รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปภาพตลาด   Consolidated: ซื้อเก็งกำไรรายตัว (ต่อ) รายวัน คาดดัชนีฯพักฐาน แนวรับ 1,200 จุด แนวต้าน 1,225 จุด เราคาดตลาดหุ้นไทยจะมีการหมุนกลุ่มเล่น (rotation) แทนที่จะปรับลงแรงทั้งตลาดฯ โดยกลุ่มที่นำตลาดหุ้น (lead) รอบนี้ คาดได้แก่ โรงแรม ท่องเที่ยว ยานยนต์ และ ปิโตรฯ ส่วนกลุ่มที่คาดกดดันตลาด ได้แก่ แบงก์ โรงพยาบาล ค้าปลีก (ซึ่งขึ้นแรงกว่าตลาดในรอบนี้ และยังไม่มีข่าวดีใหม่ๆ หนุนราคาหุ้นระยะสั้น) ปัจจัยลบ จะมาจาก 1) แรงขายจากกองทุนประเภท Target fund ในประเทศ 2) เทคนิคเตือน Overbought และ Valuation ดัชนีฯเหลือ Upside ไม่ถึง 10% (VS เป้าหมายเราที่ 1,275จุด) ส่วนปัจจัยหนุน คือ แรงซื้อ Rotation เข้าหุ้นกลุ่มที่ Laggard และ ยังไม่มีข่าวลบใหม่ๆที่กระทบต่อกระแสการขายหุ้นอย่างมีนัยยะ ของนักลงทุนต่างชาติ การเก็งกำไรระยะสัปดาห์ คาดตลาดจะเกิดการหมุนกลุ่มเล่น ทำให้ภาพของดัชนีฯเกิดการ Consolidate (ขึ้นๆลงๆ แต่จะยังไม่ลงแรง) และเราคงคำแนะนำ ขึ้นหาจังหวะขาย โดยเฉพาะแบงก์ที่ไม่มีปันผลระหว่างกาล (งบออกหมดสัปดาห์หน้า-หมดข่าวดี) PTTEP (วิตกเพิ่มทุนหลังมีโอกาสได้ดีล COVE) กลุ่มโรงพยาบาล (จบข่าวการทำ IPO หุ้นโรงพยาบาลในมาเลเซีย) ส่วนกลุ่มพยุงตลาดคาดได้แก่ ปิโตรฯ โรงแรม ยานยนต์ และหุ้นกลาง-เล็ก ที่อยู่ในกระแส เช่น SRICHA SORKON หุ้นเด่น: SRICHA (รับ 20.7 แนวต้านระยะสั้น 22 บ.ราคาเหมาะสม 23.3 บ.) SORKON (รับ 72.5 บ.ต้าน 76 บ.ราคาเหมาะสม 104 บ.) INTUCH (ลุ้นรีบาวด์ตามกลุ่มสื่อสารฯ) MINT (คาดเป็นกลุ่มเป้าหมายถูก Rotation แนะนำอ่อนตัวซื้อแนวรับ 15.20 บ.)   ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดฯ (-) กลุ่มสื่อสารฯ (มือถือ) คาดมีลุ้นรีบาวด์ 1-2 วันนี้ หลังลงแรงสะท้อนกระแสข่าวคลังอาจเก็บภาษีสรรพสามิตไปหมดแล้ว /กลยุทธ์แนะ Stop loss DTAC หลังหลุด 80บ.แนวรับถัดไป 77.75-76.5 บ. ที่เหลือยังมี ลุ้นรีบาวด์ ADVANC แนวรับ 193 บ. INTUCH รับ 61.75 บ.ข่าวหนุนจะมาจาก Public hearing ร่าง 3G วันนี้ จากประเด็นการผ่อนจ่ายค่า Reserve price แทนที่จะจ่ายทั้งก้อน (*) กลุ่มแบงก์ คงคำแนะนำ “ขึ้น-ขายต่อ” หรือยืมหุ้น Short SBL หลังรับข่าวงบออกมาดีตามคาด (+) ยอดขาย-ผลิตรถยนต์ เดือน มิย.วานนี้ ทำนิวไฮท์: ใครที่ซื้อกลุ่มยานยนต์ไว้ตามแนวรับวานนี้ แนะถือรอขายเมื่อรีบาวด์ AH (รับ 15.3 บ. ต้าน 16.5 บ.) STANLY (รับ 208/210 บ.ต้าน 220 บ.) SAT (รับ 29.25 บ.ต้าน 30.5บ.) (+) วานนี้สภาล่างเยอรมนี ผ่านโหวตแผนให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ประสบปัญหาหนี้ ผ่าน ESM (ตามคาด) และวันนี้ อียูกรุ๊ปจะอนุมัติแผนแก้หนี้แบงก์สเปน Investment theme: หุ้นที่มีกำไรรอบนี้ แนะนำ ทยอยขายที่แนวต้านเป้าหมาย ส่วนการซื้อเก็งกำไรจากจุดนี้ ควรมีจุดตัดขาดทุน 3-5% Save haven: หุ้นมีปันผลระหว่างกาล 1H12F สูง INTUCH BECL ADVANC EGCO MAJOR Earning play: คาดกำไร 2Q12F โตเด่น (Preliminary) SAT STANLY CPALL CPN HEMRAJ SPALI QH BECL SORKON THCOM กลุ่มแบงก์-งบออกมาดีเป็นโอกาสในการขายทำกำไร คาดรีบาวด์จากปัจจัยฤดูกาล แนะนำสะสม/เก็งกำไร PTT PTTGC IVL ESSO TOP   วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336   ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด   เทรดเดอร์สหรัฐมองราคาข้าวโพด ถั่วเหลืองเป็นขาขึ้น จากการสำรวจเทรดเดอร์ และ นักวิเคราะห์ของสหรัฐพบว่า ส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาพืชผลทั้งสองประเภทจะปรับตัวขึ้นต่อจากภาวะแห้งแล้งส่งผลผลิตปรับลด ราคาข้าวโพด และถั่วเหลืองปรับขึ้น 55% และ 26% จากกลางเดือนมิ.ยส่งผลให้หลายคนเริ่มกังวลกับภาวะเงินเฟ้อจากราคาอาหารที่อาจสูงขึ้นหากราคาพืชผลเกษตรยืนระดับสูงได้ในระยะเวลานานซึ่งปัญหาดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในช่วงปี 2008 และปี 2011 หน่วยงาน USDA ของสหรัฐซึ่งทำหน้าที่ติดตามและประเมินผลผลิตของสินค้าเกษตร และ อาหารหลายประเภทได้ปรับลดคาดการณ์ปริมาณผลผลิตข้าวโพดลง 12% และถั่วเหลืองลง 4.6% ในรายงานประจำวันที่ 11 ก.คนี้ โดยในรายงานยังชี้อีกว่ากลุ่มประเทศเอเชียจัดได้ว่าเป็นผู้บริโภครายใหญ่อันดับสองของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา (Bloomberg)   ดัชนีผลิตอุตสาหกรรมของรัฐฟิลาเดอเฟีย สหรัฐหล่นเป็นเดือนที่ 3 ดัชนีผลิตอุตสาหกรรมของรัฐฟิลาเดอเฟีย สหรัฐหล่นเป็นเดือนที่ 3 จากคำสั่งซื้อล่วงหน้าหด และ การจ้างงานลด ดัชนีฯดังกล่าวประกาศออกมาเท่ากับ -6.9 จุด ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ -18.8 จุดโดยนักธุรกิจมีมุมมองต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐลดลง และมีมุมมองต่อเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้าในเชิงบวกน้อยลง นักวิเคราะห์จับตาการเปิดเผยดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมที่จะทยอยประกาศออกอีกจากหลายมลรัฐเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ และประเมินตัวเลข ISM ที่จะประกาศออกมาในราวต้นเดือน ส.คว่าจะมีทิศทางในทางใด (Bloomberg)   ค่ายรถเฮทำสถิติรอบ 50 ปี ยอดขาย-ผลิต-ส่งออกสูงสุด นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือน มิ.ย. 55 อยู่ที่ 205,600 คัน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 33.81% หรือสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 50 ปี เนื่องจากค่ายรถยนต์เร่งเพิ่มการผลิตรถยนต์ เพื่อส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้า รวมถึงได้รับอานิสงส์จากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาลส่งผลให้ความต้องการรถยนต์มีสูงขึ้น (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)   กองทุนวายุภักดิ์1 จ่ายเงินปันผล 6 เดือน 3% นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนรวมวายุภักษ์ และประธานกรรมการในคณะกรรมการลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เปิดเผยว่า กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกของปี 55 ที่ผ่านมา สำหรับนักลงทุนประเภท ก หรือนักลงทุนทั่วไป 3% หรือเท่ากับหน่วยละ 0.30 บาท เป็นผลตอบแทนในระดับที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี เฉลี่ย 4 ธนาคารที่ 2.86% แต่งดจ่ายเงินปันผลสำหรับนักลงทุนประเภท ข หรือนักลงทุนสถาบัน (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)   คลังชัวร์!ขยายรถคันแรก นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 ก.ค. กระทรวงการคลังจะเสนอให้พิจารณาขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจาก 5.31 บาทต่อลิตร เหลือ 0.005 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 1 เดือนจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค.นี้ เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค.2555 หลังจากนั้นจะทบทวนขยายเวลาออกไปอีก หากราคาน้ำมันยังผันผวน จะพิจารณาเดือนต่อเดือน ทั้งนี้ การขยายเวลาออกไป เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกยังผันผวนสูงขึ้น และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังเก็บเงินเข้ากองทุนอย่างต่อเนื่อง การขึ้นภาษีน้ำมันจะทำให้ราคาดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร กระทบต้นทุนขนส่งราคาสินค้าและเงินเฟ้อให้สูง เป็นภาระกับผู้บริโภคมากขึ้น (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)   เล็งรีดภาษีหาเงินสำรองน้ำมัน นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงแผนความมั่นคงด้านการสำรองน้ำมันของประเทศว่า การสำรองน้ำมันของภาครัฐ 45 วัน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการบริหารจัดการที่เหมาะสม ซึ่งมีหลายแนวทางทั้งภาครัฐเป็นผู้ดำเนินการเอง หรือว่าจ้างเอกชนเข้ามาดูแล โดยในหลักการจะซื้อน้ำมันเก็บไว้เพื่อใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั้นไม่ใช่เพื่อการค้าหรือเก็งกำไร คาดต้องใช้เงินเพื่อซื้อน้ำมันเก็บไว้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)   ดัชนีอุตฯมิ.ย.ร่วงรอบ7เดือน ปัญหายุโรปหลอนผู้ส่งออก ส่งผลความเชื่อมั่นวูบต่ำ 100 จุด อีสานอาการหนักซมพิษค่าแรง 300 บาท นายศุภรัตน์ ศิริวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมเดือนมิถุนายน 2555 จำนวน 1,123 ราย ครอบคลุม 42 กลุ่ม พบว่าความเชื่อมั่นอยู่ที่ 102.7 ลดลงจากเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 106 เป็นการกลับมาลดลงครั้งแรกใน 7 เดือน หลังจากทยอยปรับขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554 สาเหตุจากต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น ความกังวลต่อสถานการณ์การเมือง ภัยธรรมชาติ และวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 105.8 ลดลงจากเดือนพฤษภาคม ซึ่งอยู่ที่ระดับ 111.1 แสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตยังคงกังวลว่าปัญหาที่กำลังเผชิญจะเกิดขึ้นในอนาคตเช่นกัน (หนังสือพิมพ์มติชน)   ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1   รายงานวันนี้   หุ้น: KTB          คำแนะนำ: ถือ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 19.60 KTB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส2/55 ที่ 7.34 พันล้านบาท สูงขึ้น 40% YoY และ 15% QoQ ผลที่ออกมาสูงกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 13% และ 15% ตามลำดับ เนื่องจาก ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่เราคาดไว้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส3/55 จะลดลง QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานนั้นสูงขึ้นมาก เรายังคงแนะนำ ถือ และเราได้ปรับลดราคาเป้าหมายปี2555 6.7% มาอยู่ที่ 19.60 เนื่องจากความเสี่ยงเรื่องการเพิ่มทุน   หุ้น: TCAP          คำแนะนำ: ซื้อเก็งกำไร          ราคาเป้าหมาย (บาท): 35.50 TCAPรายงานกำไรสุทธิไตรมาส2/55 ที่ 1.7 พันล้านบาท สูงขึ้น 43% QoQ และ 8% YoY ผลประกอบการสูงกว่าที่เราและตลาดคาดถึง 32.5% และ 43.5% ตามลำดับ เนื่องจากค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญฯน้อยกว่าคาดและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าคาด เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส3/55 จะเติบโตแข็งแกร่ง QoQ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยอดขายรถยนต์ใหม่ที่เติบโตแข็งแกร่งและมีการบริหารจัดการต้นทุนการเงินที่ดี เราเชื่อว่าครึ่งหลังของปี2555 TCAP ยังมีอัพไซด์ของกำไรจากยอดการเติบโตของสินเชื่อ ที่สูงกว่าตลาดและคาดการของเรา เรายังคงแนะนำ ซื้อเก็งกำไร   หุ้น: TMB          คำแนะนำ: ถือ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 1.60 TMBรายงานกำไรสุทธิไตรมาส2/55ที่ 1.26 พันล้านบาท สูงขึ้น 6% YoY และ 22% QoQ ซึ่งผลที่ออกมานั้นเป็นไปตามที่เราคาด สินเชื่อทั้งหมดรวมแล้วอยู่ที่ 421 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิ.น. 2555  สูงขึ้น 5.1% QoQ และ 6% YoY หนุนโดย สินเชื่อ SME อัตราสินเชื่อในครึ่งแรกของปี2555 เติบโตแข็งแกร่งที่ 6% YTD ซึ่งทำให้เราเพิ่มประมาณการสินเชื่อปี2555-56 จาก 7% และ 6.5% มาเป็น 10% และ 8% ตามลำดับ เราได้ปรับเพิ่มคำแนะนำมาเป็น ถือ จาก ขาย ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 1.60 บาท   หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม   Technical Analysis   Security: SC Position: ซื้อ เป้าหมาย: 17/17.5 Stop loss< 15.2 Reason: หากราคาหุ้นทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 16 ขึ้นได้คาดว่าหุ้นจะปรับขึ้นแรงตามสัญญาณ Break out คาดวอลุ่มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ   Security: ITD Position: ซื้อ เป้าหมาย: 3.5/3.7 Stop loss< 3.26 Reason: ส่งสัญญาณดีดตัวขึ้นจากแนวรับ โดยพบวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ราคาหุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสัปดาห์และเครื่องมือทางเทคนิคที่ตัดขึ้นเป็นบวก   Security: KBS Position: ซื้อ เป้าหมาย: 10.5/10.8 Stop loss< 9.65 Reason: หุ้นเริ่มสร้างฐานได้และส่งสัญญาณเตือนการกลับตัวลักษณะ Bullish divergence สัญญาณซื้อคาดจะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุ 10 บ.แนะนำ Follow buy แนวต้านถัดไป 10.5 และ 10.8   Security: SRICHA Position: ซื้อ เป้าหมาย: 22/22.5 Stop loss< 20.2 Reason: ปรับตัวขึ้นโดดเด่นในหุ้นขนาดกลาง สัญญาณทางเทคนิคยังมองการดีดขึ้นจากสัญญาณแข็งแกร่งมากกว่าตลาดและวอลุ่มสนับสนุน   Security: LPN Position: ขายทำกำไร Reason: ส่งสัญญาณเตือนอยู่ในช่วงปลายทางขาขึ้นลักษณะ Bearish divergence หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับสำคัญ 17 บ.คาดว่าหุ้นจะปรับตัวลงแรง   Security: PTTEP Position: ขายทำกำไร Reason: ปิดต่ำหลุดเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น205 บ. ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิคเริ่มตัดลงส่งสัญญาณลบ ส่งสัญญาณอ่อนกว่าตลาด   โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 20 ก.ค. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook