3 วิธีรักษาสิวให้หายเร็วทันใจ ทำตามให้ไว ก่อนหลุมสิวบุก

3 วิธีรักษาสิวให้หายเร็วทันใจ ทำตามให้ไว ก่อนหลุมสิวบุก

3 วิธีรักษาสิวให้หายเร็วทันใจ ทำตามให้ไว ก่อนหลุมสิวบุก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ใบหน้าของสาวๆ มีหลุมสิวก็คือ การเป็นสิวที่มีขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสิวหัวช้างหรือสิวอักเสบก็ตาม ซึ่งการปล่อยให้สิวอยู่บนใบหน้าเป็นเวลานาน โดยไม่รีบรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้องให้เร็วที่สุด ย่อมเสี่ยงต่อการทำให้สิวปล่อยเอนไซม์ที่ย่อยเนื้อเยื่อผิวด้านล่างของหัวสิวได้ ซึ่งเมื่อสิวหายแล้วก็จะทำให้ผิวหนังเกิดการยุบตัวจนทำให้เป็นหลุมสิว อีกทั้งยังทำให้เกิดรอยดำ รอยแดงตามมาอีกด้วย

เมื่อสาวๆ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดสิวได้เลย สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต่อมาก็คือ การหาวิธีรักษาสิว โดยที่การรักษาเหล่านั้นไม่ทำให้เกิดหลุมสิวนั่นเอง ลองมาดู 3 วิธีรักษาสิวที่เห็นผลได้เร็ว แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวที่เรานำมาฝากสาวๆ ทุกคนกันเลยดีกว่า


1.รีบรักษาสิวให้เร็วที่สุด


หลายต่อหลายครั้ง เรามักจะปล่อยให้สิวอยู่บนใบหน้าไปเรื่อยๆ เพราะหวังว่ามันจะยุบลงไปเอง และคิดว่ามันจะไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากการบีบหรือแกะสิว แต่การรีบรักษาสิวให้เร็วที่สุดนั้น จะช่วยให้ผิวไม่เสี่ยงต่อการเป็นหลุมสิวได้ ดังนั้นเมื่อเป็นสิว หากไม่สามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง แนะนำให้รีบพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อให้แพทย์ทำการกดสิวและรักษาผิวตามขั้นตอน โดยปกติแล้ว หากเราไม่สะดวกไปพบแพทย์ก็สามารถซื้อยามาทาเองได้ด้วยเช่นกัน โดยตัวยาที่ใช้รักษาสิวคือ Metronidazole, Azelaic acid, Clindamycin, Benzoyl peroxide และ Erythromycin ส่วนในรายที่เป็นสิวอุดตันที่อาจทำให้เป็นสิวอักเสบนั้น ก็สามารถใช้ยาทาประเภท  Differin, Retin-A และ Salicylic acid ได้ค่ะ


2.ใช้สกินแคร์สูตรเพื่อผิวแพ้ง่าย และเป็นสิว


การเลือกใช้สกินแคร์สูตรสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย และผิวเป็นสิวนั้น มีส่วนช่วยในการป้องกันการระคายเคืองซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบตามมาได้ การใช้สกินแคร์ทุกครั้งหลังจากใช้ยารักษาสิวหรือหลังกดสิว เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยดูแลผิวไม่ให้เป็นหลุมและมีรอยดำรอยแดงบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดี


3.ทานวิตามินที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิว


ภายหลังจากการรักษาสิวแล้ว แนะนำให้สาวๆ หันมาให้ความสำคัญในการบำรุงผิวมากกว่าเดิม โดยการเลือกทานวิตามินที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี AHA หรือ BHA ก็ตาม วิตามินเหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยทำให้ผิวมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และยังป้องกันไม่ให้ผิวมีหลุมสิวได้อีกเช่นกัน

สิ่งสำคัญหลักๆ ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหน้าของสาวๆ เป็นหลุมสิวก็คือ การไม่ปล่อยให้สิวอยู่บนผิวหน้านานเกินไป หากไม่มีเวลาไปพบแพทย์เพื่อทำการกดสิว ก็ควรรีบรักษาด้วยการทายารักษาสิวที่แพทย์หรือเภสัชแนะนำให้ และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ การหมั่นรักษาความสะอาดของผิวอยู่บ่อยๆ นั่นเองค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook