ทำความรู้จักกับโยคะหัวเราะ

ทำความรู้จักกับโยคะหัวเราะ

ทำความรู้จักกับโยคะหัวเราะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าพูดถึงโยคะ ที่เรารู้จักกันส่วนมากก็จะเป็นโยคะร้อน โยคะเย็นจริงไหมคะ แล้วถ้าหากมีคนชวนว่า “ไปเล่นโยคะหัวเราะกันเถอะ” เชื่อแน่เลยค่ะว่าหลายคนคงจะแปลกใจไม่ใช่น้อย เมื่อความสงสัยบังเกิด อย่าปล่อยให้ความสงสัยค้างคาใจอยู่นานค่ะ เรามาทำความรู้จักกับโยคะหัวเราะกันเลยดีกว่าค่ะ

โยคะหัวเราะ เริ่มต้นจาก ดร. Madan Kataria แพทย์จากมุมไบในประเทศอินเดียที่ได้มีการเปิดตัวคลับเสียงหัวเราะเป็นครั้งแรกที่สวนสาธารณะ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม คศ. 1995 โดยมีคนเข้าร่วมเพียง 5 คนในวันแรก และวันนี้มันได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทั่วโลกที่มีมากกว่า 6000 ชมรมหัวเราะในสังคมกว่า 60 ประเทศทั่วโลก

โยคะหัวเราะ เป็นการออกกำลังกายที่ผสมผสาน “การหัวเราะอย่างไม่มีเงื่อนไข” เข้าร่วมกับ “การหายใจแบบโยคะ” (หรือที่เรียกว่า การหายใจแบบ “ปราณยามะ”) ไว้ด้วยกัน โดยทุกคนสามารถหัวเราะโดยไม่มีเหตุผลโดยไม่ต้องอาศัยอารมณ์ขัน หรือเรื่องตลกใดๆทั้งสิ้น ซึ่งความจริงเกี่ยวกับการหัวเราะนั้นมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ได้พิสูจน์ไว้ว่าร่างกายมนุษย์ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างการแกล้งหัวเราะและหัวเราะจริงๆ ซึ่งหมายความว่ามนุษย์ได้รับผลประโยชน์จากการหัวเราะทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าเราจะแกล้งหัวเราะหรือหัวเราะจริงก็ตาม

ฝึกโยคะหัวเราะ แล้วได้อะไร
ข้อพิสูจน์ทางวิทยาสาตร์ และการวิจัยในห้องแลบเกี่ยวกับวิธีการหัวเราะได้ถูกทดสอบ ทดลอง และวิจัย อาทิเช่น ในประเทศออสเตรีย บังกาลอร์ประเทศอินเดียและในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลการวิจัยนั้นได้แสดงให้เห็นว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ ซึ่งสามารถสรุปผลดังกล่าวได้ดังนี้

- ด้านสุขภาพ
การหัวเราะจะส่งต่อความสมดุลทางอารมณ์ ต่อต้านความเครียด ลดความหดหู่ ส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้น ดังนั้นสุขภาพร่างกายก็แข็งแรงตามกันไปด้วย นอกจากนั้นการหัวเราะยังเป็นการออกกำลังกายหัวใจที่ดีที่สุด ส่งผลต่อการหมุนเวียนเลือด การผ่อน คลายกล้าเนื้อ ลดความดันโลหิต โรคหอบหืด ภูมิแพ้ เป็นต้น

- ด้านการใช้ชีวิต
ผลจากการหัวเราะ จะทำให้สมองปล่อยสารเคมีที่เรียกว่า “เอนโดรฟิน” ทำให้อารมณ์ดี เพิ่มมุมมองบวกในชีวิต ซึ่งทำให้สามารถจัดารชีวิตได้ดีขึ้น

- ด้านหน้าที่การงาน
ความสุขจากการหัวเราะสามารถกระตุ้นการทำงานร่วมกันเป็นทีม เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง เกิดทักษะการเจรจาต่อรอง อีกทั้งการเพิ่มสมาธิและความจดจ่อในการทำงาน รวมไปถึงความสดชื่นในสมองที่จะช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งผลจากการหัวเราะล้วนแล้วแต่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงาน

- ด้านสังคม
ผลจากการฝึกโยคะหัวเราะทำให้ผู้ฝึกมีสุขกาย สุขภาพใจที่ดี ส่งผลต่อคุณภาพและทัศนคติที่ดีของคนในสังคม ซึ่งสุดท้ายแล้วผลดีทั้งหมดจะตกไปอยู่ที่ตัวผู้ปฏิบัติ และสังคมที่ดีตาม

การผึกโยคะหัวเราะด้วยตัวเอง
การฝึกโยคะหัวเราะจะเกิดผลดีที่สุด ควรถูกนำการฝึกโดย laughter yoga leader (ผู้นำการฝึกโยคะหัวเราะ) ซึ่งจะทำหน้าที่แนะนำสมาชิกเพื่อให้เกิดเสียงหัวเราะที่เป็นแบบไดนามิก

ความถี่ในการฝึกโยคะหัวเราะ : ความถี่ในการฝึกนั้น ฝึกได้ตั้งแต่เดือนละ 2 ครั้ง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง จนกระทั่งวันละครั้ง ตามความเหมาะสม
ระยะเวลาในการฝึกโยคะหัวเราะ : 30 – 45 นาที

สถานที่ฝึกโยคะหัวเราะ :
- ภายในอาคาร ควรเป็นสถานที่ที่หลังคาไม่สูง เพื่อไม่ให้เกิดเสียงสะท้อน และเกิดการเสียพลังงานมากจนเกินไป
- ภายนอกอาคาร เช่น สวนสาธารณะ (ที่ห่างจากที่พักอาศัย เพื่อป้องกันการรวบกวนผู้อื่น)

ขนาดของกลุ่มในการฝึกโยคะหัวเราะ : 5 – 15 คน ต่อ 1 กลุ่ม

การฝึกโยคะหัวเราะด้วยตนเอง 5 ขั้นตอน :
ขั้นที่ 1 อุ่นเครื่อง -- ปรบบมือและอบอุ่นร่างกาย
1. ปรบมือแบบขนานฝ่ามือเข้าหากัน “ฝ่ามือชนฝ่ามือ”, “นิ้วชนนิ้ว” โดยมีจังหวะ 1-2, 1-2-3 การปรบมือแบบนี้จะช่วยให้จุดสัมผัสบนฝ่ามือและนิ้วได้รับการกระตุ้นทำให้เกิดการตื่นตัว กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกายได้ดีขึ้น
2. เพิ่มจังหวะการเคลื่อนไหว โดยปรบมือ ขึ้น- ลง, ซ้าย – ขวา และสามารถขยับเท้าให้เป็นไปตามธรรมชาติของร่างกาย
3. เปล่งเสียง โฮ่ๆ ฮ่าๆพร้อมกับการปรบมือการเปล่งเสียงนี้จะช่วยให้เกิดการหายใจออกมาจากท้อง เป็นการกระตุ้นให้กระบังลมทำงานได้อย่างสะดวกขึ้น

ขั้นที่ 2 : หายใจลึกๆ
1. ยืนในท่าที่สบาย ก้มตัวลงข้างหน้าจนสุด
2. ปล่อยลมหายใจออกทางปากจนกระทั่งรู้สึกว่าไม่เหลืออากาศในปอด
3. ค่อยๆ ยกตัวขึ้นช้าๆ หายใจเข้าผ่านจมูก หายใจให้ลึกที่สุดเท่าที่ทำได้
4. ยกแขนชี้ขึ้นบนฟ้า ยืดร่างกายไปด้านหลังเล็กน้อย
5. กลั้นหายใจ 4 – 5 วินาที
6. ผ่อนลมหายใจออกช้าๆ พร้อมด้วยก้มลงไปด้านหน้า หายใจออกให้นานกว่าหายใจเข้า เพื่อให้ปอดเราว่างที่สุดเท่าที่จะทำได้
7. ทำซ้ำอีกสองถึงสามครั้ง โดยครั้งสุดท้ายกลั้นหายใจให้นานขึ้น หลังจากนั้นจึงปล่อยลมหายใจออกมา

การฝึกหายใจแบบนี้ถูกออกแบบไว้ให้พักผ่อนเพื่อไม่ให้เหนื่อยจนเกินไป โดยสามารถทำได้ตลอดเวลาในระหว่างการฝึกโยคะหัวเราะ

ขั้นที่ 3 : เล่นสนุกแบบเด็กๆ
การฝึกขั้นตอนนี้จะช่วยให้คุณหัวเราะได้โดยไม่มีเงื่อนไข หรือเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยวิธีปรบมือพร้อมกับเปล่งเสียง ว่า
ยอดเยี่ยม.......(ปรบมือ)
ยอดเยี่ยม.......(ปรบมือ)
เย้.......(ยกแขนขึ้นทั้งสองข้างให้เป็นรูปตัว Y)

ขั้นที่ 4 : มาหัวเราะกันเถอะ
การฝึกหัวเราะมีหลายประเภท เช่น
- ฝึกหัวเราะแบบโยคะ
        เป็นท่าที่มีพื้นฐานมาจากการหายใจแบบโยคะ และมีท่าพื้นฐานจากท่าของโยคะ เช่น ท่าสิงโตคำราม
- ฝึกหัวเราะแบบเล่นสนุก
        เป็นท่าที่ช่วยลดการเขินอาย และกระตุ้นให้หัวเราะอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งท่าต่างๆ จะขึ้นอยู่กับทัศนคติ ความเชื่อ จินตนาการ บทบาท ของกลุ่มที่ฝึก เช่น ท่าชงนม ท่าตลับเมตร ท่าโทรศัพท์ ท่าซุปร้อน
- ฝึกหัวเราะแบบมีคุณค่า
        เป็นท่าที่ถูกออกแบบมาเพื่อโปรแกรมความรู้สึกที่เป็นบวกต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เผชิญอยู่ เช่น ท่าไฟแดงไฟเขียว ท่าเจ้านายไม่อยู่ ท่าทำงานบ้าน ท่าถังแตก
- ฝึกหัวเราะแบบบริหารร่างกาย
        เป็นท่าที่เป็นการออกกำลังกายเบาๆระหว่างการฝึกโยคะหัวเราะ โดยเฉพาะการฝึกในช่วงเช้า

โดยปกติแล้วจะฝึกหลายๆ ท่ารวมกัน ท่าละ 2 -3 นาทีเป็นอย่างน้อย และรวมกัน 15 – 20 นาที

ขั้นที่ 5 โยคะนิทรา
การฝึกโยคะนิทราจะช่วยให้เกิดการผ่อนคลายพลังงานของผู้ฝึกโยคะหัวเราะให้กลับสู่ระดับปกติ ด้วยวิธีดังนี้
1. นอนหงายลงกับพื้นหงายฝ่ามือขึ้น นอนแยกขาให้มีระยะเล็กน้อย
2. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน
3. หายใจลึกๆ ช้าๆ
จบการฝึกโยคะหัวเราะ

สิ่งที่อยากจะแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการทำโยคะหัวเราะ
ประโยชน์จากการฝึกโยคะหัวเราะมีมากกมาย ตามผลการวิจัยจากต่างประเทศ หลักสำคัญคือการหายใจ ที่จะช่วยในการหมุนเวียนของเลือดในร่างกาย ซึ่งหลังจากการฝึกโยคะหัวเราะและสามารถสัมผัสได้ทันทีคือความสดชื่น และหายใจได้สะดวกขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ความสำคัญกับการหายใจ

ผู้ที่สนใจสามารถรับการฝึกโยคะหัวเราะได้ที่สถาบันโยคะหัวเราะ ซึ่งทางสถาบันโยคะหัวเราะได้รับการสนับสนุน จาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และได้รับโอกาสจัดกิจกรรมร่วม ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ โดยสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบันโยคะหัวเราะแห่งประเทศไทยได้ 2 ช่องทาง คือ
- http://www.laughteryogathailand.com/
- https://www.facebook.com/LaughterYogaThailand
Special Thanks : คุณอภิสิทธิ์ ไชยธนเวศย์ สถาบันโยคะหัวเราะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook