ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน ตอนที่ 2

ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน ตอนที่ 2

ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน ตอนที่ 2
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Debt

บทความที่แล้ว มีเซลล์ท่านหนึ่งที่ผมติดต่อด้วย ทำบัตรเครดิตแล้วเบิกเงินสดล่วงหน้ามา  เพื่อจะพาครอบครัวไปเที่ยวญี่ปุ่น  เพราะว่าทนรบเร้าจากลูกๆไม่ได้  ขณะนี้กำลังกลุ้มใจกับการหาเงินมาใช้หนี้ซึ่งอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 20% ผมจึงแนะนำไปว่า  เขาควรจะไม่ก่อหนี้เพิ่ม และเคร่งครัดกับค่าใช้จ่าย โดยเริ่มทำตารางค่าใช้จ่ายทุกๆ วัน  ทุกๆ รายการ  พอสิ้นเดือนนอกจากจะคำนวณรวมค่าใช้จ่ายแล้ว  ควรจะตรวจดูรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ ว่ามีอะไรบ้างที่ไม่จำเป็น  ก็ควรเอาปากกาหมึกแดงมา Mark ไว้  แล้วเตือนตัวเองในการใช้จ่ายครั้งต่อๆ ไป

อย่างเช่นการซื้อกาแฟดื่มสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ปัจจุบันกาแฟถ้วยหนึ่งราคาตั้งร้อยกว่าบาทเลยทีเดียว  ปีหนึ่งดื่มร้อยกว่าถ้วย ตกแล้วปีหนึ่งถึงเกือบ 15,000 บาท  นี่ยังไม่นับ Cookie  หรือ Cake  ที่ทานไปพร้อมกับการละเลียดกาแฟ  ถ้ารวมเข้าไปแล้วปีหนึ่งๆ แค่ค่าใช้จ่ายไร้สาระนี้ก็เกือบ 30,000 บาท เข้าไปแล้ว  ผมเองตั้งแต่มีร้านกาแฟสาขาชื่อดังจากเมืองนอกเข้ามา  ผมไม่เคยซื้อดื่มเองแม้แต่ครั้งเดียว  ด้วยความรู้สึกว่ากาแฟถ้วยหนึ่งราคาเท่ากับข้างแกง 4 จานเลยทีเดียว

ผมไปเที่ยวสหรัฐเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว  จำได้ว่า เดินเข้าไปในร้านกาแฟยี่ห้อนี้  ผมลองเทียบกับราคากาแฟร้านนี้ในประเทศไทย  ปรากฏว่า ราคาที่เมืองไทยยังแพงกว่าที่สหรัฐเสียอีก ( ถ้าปัจจุบันราคากาแฟนี้ที่สหรัฐยังไม่ได้ขึ้นราคาไปมากกว่าเมื่อ 7-8 ปีที่แล้วมากนัก )  นอกจากกาแฟร้านดังกล่าวแล้ว ร้านอื่นๆ ก็ไม่ได้เงินจากผมเช่นเดียวกัน  เนื่องจากผมเป็นคนที่ไม่ติดกาแฟ  มีก็ดื่ม ไม่มีก็ไม่ดื่ม  และราคากาแฟก็ถีบตัวขึ้นสูงมาก เมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ  แม้กระทั่ง กาแฟรถเข็น  เห็นเดี๋ยวนี้ขายถ้วยละ 35-45 บาทกันแล้ว  ค้ากำไรเกินควร  ว่างๆ อยากให้ท่านสรรพากรไปเช็คดูรายได้เหล่าบรรดารถเข็นเหล่านี้  บางรายขายได้วันละมากกว่า 200 ถ้วย ยอดขายปีๆ หนึ่งมากกว่า 2 ล้านบาท  แต่พ่อค้าแม่ค้ารถเข็นเหล่านี้ เป็นอภิสิทธิ์ชน  คือมีรายได้อยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษี  แต่ไม่เคยเสียภาษีเลย  ขณะที่พนักงาน Office หลายรายมีรายได้ต่ำกว่านี้  ถูกสรรพากรถอนขนท่านจบแทบไม่มีเหลือ  จริงๆ แล้ว  ถ้าสรรพากรตามเก็บภาษี กับพวกพ่อค้าแม่ค้าทั้งรถเข็น และแผงลอย  จับมาเข้าระบบภาษีให้หมด  ปีๆหนึ่ง น่าจะเก็บภาษีได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

นอกจากกลุ่มผู้ค้าเหล่านี้ไม่เสียภาษีแล้ว  ยังครอบครองพื้นที่ 1/3-1/2ของพื้นที่บาทวิถี  ราวกับเป็นเจ้าของทางเดินเท้าเอง  ยิ่งกลุ่มผู้ค้าบริเวณสยามสแควร์  พวกนี้เดือนๆ หนึ่งมียอดขายไม่ใช่น้อยเลย  ไม่ต้องเสียภาษี  ค่าที่ก็ไม่ได้จ่ายให้จุฬา  ขับไล่ก็ไม่ไป  เบียดบังทางเดิน จนคนเดินเท้าต้องลงไปเดินบนถนน หรือเดินเบียดเสียดยัดเยียดกัน  นี่แหละ Thailand only

เพียงคุณออมแบบผมทุกเดือนๆละ 8,333 บาทผ่านไป 30 ปีคุณจะกลายเป็นเศรษฐี 100 ล้าน รายละเอียดอยู่ในหนังสือ"ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน"

หัวใจของเนื้อหาในหนังสือ “ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน”คือ
•รายได้แค่เดือนละ 15,000 บาท คุณสามารถเป็นเจ้าของคอนโดหรูย่านสุขุมวิทได้!
•ออมเงินเพียงเดือนละหลักพัน ก็เป็นเศรษฐี 100 ล้าน ก่อนอายุ 50 ปี!
•Mindset เกี่ยวกับการออม, คุณค่าของเวลา, บัตรเครดิต-ดาบสองคม, ประเภทสินทรัพย์ที่ซื้อแล้วเพิ่มมูลค่าและสินทรัพย์ที่ซื้อแล้วเสื่อมมูลค่า
รายละเอียดอยู่ในหนังสือ"ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน"ซึ่งวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป(ร้านนายอินทร์ ซีเอ็ด B2S คิโนะคุนิยะ)แล้วครับ

ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter     : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog         : http://kitichai1.blogspot.com และ http://money.sanook.com/kitichai/
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+  : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin   : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest   : http://www.pinterest.com/kitichai/

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B8 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด by Gid" และหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ "พินิจ พิเคราะห์"   และนิตยสาร Condo Guide, Glow ทุกเดือน และ คนรวยหุัน,  Me(Market Evolution) ทุกไตรมาส

ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน
ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน

austin isd cloud . list of domains website hosting information . trip planner .

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook