50 ยังแจ๋วได้! ด้วย 5 เคล็ดลับความงามจากบิวตี้บล็อกเกอร์ชาวญี่ปุ่น

50 ยังแจ๋วได้! ด้วย 5 เคล็ดลับความงามจากบิวตี้บล็อกเกอร์ชาวญี่ปุ่น

50 ยังแจ๋วได้! ด้วย 5 เคล็ดลับความงามจากบิวตี้บล็อกเกอร์ชาวญี่ปุ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนจำนวนมากที่มีอายุมากขึ้นต่างก็ต้องการใช้เวลาทุกวันให้มีความสุขและมีสุขภาพที่แข็งแรง ช่วงวัย 50 เป็นช่วงสำคัญในการเตรียมพร้อมปรับเปลี่ยนตนเองเพื่อเชื่อมต่อกับช่วงวัยที่สูงขึ้น มารู้เคล็ดลับการมีสุขภาพกายใจที่ดีในขณะที่รู้สึกว่าตนเองมีอายุเพิ่มขึ้นจากคุณ An Nakamichi บล็อกเกอร์อันดับต้นๆ ด้านความงามชาวญี่ปุ่นวัย 55 ปีกันค่ะ

5 เคล็ดลับในการมีสุขภาพกายและใจที่ดีในช่วงวัย 50

ผู้หญิงในช่วงวัย 40 ต่างยุ่งกับการเลี้ยงดูลูก ทำงาน และทำงานบ้าน ทำให้มีเวลานอนน้อย นอนหลับไม่เต็มที่จนเมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 50 ก็กลายเป็นนอนได้น้อยลง เนื่องจากวัยที่สูงขึ้นและความเคยชินจากภาระในช่วงวัย  40 แม้ว่าจะนอนดึกแต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็นอนตื่นเช้าเวลาเดิมทำให้การพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับน้อยทำให้รู้สึกเฉื่อยชา คิดช้า และอารมณ์ไม่ดี เคล็ดลับการมีสุขภาพกายและใจที่ดีในช่วงวัย 50 ปีมีดังนี้

1,นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและคงความชุ่มชื้นของร่างกาย

การพักผ่อนน้อยจะส่งผลอย่างเด่นชัดไปที่ผิวพรรณ โดยทำให้ผิวพรรณสูญเสียความเต่งตึงและมีรอยเหี่ยวย่นใต้ตาลึกลงมากกว่าปกติ ในช่วงวัย 50 ไม่มีครีมบำรุงผิวใดที่มีประสิทธิภาพในการคงความเต่งตึงและความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณไว้ได้ การดูแลรักษาความงามต้องดูแลจากภายใน และการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้นจากภายใน ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดี และช่วยลดอาการร้อนวูบวาบเนื่องจากวัยทอง โดยพยายามดื่มน้ำให้บ่อยก่อนที่จะรู้สึกหิวน้ำและหลังจากเข้าห้องน้ำ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา ในช่วงกลางคืน เพราะจะทำให้ตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางดึกและอาจทำให้นอนหลับต่อไม่ได้

2. บรรเทาความรู้สึกด้านลบด้วยน้ำมันหอมระเหย

คนจำนวนมากรู้สึกหงุดหงิดเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นอย่างที่คิด รู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และรู้สึกอารมณ์ด้านลบต่างๆ กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหย เช่น ไวท์เสจ (White sage) ลาเวนเดอร์ และเบอร์กาม็อท (มะกรูดเหลือง) เป็นต้น จะช่วยปรับให้จิตใจสงบ ผ่อนคลายอารมณ์ และช่วยดึงออกจากความรู้สึกด้านลบได้ดี

 

3. กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ

กิจวัตรประจำวันที่เหมือนเดิมอาจสร้างความรู้สึกเบื่อหน่ายได้ การลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนตัวเองในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น แต่งหน้าดูแลผิวพรรณตนเองให้ดูดีขึ้น แต่งตัวให้ดูดี เรียนภาษาต่างประเทศ ออกกำลังกาย หรือทำอดิเรกที่ชอบ เป็นต้น จะทำให้ชีวิตมีความสนุกสนานขึ้น และทำให้รู้สึกภาคภูมิใจกับความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่ได้เรียนรู้ใหม่

4. จำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตและอาหาร

ในวัย 50 เป็นช่วงวัยที่ร่างกายคนเรามีอัตราการเผาผลาญพลังงานช้าลง ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้น้อยลง จึงทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้ยาก แม้รับประทานอาหารน้อยลงก็ยังทำให้อ้วน ดั่งคำเปรียบเทียบว่าแม้แต่ดื่มน้ำก็ยังอ้วน ด้วยเป็นช่วงวัยที่ไม่เหมาะกับการออกกำลังกายอย่างหนัก สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ไม่อ้วนง่ายคือ การควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตโดยลดปริมาณแป้งและน้ำตาล รับประทานอาหารวันละ 3 มื้อ ในปริมาณที่พอเหมาะและมีคุณค่าสารอาหารที่สมดุล และออกกำลังกายตามความเหมาะสม เช่น การเดิน และการบริหารร่างกาย เพื่อจุดประสงค์ให้ร่างกายแข็งแรงไม่ใช่เพื่อการลดน้ำหนักที่มักทำให้ล้มเลิกความตั้งใจได้ง่าย

5. ตรวจสุขภาพประจำปี

เมื่อเข้าสู่วัย 50 ปี ไม่เพียงแต่ร่างกายภายนอกเท่านั้นที่แสดงสัญญาณเสื่อม แต่อวัยวะสำคัญภายในร่างกายก็จะเริ่มเสื่อมและทำให้มีอาการปวดเมื่อยไม่สบายตัวเป็นบางครั้ง อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คนวัยนี้ควรทำเป็นประจำทุกปี คือการตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้หญิงควรตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมด้วย  การตรวจสุขภาพทำให้เราหันมาดูแลตนเองเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคที่มีความเสี่ยงตามผลการตรวจสุขภาพ อีกทั้งหากเป็นโรคก็จะทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที

ช่วงวัย 50 เป็นวัยที่มีความยากทั้งทางด้านร่างกายและด้านอารมณ์ ดังนั้นจึงต้องใส่ใจตนเองเพื่อก้าวสู่ช่วงวัยที่สูงขึ้นอย่างมีความสุข เพื่อนผู้อ่านจำนวนมากอาจยังมีอายุน้อย แต่สามารถนำเคล็ดลับดังกล่าวไปเล่าให้คุณแม่ฟัง ให้ท่านได้ดูแลตนเองให้มีสุขภาพกายและจิตใจที่ดี เพื่อจะได้สวยแข็งแรงเป็นเหมือนพี่สาวของเราได้ไปอีกนานๆ ค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook