5 วิธีดูแลริมฝีปาก พิชิตปัญหาปากแห้งลอกเป็นขุย ให้กลับมาสวยปิ๊งในคืนเดียว!

5 วิธีดูแลริมฝีปาก พิชิตปัญหาปากแห้งลอกเป็นขุย ให้กลับมาสวยปิ๊งในคืนเดียว!

5 วิธีดูแลริมฝีปาก พิชิตปัญหาปากแห้งลอกเป็นขุย ให้กลับมาสวยปิ๊งในคืนเดียว!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนอาจเข้าใจว่าปัญหา “ริมฝีปากแห้ง ลอกเป็นขุย” เกิดจากการที่พาร่างกายไปอยู่ในที่หนาวเย็น อากาศติดลบ แต่ความจริงแล้วไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงฤดูหนาว หรือล่องเรือเที่ยวทะเลท้าแดดซัมเมอร์ ก็สามารถพบเจอกับปัญหาริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย ได้เหมือนกันทั้งสิ้น วันนี้ HELLO! จึงจะพาทุกคนมารู้จักถึงต้นตอสาเหตุของปัญหา พร้อมบอกต่อ 5 วิธีดูแลริมฝีปาก ให้กลับมาสวยอวบอิ่มชุ่มชื้นพร้อมทาลิปสติกภายในข้ามคืนกัน


สาเหตุของริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย

นอกเหนือจาก “อุณหภูมิหนาวเย็น” ที่มักมาพร้อมกับลมและความแห้งในอากาศ ทำให้ริมฝีปากสูญเสียความชุ่มชื้นจนเกิดอาการแห้ง แตก ลอกเป็นขุยได้แล้วนั้น ยังมีสาเหตุปัจจัยอื่นอีกที่คุณอาจไม่เคยรู้ ปัจจัยแรกคือ “แสงแดด” เพราะการตากแดดเป็นเวลานานทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นไม่ต่างจากการไปเจออุณหภูมิหนาวเย็นเลย ดังนั้นหลายคนที่ไปเที่ยวทะเลตากแดดทั้งวัน ร่างกายก็จะสูญเสียน้ำจนทำให้เกิดอาการปากแห้งแตกได้เช่นกัน

อีกหนึ่งปัจจัยที่หลายคนอาจรู้ดีแต่ก็ยังลืมตัวทำกันอยู่บ่อยๆ ก็คือ “การเลียริมฝีปาก” พฤติกรรมนี้เป็นทำร้ายริมฝีปากให้แห้งและคล้ำเสียได้ง่ายมาก เพราะในน้ำลายของคนเรามี เอนไซม์ (Enzyme) เป็นส่วนประกอบ ทำให้เวลาไปสัมผัสโดนผิวหนังหรือริมฝีปาก จะทำให้ผิวบริเวณนั้นแห้งและถูกรบกวน ใครที่ติดเลียริมฝีปากบ่อยๆ ทั้งวันจึงมักมีริมฝีปากที่แห้งกว่าคนอื่น

สาเหตุถัดมาไม่ใช่ปัจจัยภายนอก แต่เกิดจากปัจจัยภายในร่างกายของเราเอง นั่นก็คือ “สุขภาพ” เพราะหลายครั้งที่เวลาร่างกายของเราผิดปกติหรือไม่สบายก็จะสะท้อนออกมาผ่านอวัยวะส่วนต่างๆ อาการปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุยก็เช่นเดียวกัน คืออาจเป็นอาการของ โรคไทรอยด์ ภาวะร่างกายขาดวิตามิน ไปจนถึงโรคลำไส้อักเสบ และบางครั้งอาการปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุยนี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเรากำลังแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับริมฝีปากอยู่ด้วยเช่นกัน


วิธีดูแลริมฝีปาก

1/5 สครับริมฝีปาก

วิธีแรกคือสิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่เมื่อคุณประสบพบเจอกับปัญหาริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย แล้วนั้น ควรจะ “สครับริมฝีปาก” สัปดาห์ละครั้ง หรือสองสัปดาห์ครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายและลอกเป็นขุยบนริมฝีปากออก โดยเลือกสครับที่มีขนาดไม่ใหญ่และหยาบจนเกินไป เพื่อไม่ให้ทำร้ายริมฝีปากและผิวบริเวณรอบๆ ที่แห้งอยู่แล้ว

ทริคสำคัญคือการเลือกสครับที่มีส่วนผสมของออยล์หรือสารให้ความชุ่มชื้นไว้ในเนื้อสครับ หรือหากสครับที่ใช้เป็นแค่เม็ดสครับเปล่าๆ ควรผสม ออยล์ ที่ใช้บำรุงผิวหน้าเป็นประจำหรือ น้ำมันมะพร้าว ลงไป ทำให้เวลาสครับจะได้กำจัดเซลล์ผิวที่ตายออก โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง หรือทำให้ริมฝีปากที่แห้งอยู่แล้วโดนทำร้ายและแห้งกว่าเดิมได้

La Mer The Lip PolishLa Mer The Lip Polish
สครับริมฝีปากที่ HELLO! ชื่นชอบก็คือ ‘La Mer The Lip Polish’ สครับริมฝีปากเนื้อสัมผัสสุดชุ่มชื้นจากลาแมร์ ที่ใช้คุณค่าของ Miracle Broth ส่วนผสมเอกสิทธิ์ของแบรนด์ที่คิดค้นขึ้นจากสาหร่ายซีเคลป์ ผสานเข้ากับเนื้อสครับผลึกน้ำตาลเม็ดเล็กละเอียด ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนริมฝีปากออกอย่างอ่อนโยน ไม่รู้สึกเจ็บหรือทำให้ระคายเคืองผิว แถมยังมาพร้อมแอปพลิเคเตอร์ในการทาและนวดวนบริเวณริมฝีปาก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มสุขภาพดียิ่งขึ้น

2/5 บำรุงริมฝีปากด้วยเซรั่ม

หลังจากสครับริมฝีปากและเช็ดออกด้วยทิชชู่หรือสำลีชุบน้ำหมาดๆ แล้ว ให้บำรุงริมฝีปากด้วย “เซรั่มสำหรับริมฝีปาก” เป็นสเต็ปแรก เพราะนี่คือผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นมาเพื่อบำรุงเฉพาะส่วนริมฝีปากโดยเฉพาะ และไอเท็มที่เราขอแนะนำก็คือ ‘Estee Lauder Pure Color Envy Nighttime Rescue Lip Oil-Serum’ เซรั่มเนื้อออยล์ที่มาในรูปแบบหัวแอปพลิเคเตอร์จิ้มจุ่ม

Estee Lauder Pure Color Envy Nighttime Rescue Lip Oil-SerumEstee Lauder Pure Color Envy Nighttime Rescue Lip Oil-Serum
เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเซรั่มและออยล์ เมื่อทาลงบนริมฝีปากแล้วจะรู้สึกชุ่มชื้นทันทีเพราะเซรั่มจะซึมซาบลงไปเติมความชุ่มชื้นให้ผิวบนริมฝีปากอย่างรวดเร็ว ขณะที่ความเป็นออยล์ก็จะค่อยๆ ฟื้นบำรุงริมฝีปากให้แลดูอวบอิ่มไปอีกหลายชั่วโมง ใครที่มีปัญหาริมฝีปากแห้งมากๆ และทำอย่างไรก็ยังแตก ลอกเป็นขุยอยู่ ขอให้ลองทำตามสเต็ปที่บอกและดูแลริมฝีปากเหมือนกำลังดูแลผิวหน้า รับรองว่าคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่คืนแรกอย่างแน่นอน


3/5 ใช้ลิปมาสก์ก่อนนอน

เมื่อใช้เซรั่มสำหรับริมฝีปากแล้ว ให้บำรุงต่อด้วย “สลีปปิ้งมาสก์สำหรับริมฝีปาก” ก่อนเข้านอน ลิปมาสก์นั้นก็เหมือนกับการใช้แผ่นมาสก์หน้า คือจะมีความเข้มข้นกว่าลิปมันที่ใช้บำรุงริมฝีปากปกติ ช่วยบำรุงฟื้นฟูริมฝีปากได้อย่างล้ำลึกและยาวนานตลอดทั้งคืนกว่าลิปมัน

ทริคสำหรับใครที่ริมฝีปากแห้งมากๆ ควรใช้สลีปปิ้งมาสก์สำหรับริมฝีปากพอกให้ทั่วริมฝีปากและบริเวณขอบปากก่อนนอน เมื่อตื่นเช้ามาหากรู้สึกว่าริมฝีปากเริ่มแห้งอีกครั้ง หลังอาบน้ำเสร็จให้ทาลิปมาสก์ซ้ำอีกครั้งและเช็ดก่อนด้วยสำลีชุบน้ำหมาดๆ ก่อนทาลิปสติก วิธีนี้จะช่วยบำรุงริมฝีปากอย่างล้ำลึกและทำให้ทาลิปสติกได้ติดทนสวยไม่ตกร่อง

Tatcha The Kissu Lip MaskTatcha The Kissu Lip Mask
สำหรับลิปมาสก์ที่เรายกให้เป็นไอเท็มโปรดตลอดกาลก็คือ ‘Tatcha The Kissu Lip Mask’ สลีปปิ้งมาสก์สำหรับริมฝีปากเนื้อเจลสีชมพูใสเหมือนกลีบกุหลาบ มาพร้อมกลิ่นหอมละมุนชวนให้ผ่อนคลายก่อนนอน และถึงแม้จะมาในรูปสัมผัสเนื้อเจล แต่เมื่อทาลงบนริมฝีปากแล้วจะพบว่าไม่ใช่เนื้อเจลที่ซึมซาบไวหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ให้ความชุ่มชื้นเข้มข้นจนรู้สึกเหมือนทาออยล์เลยทีเดียว


4/5 ทาลิปบาล์มระหว่างวัน

วิธีดูแลริมฝีปาก ลำดับถัดมาคือ “การใช้ลิปบาล์มระหว่างวัน” สาวๆ หลายคนอาจเคยชินกับการเติมปากด้วยลิปสติกเพียงอย่างเดียว ซึ่งบางครั้งความชุ่มชื้นของลิปสติกเนื้อชายน์หรือเนื้อซาตินไม่ได้เพียงพอต่อการบำรุงริมฝีปากที่ต้องเผชิญกับมลภาวะและแสงแดดตลอดวัน ยิ่งลิปสติกเนื้อแมตต์แล้วนั้นยิ่งไม่ต้องพูด ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้ทุกคนพกลิปมันหรือลิปบาล์มติดตัวไว้เสมอ และหมั่นคอยเติมระหว่างวัน

นอกจากลิปบาล์มหรือลิปมันจะช่วยบำรุงริมฝีปากแล้ว ยังเป็นทริคสำคัญของการเติมปากระหว่างวันให้สวยยิ่งขึ้นด้วย โดยวิธีการเติมปากที่ดีคือไม่ควรทาลิปสติกทันทีหลังรับประทานอาหารเสร็จ เพราะกลิ่นของอาหารที่ติดอยู่บนริมฝีปากจะติดไปกับเนื้อลิปสติกได้ แต่ให้ดื่มน้ำล้างปากและเช็ดลิปสติกเดิมออกให้หมด หลังจากนั้นจึงทาลิปบาล์มหรือลิปมันก่อนเป็นสเต็ปแรกเพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื้นไม่มีร่องแตก แล้วจึงค่อยทาลิปสติกสีสันทับลงไป

Chanel Rouge Coco BaumeChanel Rouge Coco Baume
หนึ่งในลิปบาล์มแท่งโปรดของ HELLO! ก็คือ ‘Chanel Rouge Coco Baume’ สุดคลาสสิกของชาเนล เพราะให้สัมผัสเบาสบายริมฝีปาก ทาแล้วไม่รู้สึกว่าริมฝีปากโดนเคลือบหนาๆ ให้ชุ่มชื้น แต่เนื้อบาล์มบางเบานั้นได้ซึมซาบลงบำรุงริมฝีปากทันที นั่นก็เพราะในตัวลิปบาล์มแท่งนี้มีส่วนผสมของอนุพันธ์ Meadowfoam oil ช่วยปกป้องและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง และ Phyto-ceramides ที่เลียนแบบเซราไมด์ธรรมชาติบนผิว มอบความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยนให้ริมฝีปากนั่นเอง


5/5 ดูแลสุขภาพให้ชุ่มชื้นจากภายใน

เดินทางมาถึง 5 วิธีดูแลริมฝีปาก ข้อสุดท้าย หลังจากที่เราดูแลริมฝีปากจากภายนอกกันไปถึง 4 สเต็ปแล้ว ก็ต้องอย่าลืมดูแลสุขภาพริมฝีปากจากภายใน ไม่ว่าจะเป็นการรักษาร่างกายให้แข็งแรง เพราะอาการปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย อาจเป็นผลข้างเคียงจากโรคต่างๆ ได้

รวมถึงยังต้องหมั่นดื่มน้ำเป็นประจำตลอดทั้งวันเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกาย ทริคข้อนี้นอกจากจะช่วยไม่ให้ปากแห้งแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งกระจ่างใสอีกด้วย สุดท้ายคือใครที่ร่างกายขาดวิตามิน สามารถรับประทานวิตามินเสริมเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรงสุขภาพดีจากภายใน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถแก้ปัญหาริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย ได้แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook