บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะหุ้น 29/12/52

บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะหุ้น 29/12/52

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 29/12/52ทยอยซื้อหุ้นกลุ่มหลัก ช่วงอ่อนตัว รอขายที่ 750 สัปดาห์หน้า     แนวโน้มตลาดวันนี้ : การเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า จะเป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศการลงทุนวันนี้ โดยยังคงมีแรงซื้อจากเงินลงทุนของ LTF และ RMF และการทำ Window Dressing เป็นปัจจัยหนุนเช่นเดิม ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ยังคงมีแนวโน้มผันผวนแคบๆ แต่คาดว่าดัชนีจะแกว่งขึ้นได้ต่อเนื่อง จากการพยุงราคาหุ้นกลุ่มหลัก ส่วนปริมาณซื้อขายยังคงเบาบางเช่นเดิมแนวรับ: 728-730            แนวต้าน : 737-740 กลยุทธ์ : ขึ้นขายบ้าง รอซื้อคืนหุ้นกลุ่มหลัก ช่วงราคาอ่อนตัว     แนวโน้มผันผวนแคบ ๆ ของค่าเงินดอลลาร์ คงจะไม่กดดันตลาดหุ้นหลัก ๆ และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า ในขณะที่สภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นขึ้น จะทำให้มีการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าได้ต่อเนื่อง จึงสามารถเก็งกำไรราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีข้ามปีได้ ในขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารอาจจะผันผวนแคบ ๆ อีกสักระยะ และอาจจะดีดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า รับข่าวเงินปันผลและ January Effect ระยะสั้น : ขายทำกำไรบ้าง บริเวณแนวต้าน รอซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มหลัก เมื่ออ่อนตัว ระยะยาว : ถือต่อ และรอซื้อลงทุนหุ้นกลุ่มหลัก ที่แนวต้าน จับข่าวมาเก็งกำไร       + ผู้บริหาร PTT เผยในปี 2553 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตจากปีนี้ โดยกำไรขั้นต้นของกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีจะชะลอตัว และกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะทำให้รายได้ขยายตัวได้ประมาณ 20% ส่วนแผนควบรวมกิจการของบริษัทลูกทั้ง 4 บริษัท ได้แก่ PTTCH, PTTAR, IRPC และ TOP จะสรุปได้ในไตรมาสที่ 1/53 ความเห็น: เราคาดว่ากำไรสุทธิของ PTT ในปี 2553 จะเติบโต 14% จากปี 2552 ด้วยผลการดำเนินงานของธุรกิจก๊าซ และกำไรสุทธิของ PTTEP ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งการควบรวมกิจการของบริษัทลูกจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาค แนะนำ เก็งกำไร PTT, PTTEP, PTTAR และ IRPC เมื่อราคาอ่อนตัว ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน     ปัจจัยในประเทศ +    สศค. ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของไทยในปี 53 เป็นเฉลี่ย 3.5% จากเดิมที่เคยคาดว่าจะขยายตัว 3.3% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะในเอเชีย และการเร่งจ่ายเงินของภาครัฐในโครงการไทยเข้มแข็ง และคาดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นไปอยู่ที่ 1.5% ในช่วงครึ่งหลังของปี 53   +    กระทรวงพลังงานคาดการณ์ความต้องการใช้พลังงานในปี 53 จะเติบโต 3.8% โดยคาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันสำเร็จรูปจะเพิ่มขึ้น 1.7%, ก๊าซธรรมชาติเติบโต 5.1%, ถ่านหินและลิกไนต์เติบโต 2.9% และความต้องการใช้ไฟฟ้าเติบโต 4% ปัจจัยต่างประเทศ +    ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 26.98 จุด ปิดที่ 10,547.08 จุด จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกหลังการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ดีขึ้นในช่วงปลายปี ขณะที่หุ้นสายการบินปรับลดลงจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางทางอากาศ     +    ราคาน้ำมันดิบ (WTI) ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.72 ดอลล่าร์ ปิดที่ 78.77 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากภาวะอากาศที่หนาวเย็นและจากการคาดการณ์ในเชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook