มินนิโซตาประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเหตุประท้วงการตายของ "จอร์จ ฟลอยด์" บานปลาย

มินนิโซตาประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเหตุประท้วงการตายของ "จอร์จ ฟลอยด์" บานปลาย

มินนิโซตาประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเหตุประท้วงการตายของ "จอร์จ ฟลอยด์" บานปลาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วอชิงตัน, 29 พ.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.) ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาของสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินและสั่งการให้กองกำลังพิทักษ์ชาติมินนิโซตา (Minnesota National Guard) ออกปฏิบัติการเพื่อฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อย หลังประชาชนออกมาประท้วงเหตุจอร์จ ฟลอยด์ (George Floyd) ชายผิวสีคนหนึ่งเสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจจับกุมตัว โดยการประท้วงทวีความรุนแรงในช่วงข้ามคืนวันพุธ (27 พ.ค.) เกิดเหตุไฟไหม้และฉกชิงทรัพย์ในร้านค้าหลายแห่งของมินนิแอโพลิส ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐมินนิโซตา

จอร์จ ฟลอยด์ วัย 40 ปี เสียชีวิตเมื่อเย็นวันจันทร์ (25 พ.ค.) ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวใช้หัวเข่ากดลำคอของเขาแนบกับพื้นถนน ฟลอยด์คร่ำครวญหลายต่อหลายครั้งว่า “ผมหายใจไม่ออก” และ “ได้โปรดเถอะ ผมหายใจไม่ออก” ก่อนจะเสียชีวิต ด้านสำนักตำรวจท้องถิ่นออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 คน ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้และปลดพวกเขาออกจากตำแหน่ง

ทิม วอลซ์ ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลัง เจค็อบ เฟรย์ (Jacob Frey) นายกเทศมนตรีเมืองมินนิแอโพลิส ขอความช่วยเหลือเมื่อการจลาจลช่วงข้ามคืนวันพุธ (27 พ.ค.) สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างและเกิดเหตุฉกชิงทรัพย์อย่างอุกอาจ

“การเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ควรนำไปสู่ความยุติธรรมและการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ไม่ใช่สร้างความเสียหายและการสูญเสียชีวิตประชาชนเพิ่มขึ้น” แถลงการณ์จากวอลซ์ระบุ “นี่เป็นเวลาของการรื้อสร้าง เราต้องรื้อสร้างเมือง กระบวนการยุติธรรม และความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับประชาชนที่พวกเขามีหน้าที่ปกป้องดูแล”

สตาร์ ทริบูน หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น รายงานว่าเสนาธิการผู้ช่วยฝ่ายบริหารของกองกำลังพิทักษ์ชาติจะทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการรับมือและฟื้นฟูเมืองจากภาวะฉุกเฉินครั้งนี้

นอกจากนั้นกองลาดตระเวนมินนิโซตา (Minnesota State Patrol) จะจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ 200 นาย เฮลิคอปเตอร์ และอากาศยานประเภทอื่น เพื่อเข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ควบคุมสถานการณ์

รายงานระบุว่าการประท้วงเริ่มขึ้นอย่างสันติในคืนวันพุธ (27 พ.ค.) ก่อนจะเริ่มมีการยิงปืนและวางเพลิง ซึ่งทำให้ไฟลุกไหม้อาคารราว 30 หลัง และสร้างความเสียหายให้อาคารอื่นอีกจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่เมืองมินนิแอโพลิสระบุว่ามีการก่อตั้งศูนย์บัญชาการ ซึ่งจะทำให้หลายหน่วยงานสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงหารือกับพื้นที่อื่นที่อาจให้ความช่วยเหลือ เพื่อเตรียมรับมือการประท้วงในวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.)

อนึ่ง การเสียชีวิตของฟลอยด์จุดกระแสประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมทั่วสหรัฐฯ โดยเกิดการประท้วงในหลายเมืองหลายเมื่อคืนวันพุธ (27 พ.ค.) อาทิ ลอสแอนเจลิส และเมมฟิส

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook