Chic Recommend on November Part 3

Movie Recommend :: “This is the End”
รวมก๊วนตัวกวน(ทีน)แห่งฮอลลีวู้ด มัดรวมมาไฝว้กัน ในหนัง(ล้อเลียน)หายนะภัย ว่าด้วยวันโลกแตก ในความคิดของ นักแสดง “Seth Rogen” ที่งานนี้มารับหน้าที่ผู้กำกับ ควบอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย.. สถานการณ์บ้าๆ เกิดจาก กลุ่มนักแสดงดาวดังได้ถูกเรียกเชิญร่วมปาร์ตี้ขึ้นบ้านใหม่ของ “James Franco” (127 Hours,Spider-Man) โดยหารู้ไม่ว่า ข้างนอกบ้านกำลังจะเกิดเหตุวิบัติ ที่จะทำให้ปาร์ตี้มีวันเลิกราไปตลอดกาลนานเทอญ.. สมกับเป็นหนังเรต R ที่รวมไว้หมดทั้ง ความทะลึ่งตึงตัง คำหยาบคาย ภาพอุบาทว์ การใช้สารเสพติด หนำซ้ำยังโชกเลือด และรุนแรงหนักข้อ แต่ถ้าคุณรับกับสิ่งเหล่านี้ (และอาจชอบมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) นี่คือ หนังตลก ที่ความบ้าบอของมัน ทำให้เราคาดเดาอะไรไม่ได้ เป็นความสนุกแบบป่าเถื่อน ที่หยิบจับสิ่งเก่าๆ(ในฮอลลีวู้ด)มาเล่าใหม่ โดยใส่ความดิบห่ามของกลุ่มตัวละครลงไปคลุกเคล้า เกิดรสชาติแสบๆซ่าส์ๆ ที่ทำให้เรามันส์พะยะค่ะ.. ท่ามกลางความเพี้ยน จะให้เราได้เห็นความเกรียนของดาวตลกที่มันน่าตบกะโหลก!! (หาชมได้จาก DVD, Blu-ray เท่านั้น)

Music Recommend :: “Musketeers : Uprising”
เมื่อเหล่าทหารเสือ อยากจะ We Will Rock U!! พวกเขาจึงรวมตัวกันเป็น Musketeers.. วงดนตรีเพลง Rock ที่ประกอบด้วยสมาชิก 5 หนุ่ม จากเมืองเชียงใหม่ ที่อยากจะมาเขย่าวงการดนตรี ด้วยสไตล์เพลงที่หนักแน่น ดนตรีที่แอบแฝงความเท่ห์ แต่ก็สามารถทำเรื่องราวได้ ทั้งสนุก เจ็บปวด และซาบซึ้ง.. Uprising นับว่าเป็นอัลบั้มเต็มที่ 2 ซึ่งถูกส่งต่อทิ้งระยะจากชิ้นแรกไม่นาน ด้วยการที่ประสบความสำเร็จในแวดวงอินดี้ และตีตลาดกลุ่มแมสยังได้ด้วย พวกเขาจึงกลับมาพร้อมความท้าทายอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งจะต้องทั้งทำให้แฟนเก่าประทับใจ และขณะเดียวกันก็ต้องสร้างแฟนใหม่ๆขึ้นมาได้ด้วย.. สังเกตได้จากงานที่ปล่อยทางวิทยุออกไป “Dancing” ก็ให้เห็นภาคสนุก ที่จับ Rock มาเขย่าให้เป็นเพลง Dance ได้ หรือ “อยากให้เธอลอง” ก็แสดงความอ่อนโยน ในทาง Rock ผสม Pop ออกมาอย่างเด่นชัด และ “แค่คุณ” ที่ตีโจทย์ความหวาน ให้กลายเป็นว่าที่เพลงเอกที่จะถูกเรียกใช้ในงานแต่งงานในบ้านเราไปได้ตลอดกาล.. แค่ 3 เพลง ก็บ่งบอกแล้วว่าพวกเขาแน่แค่ไหน อีก 7 เพลงที่เหลือในอัลบั้ม คือ เครื่องพิสูจน์ว่านี่คือ ตัวจริง.. อัลบั้มเพลงดี ที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยประการทั้งปวง

Book Recommend :: “The Hunger Games: Catching Fire ” โดย “Suzanne Collins”
กล่าวถึงเล่มแรกไปแล้ว จะไม่กล่าวถึงเล่มที่สองถัดมา มันก็คงกระไรอยู่ เพราะประเด็นสำคัญ คือ หนังที่ดัดแปลงจากหนังสือเล่มนี้ กำลังฉายโรงอยู่พอดี และในกรณีของคนที่อยากจะเทียบว่า หนังสือ หรือ หนัง อะไรจะให้อรรถรสได้มากกว่ากัน ก็คงเป็นเรื่องที่ชวนท้าทาย.. Catching Fire ดำเนินเหตุต่อจากการชนะเกมของ “Katniss” และ “Peeta” ที่กลายเป็นการจุดชนวนให้ประชากรมีความหวัง และลุกฮือกันขึ้นมาเพื่อเตรียมการปฏิวัติ แต่ไม่ทันได้เข้าร่วมขบวนเต็มตัว แคทนิส ก็ถูกส่งกลับเพื่อจะลงสนามประลองใน The Hunger Games ครั้งที่ 75 ซึ่งเป็นวาระอันดีที่จะนำผู้ชนะเกมจากแต่ละเขตมาเผชิญหน้า และไล่ฆ่ากัน จนเหลือหนึ่งเดียวที่อยู่รอด.. สถานการณ์ในหนังสือเล่มนี้ มาเต็มทั้งดรามา ความรัก การแข่งขัน และการเมือง ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเยี่ยม ที่จะทำให้เล่มสาม เล่มสุดท้าย ถึงจุดแตกหักของทุกสิ่ง.. มีหมายเหตุนิดนึง กับคนที่ได้อ่านหนังสือแล้ว อย่างหนึ่งที่อาจต้องทำใจก็คือ ในหนังจะถูกตัดทอนบางส่วนลงไปพอสมควร (เพื่อจะเอื้อให้ฉายสองชั่วโมงกว่าๆได้)

Like Me @ http://www.facebook.com/Onc3.UPoN.a.MaN
And Follow Me @ http://twitter.com/once_upon_a_man
OncE UPoN’-‘a MaN