ในซุปราเม็งเข้มข้นที่เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มยางมะตูมชุ่มซอสโชยุสูตรกลมกล่อม เข้าปากกี่ทีก็อยากจะละลายคาชามราเม็ง จนอยากจะรู้เสียจริงๆ ว่าความอร่อยนี้ได้มาแต่ใดกัน..คิดแล้วก็อยากทานไข่ต้มซอสกลมกล่อมแบบในราเม็งให้จนแล้วจนรอด จะพุ่งไปร้านราเม็งเพื่อหม่ำไข่ต้มก็กระไรอยู่ ทว่าคนธรรมดาๆ อย่างเราที่ไม่ใช่เป็นเชฟระดับเมนูแชมป์เปี้ยนจะสามารถทำได้รึเปล่า ว่าแล้วมาลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้กันเลย
อุปกรณ์และวัตถุดิบเมนูไข่ต้มซอสโชยุ
ไข่ 6 ฟอง ,น้ำ 1500 cc,ซอสโชยุ 300 cc,เหล้ามิริน 15 cc,ถุงซิปล็อคขนาด M
1.เริ่มแรกโดยการตั้งน้ำร้อนบนหม้อเอาไว้
（Point 1）จุดประสงค์คือการต้มไข่ไม่ให้สุกมากเกินไป (ยางมะตูม) ดังนั้นเราจะไม่ต้มไข่ไปพร้อมกับน้ำจนกระทั่งเดือดแต่เราจะรอให้น้ำเดือดก่อนจึงนำไข่ลงไปต้ม
2.นำไข่ออกจากตู้เย็น ก่อนใช้ช้อนเคาะด้านป้านของไข่เบาๆให้เกิดรอยร้าว
（Point 2）ส่วนที่เป็นไข่ขาวของไข่ยางมะตูมค่อนข้างนิ่มจึงทำให้ปอกเปลือกยาก หรือเมื่อไข่สุกเวลาปอกเปลือกไข่ขาวอาจจะติด ลอกออกมาได้ไม่สวย เพื่อทำให้ไข่ปอกได้ง่ายขึ้น เลยต้องทำให้มุมป้านของไข่เกิดรอยร้าวโดยเป็นการเปิดช่องว่างให้อากาศผ่าน
3.ใช้ช้อนตักไข่ลงไปในน้ำร้อนอย่างเบามือ
（Point 3）ระวังหากไม่เบามือเวลานำไข่ลงหม้อ อาจทำให้ไข่กระแทกกับหม้อจนไข่แตกได้
4.เมื่อใส่ไข่ลงไปในหม้อครบ 6 ฟอง ก็เริ่มจับเวลาในการต้มนาน 6 นาที
5.ผ่านไป 6 นาทีตามเวลา ก็ช้อนไข่ขึ้นลงไปแช่ในน้ำเย็นเพื่อดับร้อน
（Point4）การแช่น้ำเย็นเพื่อให้ไข่หายร้อน จะทำให้ไข่ไม่สุกมากเกินไป
6.พอหายร้อนแล้ว จึงปอกไข่
（Point 5）ปอกอย่างเบามือเพราะไข่ขาวค่อนข้างนิ่ม
7.ปอกไข่เสร็จเรียบร้อย จะทำการแช่ไข่ในซอสโดยนำไข่ใส่ในถึงซิปล็อค
8.ผสมส่วนผสมซอสด้วย น้ำ 150cc、โชยุ 30cc、เหล้ามิริน 15cc
（Point 6）ใส่ซอสให้ท่วมไข่เกือบทั้งฟอง
9.เมื่อจะปิดถุงซิปล็อค พยายามให้มีอากาศอยู่ในถุงน้อยที่สุด ปิดถุงให้สนิทก่อนแช่ไว้ในตู้เย็น
（Point7）ปิดถุงให้สนิท เพื่อไม่ให้ไหลเลอะเทอะในตู้เย็น
10.ขยำถุงซิปล็อคให้ซอสท่วมไข่ เพื่อให้ซอสคลุกไข่ให้ทั่วถึงในระหว่างที่ยังแช่อยู่ในซอสเป็นพักๆ
11.หมักไข่แช่ทิ้งไว้ในน้ำซอสประมาณ 1 วัน ก็จะได้ไข่สีเข้มขึ้น
（Point8）หากไม่มีเวลามากอาจจะหมักไข่เพียงแค่ครึ่งวันก็ได้ แนะนำว่าหากแช่ทิ้งข้ามวันจะทำให้ซอสเข้าเนื้อมากขึ้น และไข่แดงก็จะแข็งกำลังอร่อย
ไข่ต้มซอสญี่ปุ่นเสร็จเรียบร้อย จะใส่เป็นทอปปิ้งหน้าข้าวต่างๆ หรือราเม็งก็อร่อยกลมกล่อมเพลินกำลังดี หรือจะทานเปล่าๆก็อร่อยเหาะแบบไม่ต้องปรุงอะไรเลยนะขอบอก ง่ายขนาดนี้ ทำเองก็ย่อมได้
ที่มา :clover/gnavi