ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน ตอนที่ 3

ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน ตอนที่ 3

ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน ตอนที่ 3
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Millionaire_2

ในบทความก่อน ผมได้พูดถึงเรื่อง MINDSET  ที่ถูกต้องของการออมเงินว่า ควรเป็นอย่างไร รวมทั้งการตัดค่าให้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่างๆ และการไม่ก่อหนี้เพื่อซื้อสินค้าและหรือบริการที่จะเสื่อมมูลค่าในอนาคตซึ่งผมจะขยายความเรื่องนี้ในโอกาสต่อไป บทความสัปดาห์นี้ผมจะแนะนำเรื่องการบริหารค่าใช้จ่ายให้มีเงินออมเพียงพอที่จะเข้าโปรแกรมว่าที่เศรษฐีเงินล้านภายในระยะเวลาไม่ถึง 6 ปีและเป็นเศรษฐีร้อยล้านก่อนอายุ 50 ปี แม้ว่าคุณจะมีเงินเดือนเพียง 15,000-20,000 บาทเท่านั้น

ปัจจุบัน คนที่จบปริญญาตรี  จะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ  15,000 บาท  บางคนจบบางคณะที่เป็นที่ต้องการของแหล่งงาน  หรือจบจากสถาบันที่มีชื่อเสียง พร้อมเกรดที่ดี  อาจจะได้รับเงินเดือนเริ่มต้นที่  20,000 – 25,000 บาท เสียด้วยซ้ำ  ผมขอยกตัวอย่างเป็นตุ๊กตา 2 คนคือ

1. นาย A ได้เงินเดือนๆละ 15,000 บาท  ปัจจุบันยังอาศัยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่

2. นาย B  ได้เงินเดือนๆละ 20,000 บาท  ปัจจุบันออกมาอยู่เองตามลำพัง

ถ้านาย A และ  นาย B  อยากจะเป็นว่าที่เศรษฐีเงินล้านในระยะเวลาไม่นาน  หรือเป็นเศรษฐีร้อยล้านก่อนอายุ 50 ปี  เขาควรจะจัดการกับค่าใช้จ่ายต่างๆของเขาอย่างไร  เพื่อจะได้บรรลุเป้าหมายของเขาได้

นาย A                        นาย B

ค่าเช่าบ้าน                                        --------                       3,000

ค่าอาหารมื้อเช้าและเย็น                  --------                       3,000

ค่าอาหารมื้อกลางวัน                        1,500                       1,500

ค่าเดินทาง                                        1,500                       1,500

ค่าโทรศัพท์+ค่าน้ำ+ค่าไฟ                200                           800

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ                                    2,200                         2,200

ค่าใช้จ่ายรวม                                     5,400                       12,000

โดยกำหนดให้

1. ค่าอาหารและเครื่องดื่ม มื้อละ 50 บาท  ปัจจุบันข้าวแกงจานละ  30-45  บาท  แล้วแต่สถานที่  ส่วนน้ำดื่ม  เวลาผมไปเที่ยวต่างประเทศ  ผมจะซื้อน้ำดื่มขวดใหญ่  แล้วมาแบ่งใส่ขวดเล็กๆ  ทำให้ประหยัดค่าน้ำดื่ม  เพราะว่าน้ำดื่มบางประเทศขวดเล็กๆ 500cc ตกขวดละ 40-50 บาทเลยทีเดียว  อาจจะดูเหมือนเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว  แต่ถ้าคุณมุ่งมั่นจะเป็นว่าที่เศรษฐีเงินล้านหรือมหาเศรษฐีร้อยล้าน  เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ ครับ อย่าได้แคร์คนนินทา  เอาไว้เรามีเงินล้านก่อนเขา  เขาจะต้องอิจฉาเราครับ

2. การเดินทาง  ถ้าได้ที่พักที่ใกล้รถไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็น BTS หรือ MRT  และบังเอิญที่ทำงานของคุณอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT  คุณก็สามารถซื้อตั๋ว 45 เที่ยวสำหรับ BTS หรือ ตั๋วเดือนสำหรับ MRT  ถ้าที่บ้านและหรือที่ทำงานคุณไม่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าทั้ง 2 ระบบ  คุณควรจะใช้รถเมล์เป็นพาหนะหลัก  เพื่อที่จะให้ค่าเดินทางอยู่ในงบไม่เกิน 1,500 บาทต่อเดือน  ดีที่สุดคือ ควรจะหาที่พักที่ใกล้ที่ทำงานมากที่สุด  ยิ่งเดินไปทำงานได้ยิ่งดี  ทำให้คุณสามารถประหยัดค่าเดินทาง  แล้วเอาค่าเดินทางไปโปะเป็นค่าเช่าบ้านแทน  คุณก็มีเวลาสำหรับชีวิตมากขึ้น  ไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้าตรู่  หรือเอาเวลาที่คุณประหยัดได้  เพื่อที่จะทำงาน OT  รวมทั้งหา JOB อื่นๆ ทำในฐานะ  FREE LANCE  ตามความถนัดส่วนตัว  เช่น อาจจะเป็นติวเตอร์สอนเด็กมัธยม  ทำขนมหวานแล้วไปฝากขายตามร้านอาหาร หรือ ขนมเบเกอรี่ต่างๆ  ใครจะไปรู้  คุณอาจจะกลายเป็นติวเตอร์ชื่อดัง  จนมาตั้งสถาบันติวเตอร์ของตัวเอง  หรือขนมหวานที่คุณทำ รสชาติถูกปากคนส่วนใหญ่  จนปากต่อปาก  ยิ่งปัจจุบัน SOCIAL  MEDIA  มีอิทธิพลสูง  คนที่ทานไปแล้วอาจจะโพสท์ลง FACEBOOK  หรือ LINE  ซึ่งเป็น SOCIAL MEDIA ยอดนิยมของคนไทย  ยิ่งคุณใส่ตรายี่ห้อของคุณเองพร้อมเบอร์โทรศัพท์ของคุณ  ลูกค้าที่ไปซื้อขนมของคุณที่ร้านอาหารหรือร้านขนมเบเกอรี่เหล่านี้  อาจจะโทรสั่งจากคุณเองได้อีก   ร้านขนมดังๆ หลายร้านก็มีจุดเริ่มต้นแบบนี้นะครับ

3. ทำความสะอาดห้องและซักรีดเอง  กรณีนาย A  อาจจะสบายหน่อย  เพราะว่าหลายๆ บ้าน  งานเหล่านี้คุณแม่ที่แสนดีจะเป็นผู้รับภาระแทนคุณด้วยความเต็มใจ  ค่าน้ำ  ค่าไฟ  ค่าอาหาร ( ยกเว้นมื้อกลางวัน )  รวมทั้งค่าใช่จ่ายจิปาถะหลายอย่าง ทางบ้านเป็นผู้ออกให้  ตอนเช้าตื่นเช้าหน่อย  ตอนเย็นหลังเลิกงานรีบดิ่งกลับบ้าน  คุณแม่ของคุณคงดีใจที่จะได้ทำอาหารมื้อเช้าและมื้อเย็นให้คุณทาน  เผลอๆ จะทำกล่องอาหารมื้อกลางวันให้คุณด้วยถ้าคุณร้องขอ  มื้อเย็นก็ได้ทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากับทางบ้านครอบครัวเป็นสุขแน่ๆ  รู้อย่างนี้ นาย A ควรจะรักคุณพ่อคุณแม่ให้มากนะครับ  ส่วนนาย B  จะต้องจ่ายค่าอาหารทั้ง 3 มื้อเอง  รวมทั้งค่าน้ำ  ค่าไฟ  ค่าโทรศัพท์  และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เอง   อย่างไรก็ตาม ทั้งนาย A  และ นาย B ในยามที่คุณมีเงินออมมากในระดับหนึ่งแล้วควรจะแบ่งเงินมาให้คุณพ่อคุณแม่เป็นรายเดือน ปรนิบัตรท่านในยามที่ท่านชราอย่างเต็มที่ และควรจะน้อมรับพระราชโอวาทเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง”  เพียงเท่านี้คุณก็ก้าวไปครึ่งทางของการเป็นว่าที่เศรษฐีเงินล้านแล้วครับ  เสียดายเนื้อที่หมดแล้ว  เอาไว้อ่านต่อในบทความหน้าครับ  แต่ถ้าท่านอดใจรอไม่ไหว  ลองหาหนังสือ “ ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน”  มาอ่านดูกันครับ  ซึ่งข้างในจะมีรายละเอียดมากกว่าในบทความนี้ครับ

เพียงคุณออมแบบผมทุกเดือนๆละ 8,333 บาทผ่านไป 30 ปีคุณจะกลายเป็นเศรษฐี 100 ล้าน รายละเอียดอยู่ในหนังสือ"ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน"

หัวใจของเนื้อหาในหนังสือ “ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน”คือ
•รายได้แค่เดือนละ 15,000 บาท คุณสามารถเป็นเจ้าของคอนโดหรูย่านสุขุมวิทได้!
•ออมเงินเพียงเดือนละหลักพัน ก็เป็นเศรษฐี 100 ล้าน ก่อนอายุ 50 ปี!
•Mindset เกี่ยวกับการออม, คุณค่าของเวลา, บัตรเครดิต-ดาบสองคม, ประเภทสินทรัพย์ที่ซื้อแล้วเพิ่มมูลค่าและสินทรัพย์ที่ซื้อแล้วเสื่อมมูลค่า
รายละเอียดอยู่ในหนังสือ"ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน"ซึ่งวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป(ร้านนายอินทร์ ซีเอ็ด B2S คิโนะคุนิยะ)แล้วครับ

ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter     : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog         : http://kitichai1.blogspot.com และ http://money.sanook.com/kitichai/
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+  : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin   : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest   : http://www.pinterest.com/kitichai/

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B8 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด by Gid"  และหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ "พินิจ พิเคราะห์"   และนิตยสาร Condo Guide, Glow ทุกเดือน และ คนรวยหุัน,  Me(Market Evolution) ทุกไตรมาส

 

ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน
ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน

 

trip planner

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook