จาก Skinny Fat สู่ Skinny Fit ต่อยมวยเปลี่ยนหุ่นมนุษย์ออฟฟิศใน 6 เดือน

จาก Skinny Fat สู่ Skinny Fit ต่อยมวยเปลี่ยนหุ่นมนุษย์ออฟฟิศใน 6 เดือน

จาก Skinny Fat สู่ Skinny Fit ต่อยมวยเปลี่ยนหุ่นมนุษย์ออฟฟิศใน 6 เดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การออกกำลังกายเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นมันมีแรงบันดาลใจอยู่หลายอย่าง สำหรับตัวเรานั้นแค่อยากจะเอาชนะตัวเองให้ได้ เพราะว่าตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน นักศึกษา ทำงานที่แรก ที่สอง จนถึงปัจจุบันเคยคิดว่าอยากจะเปลี่ยนหุ่นของตัวเองซะหน่อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ เพราะขี้เกียจ นั่นแหละ และนี่อายุก็จะเข้า 30 ละ มันก็เลยเป็นแรงฮึดเฮือกสุดท้าย ที่เป็นเส้นตายสลายความขี้เกียจของตัวเองให้เปลี่ยนหุ่นให้ได้ก่อนจะอายุ 30

ก่อนหน้านี้ก็เคยเข้ายิมเล่นนู่นนี่นั่นมาบ้างแต่สุดท้ายก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ เล่นอะไรที่แบบโฟกัสอยู่ตัวคนเดียวแล้วมันไม่เข้ากับเราจริงๆ เลยหาอะไรที่ออกกำลังกายไปด้วยได้เล่นกับคนนู้นคนนี้ สรุปสุดท้ายก็มาอยู่ที่การออกกำลังกายแบบมวยไทยนั่นเองครับ ด้วยเราอยู่ที่ดอนเมือง ทำงานที่ทองหล่อ ก็เลยอยากหายิมออกกำลังกายที่ใกล้บ้านก็เลยค้นๆ พวกยิมมวยที่อยู่ละแวกดอนเมือง แบบว่าทำงานเสร็จกลับถิ่นมาเล่นแถวบ้าน เพราะถ้าให้เล่นแถวทองหล่อ กว่าจะทำงานเสร็จกว่าจะเล่นออกกำลังกายจบ รถกลับดอนเมืองไม่มีพอดี

 

ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ได้เจอกับ Beat Boxing Muaythai GYM ซึ่งเป็นยิมมวยที่อยู่แถวบ้านพอดี ช่วงถนนสรงประภา ใกล้ๆ สนามบินดอนเมือง เดินทางสะดวก โดยที่ยิมนี้มีทั้ง มวยไทย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สตูดิโอคลาส โยคะ, เต้น, บอดี้คอมแบต, คอร์บอดี้ เอ็กเซอร์ไซส์ และอื่นๆ อีกมากมาย จำไม่ได้เพราะส่วนมากเราเล่นแค่ มวย ว่ายน้ำ และ คลาสสตูดิโอนิดๆ หน่อยๆ

 

มาเข้าเรื่องกันเลย เราเริ่มการเปลี่ยนแปลงหุ่นด้วยการ ออกกำลังกาย ด้วยการต่อยมวย เมื่อเดือน สิงหาคม 2019 น้ำหนักตอนนั้นอยู่ที่ 68.65 โดยเรามีเป้าหมายหุ่นอยู่ที่สไตล์แบบตัวเล็กๆ ไม่หนาแต่ก็ดูมีอะไร สไตล์แบบนี้เราคิดว่ามันน่าจะเหมาะกับร่างกายของเรามากที่สุดแหละ

การออกกำลังกายของคลาสมวยที่เราเล่นนั้นก็น่าจะเหมือนกับยิมมวยทั่วไปแหละมั้ง โดยเป็นการ ยืดเส้นก่อนออกกำลังกายและวอร์มอัพร่างกาย ก่อนที่จะไปล่อเป้าต่อยกับครูฝีก 4 นาที แล้วก็ไปออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ไม่ก็เข้ากระสอบทราย 4 นาที หลังจากนั้นก็ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง 4 นาที และพัก 4 นาที ก่อนเล่นวนซ้ำไป 4 รอบ และจบด้วยการ ยืดเส้นหลังการออกกำลังกาย โดยหนึ่งคลาสก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ในบางวันเราก็เรียนแบบ 2 คลาสติด 3 ชั่วโมงไปเลย แล้วแต่วันไหนไหวก็ลุยต่อ วันไหนเหนื่อยอยากกลับบ้านก็วันละคลาส เล่นวันจันทร์-ศุกร์

 

นอกจากมวยแล้วสิ่งที่เราชอบเป็นทุนเดิมนั่นก็คือว่ายน้ำ วันไหนต่อยมวยเสร็จก็ไปว่ายน้ำต่อเหยียดๆ ยืดๆ ในสระไปในตัว ส่วนคลาสที่เล่นบ่อยๆ นอกจากนั้นคือการเล่นโยคะ และคลาส คอร์บอดี้ เอ็กเซอร์ไซส์ ที่เน้นการออกกำลังกายเน้นหน้าท้องเพิ่มความแข็งแกร่งและกำจัดไขมันที่ห่วงยางที่พุ่งได้เป็นอย่างดี ซึ่งอยากจะบอกเลยว่าเป็นคลาสที่ทรมานเวอร์ เหมือนร่างจะพังเล่นกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกชินซักที่ แต่สะใจดี 55555+ โดยจะเล่น คอร์บอดี้ เอ็กเซอร์ไซส์, ว่ายน้ำ อาทิตย์ละครั้ง โยคะนานๆ จะเล่นที

 

เรื่องอาหาร เราเชื่อว่ามันเป็นหัวใจหลักของการเปลี่ยนแปลงร่างกายเลยจริงๆ นะ แต่สำหรับตัวเราแล้ว เรามีชีวิตอยู่กับการกิน กินแล้วมีความสุข ดังนั้นเราจึงเป็นสายแบบไม่คุมแต่ก็ไม่กินแหลก คือจะเน้นกินที่ข้าวกลางวันให้เต็มที่ อาหารที่กินได้ชิ้นสุดท้ายของวัน จะอยู่ที่เวลาเลิกงาน ประมาณ 5 โมงครึ่ง ถึง 6 โมงเย็น หลังจากเวลานี้ก็จะไม่กินอะไรอีก (ถ้าออกกำลังกายแล้วโหยมากๆ ก็อาจจะกินพวกโยเกิร์ตบรรเทาทุกข์ไป) ส่วนพวกน้ำหวานๆ น้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม พวกนี้ ปกติไม่กินอยู่แล้ว เป็นคนชอบดื่มน้ำเปล่ามากๆ วันละ 3 ลิตร ถ้าอยากได้อะไรหวานๆ จริงๆ เราจะดื่มพวก โค้ก ซีโร่ ไม่ก็ เป๊ปซี่ แม็กซ์ แทน (ขวดเล็ก)

และนี่คือบันทึกการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเรา

 

เริ่มต้น สิงหาคม 2019 น้ำหนัก 68.65 เวลาผ่านไป 6 เดือน มาต้นเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 64.55 กิโลกรัม ซึ่งเราคิดว่ามันโอเคสำหรับเรามากๆ สำหรับการออกกำลังกายแนวนี้ ตอนแรกเราก็มีความคิดที่ว่า ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ มันคงไม่ช่วยให้หุ่นเปลี่ยนเร็วเท่าการออกกำลังกายแบบเข้ายิมเล่นแมชชีนเวทเทรนนิ่งหรอก แต่ความจริงแล้ว มันก็เอาเรื่อง หุ่นเปลี่ยนอยู่เหมือนกันนะ ถึงจะไม่ปุ๊บปั๊บเท่า แต่มันก็ได้ผลจริงๆ แหละ และเรื่องสุดท้ายที่เราได้จากการต่อยมวยก็คือ เรื่องสมาธิ การต่อยมวยไม่ใช่เป็นการออกกำลังกายหรือศิลปะป้องกันตัวที่ใช้กำลังเป็นอย่างเดียวแต่มันต้องใช้สมาธิใช้ความคิดด้วย ในการที่ต้องออกหมัดยังไง ตอบโต้ยังไง ถึงจะไม่เสียท่าให้เขาทำแต้มได้ อะไรแบบนี้

 

สรุป การออกกำลังกายด้วยการต่อยมวย ระยะเวลา 6 เดือนของเรา คือเห็นผลนะ ชัดเจนเลยว่าร่างกายของเราเปลี่ยนไปจริงๆ ดูสุขภาพดีขึ้น สามารถใส่กางเกงที่คับไปแล้วได้อีกครั้ง 55555+ ด้านสุขภาพจิตก็ดีขึ้นนะ เหมือนได้เอาความเครียดความโมโหไปปล่อยออกกับการออกกำลังกายหมด แถมมีสมาธิมากขึ้นด้วย ถ้าใครชอบการออกกำลังกายแบบที่สนุกๆ มีประติสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และออกกำลังกายแบบทุกส่วน เราแนะนำให้ออกกำลังกายแบบต่อยมวยนะ เห็นผลจริงๆ เราทำได้ ใครก็ทำได้ บอกเลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook