เคยเป็นกันบ้างไหมคะที่อยากประหยัดด้วยการทำสีผมด้วยตนเองโดยไม่ต้องไปทำที่ร้านทำผม เมื่อทำออกมาแล้วกลับไม่ได้ดั่งใจ สีผมกระดำกระด่าง ไม่สม่ำเสมอ ผมแห้ง ปลายแตก แบบนี้นอกจากไม่ได้ดั่งใจแล้วผมกลับเสียอีกด้วย จนต้องรักษาผมให้กลับมาสลวยไม่แห้งเสียอีกพักใหญ่ มาดูวิธีทำสีผมให้สวยได้ดั่งใจด้วยตนเองกันค่ะ
1.ล้างเส้นผมก่อนทำสี
ควรเป็นอันดับแรกเลยที่ต้องทำควรสระผมเพื่อชำระความสกปรกที่เกาะอยู่บนเส้นผมให้หมดก่อนที่ จะลงสีผม เพราะหากล้างออกก่อนแล้วสิ่งสกปรกทั้งหลายจะหมดไปช่วยให้ครีมที่จะเปลี่ยนสีผมซึมและเกาะผมของเราได้เป็นอย่างดี สระแล้วล้างออกให้สะอาดโดยไม่ต้องลงครีมนวดกันก่อนเลย
2.ผสมสีให้พอกับเส้นผม
โดยจะต้องมีปริมาณที่เพียงพอ จะได้ไม่ต้องมีการผสมหลายครั้ง เวลาทำสีผมก็จะได้ลงสีได้สม่ำเสมอทั่วทั้งศีรษะในคราวเดียว อีกทั้งขณะทำการผสมก็จะต้องมีสัดส่วนของครีมถูกตามข้างกล่องที่กำหนดไว้ด้วยจึงจะได้สีดั่งใจแน่นอน
3.ลงโคนผมทีหลัง
การลงโคนผมก่อนปลายผมมักมีปัญหาโคนผมสว่างกว่าปลายผมเสมอๆ อันนี้เป็นเพราะว่า โคนผมจะโดนความร้อนที่ออกมาจากหนังศีรษะ เมื่อสีผมโดนความร้อนแล้ว จะติดผมง่ายให้สีอ่อน ดังนั้นหากจะต้องการให้สีผมมีความเข้มเท่ากันตั้งแต่โคนผมจรดปลายผมก็ควรเว้นโคนผมไว้ทำทีหลังจะดีที่สุด
4.กระจายสีผม
เมื่อลงสีผมเสร็จแล้ว ควรทิ้งค้างไว้ 20นาที หลังจากนั้นเมื่อจะทำการล้างผมควรราดหรือฉีดน้ำให้ทั่วศีรษะเพื่อกระจายสีผมที่ลงกองไว้ในบางจุดที่เราอาจไม่เห็นก็ได้ วิธีการแบบนี้จะช่วยให้สีกระจายไปทั่วผมทั้งหนังศีรษะเลยทีเดียว
5.ลงสีซ้ำอีกรอบ
ด้วยการเก็บครีมที่ผสมเหลือไว้ เพื่อลงซ้ำให้ทั่วหนังศีรษะอีกรอบ เป็นการป้องกันการลงสีไม่ทั่วถึง แต่ในขั้นตอนนี้ไม่ต้องทิ้งไว้นาน เพราะผมอาจแห้งเสียได้ดังนั้นให้ทิ้งค้างไว้พียง 10 นาทีเท่านั้นแล้วล้างออกด้วยน้ำให้สะอาด
เป็นเคล็ดไม่ลับฉบับที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ เพียงทำตามขั้นตอนดังกล่าว ผมที่ไม่เสีย แห้งชี้ฟูที่เกิดจากการทำสี ย่อมสวยแบบมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะไม่ต้องมาดูแล รักษาและฟื้นฟูกันให้เสียเวลา เท่านี้สาวๆ ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งร้านทำสีผมให้สิ้นเปลืองกันอีกต่อไปแล้ว