แอบชอบเขาเราควรบอกไหม?

แอบชอบเขาเราควรบอกไหม?

แอบชอบเขาเราควรบอกไหม?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใครที่คลิกเข้ามาอ่านที่หัวข้อนี้ ขอทายว่าคุณกำลังประสบกับปัญหารักนะแต่ไม่แสดงออก แล้วมันก็กำลังก้ำกึ่งอยู่ระหว่าง จะไม่แสดงออกต่อไป หรือบอกรักออกไปให้มันรู้แล้วรู้รอด สถานการณ์ชวนสับสนเช่นนี้เรามีทางออกค่ะ

ไม่บอก...ดีกว่า
เมื่อเขียนมาถึงตรงนี้ภาพของเพื่อนสาวคนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันลอยมาเป็นฉากๆเลยค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่า มีเพื่อนชายต่างสาขามาชอบนาง พูดคุยกับนางทั้งทาง MSN(สมัยนั้น) และทางโทรศัพท์ ซึ่งทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนของผู้เขียนด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งสองพูดคุยกันไปเรื่อยๆ จนฝ่ายหญิงเริ่มหวั่นไหว และเธอผู้นี้ไม่เคยมีความรักมาก่อน นางจึงมาเล่าความรู้สึกให้ผู้เขียนฟัง ว่านางรู้สึกหวั่นไหว รู้สึกแปลกไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน บางทีก็ชอบไปส่อง Facebook ของเขาโดยไม่มีสาเหตุ พอฉันถามนางว่า ชอบเขาแล้วใช่ไหม นางก็บอกว่า นางรู้สึกดีแต่ไม่กล้าที่จะบอกความรู้สึก ส่วนฝ่ายชายก็มาปรับทุกข์กับผู้เขียน ว่าจะสารภาพรักกับเพื่อนสาวของผู้เขียนอย่างไรดี ฉะนั้นถ้าเป็นแบบนี้ผู้เขียนรู้แล้วว่าคนทั้งสองมีหัวใจที่ตรงกัน เลยบอกฝ่ายชายไปว่า ให้บอกรักไปเลย เพราะรู้อยู่ในใจแล้วว่าถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบอก ทั้งสองฝ่ายคงจะลงเอยกันได้ไม่ยาก แต่ผิดคาด ฝ่ายชายกลับไม่กล้าบอก ฝ่ายหญิงก็ไม่กล้าพูด จวบจนเรียนจบแยกย้ายไปทำงาน สุดท้ายทั้งสองต่างก็มีเส้นทางเป็นของตัวเองทั้งๆที่ใจตรงกัน อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงมีคำถามว่า แล้วทำไมผู้เขียน ซึ่งเป็นตัวกลางถึงไม่ยอมเชื่อมสายใยของทั้งสองให้มาเกี่ยวดองเป็นหนึ่งเดียว นั่นก็เป็นเพราะว่า ทั้งสองต่างย้ำนักย้ำหนาว่าอย่าไปบอกอีกฝ่าย แล้วอีกอย่าง เรื่องหัวใจมันเป็นเรื่องของคนสองคน ไม่ควรมีบุคคลที่สามเข้าไปเกี่ยวข้อง ผู้เขียนจึงได้แต่ดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ และจากเรื่องราวที่เล่ามานี้ จึงอยากฝากให้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่กำลังสับสนในการบอกรัก เผื่อว่าคำตอบจะชัดเจนขึ้นค่ะ

ได้เวลา...บอกรัก
เรื่องเล่าจากคนใกล้ตัวเลยนะคะ เป็นน้องนักศึกษาฝึกงานที่ออฟฟิศของผู้เขียนเองค่ะ เขาแอบชอบหญิงสาวอยู่คนหนึ่ง เป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัยของน้องเขาเอง จนวันหนึ่งในขณะที่นั่งทานข้าวกันอยู่ ด้วยความสงสัยฉันจึงถามน้องเขาทันทีถึงเหตุผลที่ว่า ทำไมถึงกล้าบอกรัก น้องเขาก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า
“ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำไมพี่ เราก็แค่เตรียมใจปลงเอาไว้ก่อนเลย ถ้าเค้ารับรักก็แฮปปี้ แต่ถ้าไม่ ผมก็ทำใจปลงรอไว้ก่อนแล้ว แต่ก็ดีกว่าไม่ได้บอกอะไรเลย”
หลังจากวันนั้น ฉันได้ติดตามความคืบหน้า น้องเบอกฉันว่า แม้ผลตอบรับจะไม่ใช่สิ่งที่ทำให้หัวใจของเขาชื่นบาน แต่เขาก็รู้สึกเบาสบาย แถมผู้หญิงคนนั้นยังบอกเขาอีกด้วยว่า แม้เธอจะไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น แต่เธอก็ชื่นชมความซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเอง และความกล้าหาญของน้องชายผู้นี้ แม้จะเป็นได้แค่เพื่อนกัน แต่น้องนักศึกษาฝึกงานก็รู้สึกเบาในความรู้สึก และมันเป็นความรู้สึกดีที่ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรเมื่อได้บอกออกไป แม้ไม่สุขเต็มร้อย แต่ก็ไม่ต้องมานั่งคอยลุ้นว่ารักหรือไม่รัก

Love Guru

ก่อนบอกรักใครควรดูทิศทางลมนิดนึงนะคะ ว่าเขามีเจ้าของหรือเปล่า เป็นชายแท้หรือไม่ ถ้ามั่นใจแล้วว่าเขาโสด แมนแท้ อันนี้แนะนำให้ทำความสนิทชิดใกล้ให้ได้ในระดับหนึ่งก่อน ไม่ใช่เดินดุ่มๆเห็นว่าหล่อแล้วเข้าไปบอกรักเลย อันนี้มันก็ไม่ใช่ พอได้มีโอกาสสนิทชิดเชื้อแล้ว มีโอกาสบอกก็รีบบอกเถอะค่ะ อย่าลืมว่าชายแท้เหลือน้อยใช้สอยประหยัด และอย่าลืมกฎของธรรมชาติที่ว่า เราจะมีพรุ่งนี้หรือเปล่าด้วยนะคะ จะทำอะไรก็รีบทำเถอะค่ะ อย่าให้มันสายภายหลังนะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook