เตรียมตัวรับกระแสน้ำ(มัน)

เตรียมตัวรับกระแสน้ำ(มัน)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คอลัมน์รอบรั้วการเงินโดยธาริฑธิ์ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ผู้บริหารส่วนส่วนบริหารความเสี่ยงทางการเงินธนาคารแห่งประเทศไทยการไหลเวียนของเม็ดเงินลงทุนหลังวิกฤตจนถึงบัดนี้เหมือนกระแสน้ำหน้าแล้งการฝากธนาคารหรือกองทุนตราสารระยะสั้นเป็นเสมือนเขื่อนที่นักลงทุนเก็บกักเงินไว้แม้ผลตอบแทนจะต่ำกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าตลาดพันธบัตรก็ยังไม่เต็มที่ด้วยเกรงผลขาดทุนหากอัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นขณะเดียวกันกระแสเงินก็ยังรีรอที่จะไหลกลับเข้าไปในตลาดหุ้นเพราะตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศยักษ์ใหญ่เช่นสหรัฐยังไม่บ่งชี้ว่าการเติบโตจะเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววันการไหลเวียนของกระแสเงินลงทุนนี้เป็นแหล่งรายได้ของบริษัทหลักทรัพย์บริษัทจัดการกองทุนหรือธนาคารพาณิชย์ในภาวะเช่นนี้จุดที่เป็นลู่ทางทำรายได้คือการออกผลิตภัณฑ์ที่มีจุดขายคือความเสี่ยงต่ำแต่ผลตอบแทนน่าดึงดูดใจเช่นพันธบัตรเกาหลีทองคำก็เคยถูกนำมาเป็นกระแสโดยมีจุดขายคือความมั่นคงสูงและปกป้องผู้ลงทุนจากเงินเฟ้อนักลงทุนสถาบันและนักเก็งกำไรดันราคาทองคำพุ่งจาก500ดอลลาร์ต่อทรอยเอานซ์เมื่อต้นปี2549เป็นประมาณ950ดอลลาร์ในปีนี้คำถามคือนักลงทุนกลุ่มนี้ถึงจุดอิ่มตัวหรือยังและจะเกิดอะไรขึ้นหากมีช่องทางการลงทุนอื่นที่เหมาะสมกว่าเช่นหุ้นในตลาดเกิดใหม่หรือหุ้นพื้นฐานดีราคาถูกในประเทศตนเองเป็นที่น่าสังเกตว่าราคาทองคำผันผวนสูงมากแต่ผลตอบแทนการลงทุนต่อปีในช่วงสองปีที่ผ่านมากลับต่ำและตั้งแต่ช่วงไตรมาสสองปีนี้เมื่อมีการพูดถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกราคาทองคำก็ขึ้นน้อยกว่าหุ้นและสินทรัพย์กลุ่มพลังงานในหลายโอกาสการคาดการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าปลุกกระแสน้ำมันและผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับราคาน้ำมันขึ้นมาอีกครั้งโดยมีจุดขายคือการฟื้นตัวของเอเชียโดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ในขณะที่อุปทานและการผลิตของน้ำมันยังจำกัดการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับน้ำมันมีประโยชน์คือ1.ปกป้องผู้ลงทุนจากภาวะที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างแรง(oilshock)2.กระจายความเสี่ยงเนื่องจากในขณะที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นมากราคาพันธบัตร/หุ้นรวมถึงสกุลเงินบางสกุลเช่นดอลลาร์สหรัฐจะลดลงดังนั้นหากเห็นว่าราคาน้ำมันจะสูงขึ้นจนส่งผลลบต่ออำนาจการซื้อและราคาสินทรัพย์อื่นที่ตนถืออยู่การลงทุนชนิดนี้ก็น่าดึงดูดใจหากมองเฉพาะด้านประโยชน์จุดที่ต้องระวังคือความผันผวนของราคาน้ำมันโดยเฉพาะในโลกที่การเก็งกำไรทำได้ง่ายขึ้นผ่านตราสารอนุพันธ์และจำนวนผู้เล่นมีมากขึ้นเช่นกองทุนรวมสถาบันการเงินหรือแม้กระทั่งรัฐบาลบางประเทศค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานของทองคำเคยสูงถึงเกือบร้อยละ40ในบางช่วงราคาน้ำมันเคยลดลงจากกว่า100ดอลลาร์ต่อบาร์เรลกลางปี2549เป็น70ดอลลาร์ต่อบาร์เรลช่วงสิ้นปีเดียวกันและเคยลดลงจาก140ดอลลาร์ต่อบาร์เรลกลางปี2551เป็น40ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสิ้นปี2551เมื่อชั่งน้ำหนักทั้งประโยชน์และความเสี่ยงการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับน้ำมันเหมาะกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกับความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันอาทิกองทุนน้ำมันหรือการบินไทยซึ่งจะได้ประโยชน์จากการป้องกันความเสี่ยงสูงสุดแต่หากนำไปเก็งกำไรในจำนวนที่มากผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นก็สูงมากเช่นกันนักลงทุนที่มีเป้าหมายเพียงรักษาอำนาจซื้อของตนไม่ควรลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันในสัดส่วนที่มากเพราะความเสี่ยงอาจเกินประโยชน์ที่จะได้โดยเฉพาะเมื่อตนเองไม่สามารถตามตลาดใกล้ชิดหรือวิเคราะห์แนวโน้มราคาน้ำมันเองผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับราคาน้ำมันที่ขายตรงโดยสถาบันการเงินมีความเสี่ยงที่แตกต่างกันไปผู้ลงทุนต้องระมัดระวังความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกสภาพคล่องความโปร่งใสของการตีราคารวมถึงต้นทุนแฝงอื่นๆให้ดีและน่าจะมองทางเลือกอื่นๆที่มีความผันผวนต่ำกว่าประกอบด้วยอาทิพันธบัตรที่เชื่อมโยงกับอัตราเงินเฟ้อ(inflation-linkedbond)สกุลเงินที่สัมพันธ์กับราคาน้ำมันอาทิออสเตรเลียแคนาดานอร์เวย์นิวซีแลนด์หรือETFหุ้นในกลุ่มพลังงาน/โภคภัณฑ์ก่อนตัดสินใจตามกระแสสำรวจก่อนว่ากระแสนั้นเชี่ยวเกินกำลังตนเองหรือไม่ครับบทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคลจึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook