“GREAT DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้”

“GREAT DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้”

“GREAT DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค (Unilever Network)” ธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงสุด นำโดย จิรชีพ เฮ้ง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ประเทศไทย บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ต้อนรับผู้สนใจที่ต้องการคว้าโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ โอกาสในการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ กับยูนิลีเวอร์ ในงาน “GREAT DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้” ณ อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่หลายร้อยคน ที่สนใจเข้าร่วมงาน พร้อมรับฟังการแชร์ประสบการณ์แห่งความสำเร็จจากเหล่าบุคคลต้นแบบทั้ง 7 ที่ประสพความสำเร็จกับการเป็นคู่ค้าร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างยูนิลีเวอร์ เช่น ชุมพล เหลืองบรรเจิด Area Executive Business Associate จากอดีตวิศวกรหนุ่มที่ไม่ชอบธุรกิจเครือข่าย แต่ปัจจุบันขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารสโมสร 10 ล้าน พร้อมค้นพบแก่นแท้ของการทำธุรกิจและรายได้มหาศาล และผู้ที่เข้าร่วมงานยังได้สัมผัสกับชุดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใหม่ล่าสุด อาวียองซ์ สาเก เนเชอรัล (aviance Sake Natural) ที่บำรุงผิวพรรณเพื่อความชุ่มชื้น นุ่มนวล ชะลอการเกิดริ้วรอย

ผู้บริหารสโมสร 10 ล้าน ชุมพล เหลืองบรรเจิด 1 ในบุคคลต้นแบบบริษัทที่ประสพความสำเร็จ เผยว่า “ผมจบมาทางด้านวิศวกรรมครับ และเป็นวิศวกรประจำอยู่บริษัทยักษ์ใหญ่บริษัทหนึ่ง ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ดูโรงงานต่างๆ เป็นงานประจำที่ทำในเวลานั้นดีมากๆ ครับ ได้เงินเดือนมากกว่าเพื่อนๆ ที่จบวิศวกรรมด้วยกันถึง 20% และโบนัสประมาณ 6-8 เดือน เพื่อนร่วมงานก็ดีมากๆ ครับ จนเมื่อเพื่อนคนสนิทโทรศัพท์มาให้มาดูโปรเจคหนึ่งที่ยูนิลีเวอร์ ผมคิดทันทีเลยครับเครื่องจักร โรงงาน แต่เพื่อนผมกลับบอกว่ามาเจอกันที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวนะ ผมงงมากครับโรงงานยูนิลีเวอร์อยู่ต่างหวัดไม่ใช่เหรอ สุดท้ายมาตามคำนัดของเพื่อนครับ และได้พบกับครีม เครื่องสำอาง เยอะแยะไปหมด ผมรู้ทันทีเลยว่าคือธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจที่ผมไม่ชอบ ธุรกิจที่ผมไม่เคยคิดทำ ธุรกิจที่ผมคิดว่ามันไม่ใช่ตัวผม แต่เพื่อนของผมกลับมีความสุขกับสินค้าเหล่านั้น เธอซื้อและสมัครเป็นผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ทันที พร้อมชวนให้ผมสมัครด้วย แต่ผมกลับตอบเธอไปว่า ไม่เป็นไร อยากทำอะไรทำเลย หลังจากนั้นไม่กี่วันเพื่อนคนนี้ก็โทรศัพท์กลับมาหาผม พร้อมกับบอกว่า สินค้าที่ซื้อมา มันดีมาก ดีเว่อร์ ผมฟังและรู้สึกว่าอะไรจะขนาดนั้น สุดท้ายเธอก็สามารถชวนคนให้เข้ามาฟังธุรกิจได้ 5 คน แต่ผมก็ยังไม่สนใจอยู่ดี ผมก็ยังคงทำงานของผมต่อไป งานที่ผมมองว่าดีที่สุด มั่นคงที่สุด

แต่แล้ววันหนึ่งก็มีเรียกประชุมด่วนขึ้นมา หัวหน้าในแผนกของผมถูกคำสั่งเด้งฟ้าผ่าจากบริษัทใหญ่ที่ญี่ปุ่น และการทำงานของพวกเราก็เปลี่ยนไปทันที บริษัทใหญ่เข้มงวดมากขึ้น หลายคนเริ่มหวาดระแวงวันไหนที่แจ็กพอตจะมาตกที่เรา ผมจึงเริ่มมองหาโอกาส มองหาธุรกิจสำรองที่จะมารองรับชีวิตหากต้องเจอกับวิกฤต ผมนึกถึงธุรกิจเครือข่ายที่เพื่อนคนสนิทผมสมัครทันที ผมจึงสมัครเป็นผู้ร่วมธุรกิจและเริ่มเข้ามาเรียนรู้ธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์คอย่างจริงจัง และได้พบกับอัพไลน์ที่พร้อมให้คำปรึกษา หลักของการทำธุรกิจนี้ก็ไม่ยากครับ เพียงใช้สินค้า แนะนำ และบอกต่อชวนคน แม้ว่าในตอนแรกที่ชวนใคร ก็ไม่มีใครให้ความสนใจ ผมท้อและคิดว่าธุรกิจนี้อาจไม่เหมาะกับเรา แต่อัพไลน์ของผมกลับชี้ทางสว่างให้เห็นว่า รู้ไหมคนรวยมองเห็นอุปสรรคเป็นอย่างไร เขามองเห็นอุปสรรคเป็นเพียงจุดดำเล็กๆ เขาจึงมีพื้นที่แห่งความสำเร็จมากมาย แต่หากเรามองเห็นอุปสรรคเป็นจุดดำใหญ่ๆ และเห็นชัดมากเท่าไร พื้นที่ความสำเร็จก็จะยิ่งลดลงตามไปด้วย เช่นเดียวกับการลงมือทำครับ วิธีคิดของคนจน คนปานกลาง และคนรวยก็ต่างกัน คนจนจะคิดว่าทำไม่ได้ คนปานกลางจะคิดว่าอยากทำ แต่ไม่ทำ ในขณะที่คนรวยจะคิดว่าอยากทำจังเลย และกับธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค คุณคิดแบบคนไหนครับ แต่ผมคิดแบบคนรวย เพราะผมมีเป้าหมายครับ ผมอยากมีรายได้จากการทำธุรกิจนี้เดือนละ 1 ล้านบาท แต่ถ้าผมคิดแบบคนรวยที่อยากลงมือทำ เป้าหมายที่ผมวางไว้สำเร็จแน่นอน แม้ว่าตลอดเวลา 10 ปีที่ผมได้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับยูนิลีเวอร์ ทำให้ปัจจุบันผมมีรายได้เป็นเลข 6 หลัก เพราะธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เป็นธุรกิจที่ทำให้ผมได้กับรายได้ที่ทวีค่า ทำให้ผมได้เป็นเจ้าของบ้านหลังสวยมูลค่า 12 ล้านบาท มีรถยนต์ยุโรปคันหรู

โลกภายนอกเรื่องของการแข่งขันมีอยู่ในทุกธุรกิจ แต่สำหรับธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค กลับเป็นธุรกิจที่มีแต่การให้ ดาวน์ไลน์หลายคนของผมหลายคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้นความสำเร็จของผมในวันนี้ ผมมองว่ามันเป็นส่วนที่เล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับการที่เรานำพาคนในทีมให้ประสพความสำเร็จไปพร้อมๆ กัน ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จที่ผมภูมิใจ ธุรกิจนี้ยังเปิดวิสัยทัศน์ให้กับผมมากมาย และยังทำให้คุณพ่อคุณแม่ผมได้เห็นโลกทัศน์ใหม่ๆ คือการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ผมเดินทางไปมาแล้ว 30 ประเทศ แต่คงไม่มีทริปไหนที่จะประทับใจที่สุด ได้เท่ากับทริปที่มีคุณพ่อคุณแม่เดินทางไปด้วย แม่เคยกอดผมพร้อมกับคำพูดที่ว่า แม่เป็นแม่ค้า ไม่เคยคิดฝันว่าจะได้มาต่างประเทศ กับพ่อเช่นเดียวกัน ลูกผู้ชายเราไม่พูดกันมากครับ แค่เห็นแววตาและรอยยิ้มของพ่อที่ได้ถ่ายรูปกันที่เมืองนอก ผมรับรู้ได้ถึงความสุขที่พ่อมีครับ แม้ว่าในตอนเริ่มต้นของการทำธุรกิจ ผมเริ่มต้นจากความไม่ชอบ แต่เพราะความไม่ชอบทำให้ผมกำลังทำในสิ่งที่ใช่ เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ชอบ ความสำเร็จต้องเริ่มต้นจากการลงมือทำ ทำไปเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ ความสำเร็จนั้นมันจะมาเองครับ”

เต็มอิ่มกับประสบการณ์ความสำเร็จจากผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ในงาน “GREAT DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้” ที่มาร่วมแชร์แบ่งปันเส้นทางสู่ความสำเร็จ ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้พบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต เพราะยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เชื่อว่า “เราทำได้ คุณทำได้”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook