” ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่พักผ่อนเท่านั้น แต่บ้านยังเปลี่ยนไปเป็นสำนักงานชั่วคราว โรงยิม ห้องเรียน ร้านอาหาร ค็อกเทลบาร์ ฯลฯ ด้วย หลายๆ กิจกรรมเกิดขึ้นภายใต้หลังคาเดียวกันทุกวัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นห้องสตูดิโอขนาดกะทัดรัด บ้านหลังใหญ่ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ เข้าไปในบ้าน และนี่คือวิธีการที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการออกแบบภายในจะเปลี่ยนไปหลังการระบาดของไวรัสโคโรนา

1.พื้นที่ทำงานในบ้านใหญ่ขึ้น

นโยบายการทำงานจากที่บ้านนั้นทำให้หลายๆ คนเปลี่ยนไปใช้ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ฯลฯ หรือห้องต่างๆ ที่มีอยู่ทำหน้าที่เป็นสำนักงานชั่วคราว ในอนาคตนั้นเจ้าของบ้านอาจต้องสนใจเรื่องของการทำให้พื้นที่สำนักงานที่บ้านนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะมีบางบริษัทที่อนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้านอย่างถาวร

2.กำหนดโถงเข้าบ้าน และทางเข้าบ้าน

เนื่องจากบางครั้งเราต้องออกไปนอกบ้านเพื่อซื้อของ และเราสามารถนำเชื้อโรคติดเข้ามาในบ้านของเรา ดังนั้นบริเวณโถงเข้าบ้าน หรือทางเข้าบ้านได้กลายเป็นจุดที่เราจะถอดหน้ากากออก และของวางลงบนพื้น ก่อนจะไปล้างมือ สถาปนิกด้านการตกแต่งภายในที่ลอสแองเจลิสคาดการณ์ว่าพฤติกรรมใหม่ๆ เหล่านี้จะทำไปสู่การเกิดขึ้นของโถงเข้าบ้าน และทางเข้าบ้าน ซึ่งจะเป็นสถานที่สำหรับถอดรองเท้า แจ๊คเก็ต ถุงเก็บสัมภาระ ซึ่งจะช่วยลดเชื้อโรคและแบคทีเรียไม่ให้เข้าไปในบ้าน

3.พื้นที่ส่วนตัว

สำหรับครอบครัวที่อยู่ภายในหลังคาเดียวกันจะเน้นความต้องการพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนเพิ่มมากขึ้น โดยแต่ละคนสามารถเพลิดเพลินไปกับเวลาที่ตนเองจะได้อยู่คนเดียว หรือบางคนก็อาจจะแยกส่วนของสำนักงานออกมาจากบ้าน รวมไปถึงการแยกห้องนอนเด็กให้เป็นสัดส่วน ดังนั้นเลย์เอาต์บ้านจึงมีการแบ่งเป็นสัดส่วนมากกว่าเป็นพื้นที่แบบเปิดโล่งถึงกันหมด

4.การออกแบบห้องครัวที่พิถีพิถันมากขึ้น

เมื่อได้อยู่บ้านมากขึ้น การทดลองทำอาหารกลายเป็นงานอดิเรกใหม่สำหรับหลายๆ คน ดังนั้นจึงมีการทำอาหารบ่อยขึ้น และซื้อของชำบ่อยครั้งขึ้น ดังนั้นจึงมีการคาดการณ์ว่าคนต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำอาหารด้วยการออกแบบห้องครัวที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บของอย่างเป็นระเบียบ เครื่องใช้แบบพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้เชฟมือสมัครเล่นได้ทำอาหารในสไตล์ร้านอาหารแต่ทำอยู่ที่บ้าน

5.พื้นผิวที่ถูกสุขอนามัย

ในอนาคตห้องครัวกับห้องน้ำหรือบริเวณที่มีการสัญจรไปมาสูง อาจถูกออกแบบด้วยการใช้พื้นผิวที่ง่ายต่อการทำความสะอาดเช่นกระเบื้อง เซรามิกเคลือบ และวัสดุที่ป้องกันแบคทีเรีย ทั้งนี้ก็เพื่อกำจัดการแพร่กระจายของเชื้อโรค

6.เพิ่มความบันเทิงภายในบ้าน

ความคิดที่ว่าบ้านเป็นสถานที่ปลอดภัยนั้นน่าจะมีแนวโน้มเป็นเช่นนั้นไปอีกยาวนาน เมื่อคนในครอบครัว และเพื่อนได้มารวมตัวกันอีกครั้ง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าความบันเทิงภายในบ้านจะกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นกว่าเดิม เพราะมีความปลอดภัยมากกว่าการออกไปข้างนอก ทั้งบาร์บีคิวในสวนหลังบ้าน เป็นต้น

7.นิสัยการช้อปปิ้งแบบใหม่

ในขณะที่คนคิดเรื่องการตกแต่งบ้านมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าหลายคนจะลงทุนกับเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งที่คุ้มค่า นั่นคือยอมลงทุนกับเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง