รวมวิธีกำจัด “รา” ผู้ร้ายในบ้าน ตั้งแต่แบบเบื้องต้นไปจนถึงฆ่าเชื้อหายเกลี้ยง
จากข่าวที่นักแสดงดาวร้ายเอ็ม-อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล ออกมาโพสต์ระบายความในใจเกี่ยวกับบ้านมูลค่า หลายสิบล้านบาทโดนฝนสาด เกิดความชื้นอย่างหนัก จนข้าวของภายในบ้านเกิดความเสียหาย Sanook! Home เลยอยากแนะนำวิธีกำจัดเชื้อราภายในบ้าน สำหรับเป็นคู่มือให้กับบ้านที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้
>> ช้ำใจ "เอ็ม อภินันท์" ซื้อบ้านหรู 30 ล้าน พบปัญหาฝนสาดเข้าบ้าน จนเจ้าตัวช็อกไปเลย
istockistock
เชื้อราที่เกิดขึ้นบนเฟอร์นิเจอร์ หรือข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน เพราะความอับชื้น หากปรากฏขึ้นเป็นจำนวนมาก นอกจากจะไม่สวยงามแล้วยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย แม้ราจะมีหลายประเภทและแต่ละชนิดก็มีผลต่อสุขภาพแตกต่างกัน และที่แน่นอนคือเมื่อมีราเกิดขึ้นไม่ว่าส่วนใดของบ้าน ต้องกำจัดออก
istockistock
วิธีการกำจัดราในบ้านมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
เริ่มต้นจากการพิจารณาสำรวจพื้นที่ที่มีเชื้อราในบ้านก่อน
1.พิจารณาว่ารานั้นขึ้นมากและกินบริเวณกว้างมากไหม รวมทั้งเป็นราที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือขึ้นมานานแล้ว สำหรับวิธีสังเกตว่าขึ้นมานานแล้วหรือเพิ่งขึ้นคือดูว่ามันฟูมากไหม เป็นขยุ้มหรือเป็นจุดเล็กๆ ถ้าเป็นในห้องน้ำมักจะเป็นพวกไม่ฟู ถ้าเป็นอาหาร ไม้ โดยเฉพาะ particle board ที่เป็นส่วนของเฟอร์นิเจอร์ จะฟู (ถ้าขึ้นมาเกิน 1 สัปดาห์แล้ว)
2.เตรียมความพร้อมสำหรับทำความสะอาด ด้วยการสวมหน้ากาก ถุงมือพลาสติก เสื้อผ้าที่สวมใส่ควรรัดกุม
3.สำรวจพื้นที่ที่มีราขึ้นว่าขึ้นบริเวณใด สภาพแวดล้อมบริเวณนั้นเป็นอย่างไร แห้ง ชื้นหรือเปียก
4.สำรวจบริเวณที่จะทำความสะอาดว่ามีของวางเกะกะหรือเปล่า เช่นมีเฟอร์นิเจอร์ โซฟา หมอนหนุนอยู่ในบริเวณนั้นหรือเปล่า หากขึ้นที่จุดใดจุดหนึ่งที่เป็นจุดร่วม ต้องค่อยๆ หยิบออกวางทีละชิ้นแล้วเคลียร์เพราะของทุกชิ้นจะได้รับผลกระทบร่วมกันหมด เพราะรามีลักษณะเป็นเส้นใยสามารถชอนไช แผ่ขยายเหมือนตาข่าย ดังนั้นถ้าจะทำความสะอาดจุดใดต้องจัดการบริเวณใกล้เคียงด้วย
5.สังเกตพื้นผิวที่กำจัดก่อนว่าเรียบหรือขรุขระ หรือมีรูพรุน
6.กำหนดบริเวณที่ทำความสะอาด จากนั้นหากระดาษหนังสือพิมพ์มาปูรอบๆ พื้นบริเวณนั้น แล้วสเปรย์น้ำหมาดๆ ลงบนกระดาษก่อนกำจัดรา ถ้าเป็นห้องนอนต้องหาผ้ามาคลุมเตียง
7.ในส่วนของการสำรวจนั้นไม่ควรเปิดพัดลมเพราะจะทำให้เชื้อราลอยฟุ้ง
istockistock
วิธีทำความสะอาดเชื้อรา
1.ถ้าพื้นที่ที่ราขึ้นแห้ง ห้ามเช็ดแบบแห้งเป็นอันขาดเพราะถ้ามีสปอร์มันจะลอยฟุ้งไปทั่วห้อง หรือเข้าจมูก ปาก ตา ซึ่งจะทำให้เกิดอันตราย ดังนั้นต้องทำให้พื้นที่นั้นชื้นเล็กน้อย โดยใช้กระดาษทิชชูซ้อนทับหลายๆ ชั้นชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดจากล่างขึ้นบน ซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้ายก็ได้ (สำหรับกรณีราเป็นแบบฟู) แนะนำว่าเวลาเช็ดให้เช็ดแบบทีเดียวทิ้ง อย่าเช็ดซ้ำ
2.ใช้น้ำสบู่เหลว จะมีส่วนผสมของการฆ่าเชื้อหรือแบบธรรมดาก็ได้ ผสมน้ำเล็กน้อยแล้วเช็ดซ้ำ
3.เสร็จแล้วให้ใช้น้ำเช็ดซ้ำ
istockistock
ขั้นตอนการฆ่าเชื้อรา
1.เทน้ำส้มสายชูใส่กระดาษทิชชูพอหมาดๆ (ไม่แนะนำให้ใช้ผ้าเพราะใช้แล้วต้องซัก ไม่ดีแน่ เพราะควรใช้แล้วทิ้งไปเลย) หรือจะใส่ขวดสเปรย์ก็ได้ จากนั้นสเปรย์ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วค่อยเช็ดออก สำหรับวิธีนี้กำจัดเชื้อราได้ประมาณ 80 % แต่ไม่ถึงขั้นฆ่าสปอร์
2.Tea tree oil ใช้ 2 ช้อนชาในน้ำ 2 ถ้วย ใส่ขวดสเปรย์เบาๆ บนบริเวณที่ต้องการแล้วเช็ด เหลือเก็บใส่ขวดเก็บไว้ใช้ได้นาน
3.Grapefruit seed extract ใช้ 20 หยด ใส่ในน้ำ 2 ถ้วย ใส่ขวดสเปรย์เบาๆ บนบริเวณที่ต้องการแล้วเช็ด
ส่วนสารฆ่าเชื้อราที่เข้มข้นกว่าประกอบด้วย
1. แอลกอฮอล์ (ethanol, isopropanol)ใช้ที่ความเข้มข้น 60 - 90%. ควรให้ระยะสัมผัส อย่างน้อย 5-10 นาที
2. Chlorox bleach หรือ sodium hypochlorites สารนี้ส่วนใหญ่จะรู้จักกัน เป็นสารประกอบคลอรีน มีฤทธิ์ในการทำลายเชื้ออย่างกว้างขวาง มีราคาถูก และออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว สารละลาย hypochlorite เสื่อมสภาพได้เร็ว ประสิทธิภาพจะลดลงเมื่อสัมผัสอินทรียสาร จึงควรเตรียมใหม่เมื่อใช้และเก็บในภาชนะที่ป้องกันแสง ใช้อัตราส่วน 1:10
3.ไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ (hydrogen peroxide)ใช้ที่ความเข้มข้น 3-6 % แต่ตัวนี้ระยะเวลาสัมผัสใช้ต้องใช้เวลานานหน่อย (แช่ไว้)
4. ไอโอโดฟอร์ (Iodophore)ใช้ฆ่าสปอร์ได้ที่ความเข้มข้น 75 ppm (ส่วนในล้านส่วน) ระยะเวลาสัมผัสใช้ต้องใช้เวลานานเช่นกัน