นี่แหละ! ความน่าสนใจของ "ร้าน 100 เยน" ในสายตาชาวต่างชาติในญี่ปุ่น

นี่แหละ! ความน่าสนใจของ "ร้าน 100 เยน" ในสายตาชาวต่างชาติในญี่ปุ่น

นี่แหละ! ความน่าสนใจของ "ร้าน 100 เยน" ในสายตาชาวต่างชาติในญี่ปุ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ร้าน 100 เยนที่มีทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันและสามารถซื้อได้ด้วยเหรียญเพียงเหรียญเดียว ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศญี่ปุ่น จึงได้มีการลองไปสอบถามชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในโตเกียวดูว่าอะไรคือสิ่งที่ดึงดูดให้ชาวต่างชาติมาใช้บริการร้าน 100 เยนกันแน่

ร้าน 100 เยนที่ซื้อของได้ด้วยเหรียญเพียงหนึ่งเหรียญ อย่าง ร้านไดโซะ ที่มีสาขาถึง 25 ประเทศทั่วโลกก็เป็นหนึ่งในร้านที่ชาวต่างชาติคุ้นเคยเช่นกัน

แล้วอะไรคือสิ่งที่ดึงดูดชาวต่างชาติให้มาซื้อของที่ร้าน 100 เยน?

สินค้าแปลกๆ ที่ให้ความรู้สึกว่า ‘นี่มันคืออะไรกัน’ งั้นหรือ? หรือว่าจะเป็นสินค้าสุดวิเศษ? เพื่อหาคำตอบเราจึงได้ลองไปสอบถามชาวต่างชาติในโตเกียวกัน

สมุดบันทึกและกระดาษ A4


“ฉันชอบปากกาหมึกซึมค่ะ แต่การหากระดาษที่เขียนแล้วสีหมึกออกมาสวยงามโดยไม่ทะลุไปหน้าหลังเสียก่อน มันเป็นเรื่องลำบากมาก ก่อนหน้านี้ฉันต้องซื้อกระดาษ 24 แผ่นในราคา 5,000 เยน และฉันก็ประหลาดใจมากที่มีกระดาษที่มีคุณภาพแทบจะเหมือนกับที่ร้านไดโซะ กระดาษที่ซื้อมาโดยที่ไม่ได้คาดหวังมันดีกว่าที่คิด ฉันจึงมาซื้อสมุดบันทึกไปใช้ด้วย ดีมากๆ เลยค่ะ” (หญิงสาวชาวเกาหลี วัย 20 ปี)

 

ผลิตภัณฑ์ให้กลิ่นหอม
“เพราะว่าผลิตภัณฑ์ให้กลิ่นหอมมีอยู่หลากหลาย ผมจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำหอมอยู่เสมอ ที่ฝรั่งเศสมีร้านค้าแบบร้าน 100 เยนของญี่ปุ่นเหมือนกัน เรียกว่าร้าน 2 ยูโร ราคาสินค้าแต่ละอย่างก็อยู่ที่ 2 ยูโร (ประมาณ 265 เยน) ถึงแม้ที่นี่จะซื้อผลิตภัณฑ์ให้กลิ่นหอมได้เหมือนกัน แต่พวกสินค้าก็ไม่ได้ดีไปกว่าร้าน 100 เยนเลย ร้าน 2 ยูโรให้ภาพของร้าน 100 เยนของญี่ปุ่นที่โดนลดเกรดลงมาด้วยซ้ำ ถ้าที่ฝรั่งเศสมีร้าน 100 เยนที่มีคุณภาพเท่ากันอย่างนี้ก็ดีสิ” (ชายชาวฝรั่งเศส วัย 20 ปี)

สติกเกอร์ญี่ปุ่นและเครื่องเขียน


“มันสุดยอดมากจริงๆ ที่สามารถซื้อสติกเกอร์สไตล์ญี่ปุ่นกับเครื่องเขียนในราคา 100 เยนได้ที่ไดโซะ ทั้งๆ ที่ปกติจะราคาราวๆ 700 – 1,500 เยนหากซื้อที่อาซากุสะหรือตามแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ฉันจะรู้สึกพึงพอใจมากถ้าได้เอาไปแจกเป็นของฝากให้พวกเพื่อนๆ ที่เกาหลีและพอบอกว่า ‘นี่น่ะ ซื้อมาจากไดโซะด้วยนะ’ ทุกคนจะตกใจกันหมดเลย” (หญิงสาวชาวเกาหลี วัย 20 ปี)

 

พัฟทาหน้าคอนเนียะคุ (หัวบุก)


“ฉันซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงามตามคำแนะนำของเพื่อนคนญี่ปุ่น ฉันก็เคยเห็นพัฟทาหน้าคอนเนียะคุแบบนี้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในฝรั่งเศสนะ แต่ราคาอันละประมาณ 1,000 – 1,200 เยน ถ้าเป็นที่ร้าน 100 เยนล่ะก็สามารถซื้อได้ในราคาเพียงแค่ 100 เยนเท่านั้น พอลองใช้ก็รู้สึกว่าผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่นขึ้น ฉันชอบมากก็เลยคิดว่าถ้ากลับบ้านก็จะเอาไปฝากแม่กับน้องสาวด้วย” (หญิงสาวชาวฝรั่งเศส วัย 30 ปี)

 

ของใช้ในชีวิตประจำวัน


“ผมใช้บริการบ่อยๆ เพราะว่าสามารถหาซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดหรือพวกของ D.I.Y. ได้ เวลาจะซื้อของที่อยากจะใช้ไปนานๆ ก็คงจะไปเลือกซื้อที่ร้าน MUJI นั่นแหละ แต่หากเป็นพวกของอุปโภคบริโภคก็คงเป็นร้าน 100 เยนล่ะนะ” (ชายชาวฝรั่งเศส วัย 30 ปี)

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? จากบทสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า แทนที่จะมองหาสิ่งของที่น่าสนใจหรือแปลกใหม่จากร้าน 100 เยน คนส่วนใหญ่ก็เลือกซื้อของสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า ต่อให้เป็นชาวต่างชาติที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่น ไม่ว่าใครก็ล้วนคุ้นเคยกับร้าน 100 เยนกันทั้งนั้น แต่อย่างไรก็ตามก็คงมีคนที่คิดว่า ‘ที่จีนหรือที่เกาหลีก็มีไดโซะเหมือนกัน ไม่เห็นจำเป็นต้องไปไดโซะที่ญี่ปุ่นเลยไม่ใช่เหรอ?’ แต่ว่าเมื่อลองเทียบกับสินค้าที่วางขายแล้วมันแตกต่างกัน ไดโซะที่ญี่ปุ่นจะน่าสนุกกว่าตรงที่วางขายสินค้าจำกัดตามช่วงเวลาหรือไม่ก็สินค้าตามฤดูกาล

จากประสบการณ์ส่วนตัว เราเองก็เคยไปซื้อของที่ไดโซะเหมือนกัน ทั้งที่ไทยและที่ญี่ปุ่นค่ะ เรารู้สึกได้ว่าสินค้ามันแตกต่างกันจริงๆ สินค้าบางอย่างก็มีแค่เฉพาะที่ญี่ปุ่นด้วย นอกจากความแตกต่างกันของประเภทสินค้าแล้ว ราคาสินค้าก็แตกต่างกันตามแต่ละประเทศด้วยค่ะ อาจจะเป็นเพราะการนำเข้าหรือพวกภาษี ดังนั้น ถ้ามีโอกาสไปท่องเที่ยวหรือไปทำงานที่ต่างประเทศ ก็ลองเข้าไปใช้บริการร้านไดโซะกันดูนะคะ!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook