7 เรื่องของ VRZO จากปาก สุรบถ หลีกภัย

7 เรื่องของ VRZO จากปาก สุรบถ หลีกภัย

7 เรื่องของ VRZO จากปาก สุรบถ หลีกภัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่ามกลางกระแส #VRZO วงแตก กำลังเผ็ดร้อนในโลกออนไลน์ขนาดนี้ เราอาจจะเปรียบได้กับการล่มของเรือไททานิค ที่ต้องจมลงกลางมหาสมุทรแอตแลนติค เพียงเพราะปะทะเข้ากับภูเขาน้ำแข็งเพียงนิดเดียว แต่ความเสียหายจุดเล็กๆ กลับสร้างความหายนะที่ยากเกินควบคุม

ความขัดแย้งของธุรกิจเสริมเรื่องความงามที่เป็นประเด็น การถอนตัวของสมาชิกผู้ก่อตั้ง การออกมาแฉลากไส้ซ้ำชนิดไม่ไว้หน้า กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ VRZO กลายเป็นพลุไฟที่พุ่งขึ้นมาในช่วงข้ามคืน หลายคนรู้จักช่องรายการออนไลน์ที่มียอดวิวมากกว่า 700 ล้านวิวนี้อยู่แล้วแต่ก็เชื่อว่ามีอีกหลายคน ยังมีเครื่องหมายคำถามว่า VRZO คือใคร ทำอะไร และทำไมคนถึงสนใจมากมายขนาดนี้ และนี่คือ ความจริงของ VRZO ที่ออกจากปากของ ‘ปลื้ม-สุรบถ หลีกภัย‘ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง VRZO

1. ชื่อ VRZO ตอนแรกจะตั้งสำหรับทำธุรกิจแฟชั่น

ปลื้มก่อตั้งชื่อแบรนด์ VRZO ขึ้นมาเพื่อให้เป็นแบรนด์เสื้อผ้าวัยรุ่น แต่ก็จับพลัดจับผลูหันมาใช้ชื่อนี้ผลิตรายการทางยูทูบเสียก่อน นอกจากนี้ VRZO ยังรับทำโฆษณาทางอินเตอร์เน็ต

2. VRZO เริ่มต้นเพียงแค่ 3 คน

แรกเริ่มเดิมทีทีมงานหลักของรายการ VRZO มี 3 คน คือ สุรบถ, จอร์จ ปรีดิ์โรจน์ เกษมสันต์ และ อิสระ ฮาตะ ที่แท็คทีมกันทำงานทั้งหมดแบบ ‘ม้วนเดียวจบ’ ทั้งการเป็นพิธีกร ถ่ายทำและตัดต่อ จากนั้นได้สมาชิกใหม่มาเพิ่มคือ ทับทิม-มัลลิกา ในบทบาทพิธีกรคู่กับสุรบถ และ แชมป์-ทชณิตร เธียรทณัท เข้ามาเป็นช่างกล้อง จากนั้นด้วยความนิยมที่ทมากขึ้นเรื่อยๆ VRZO จึงขยายอย่างรวดเร็วปัจจุบันมีทีมงานมากกว่า 20 คน แต่ในปัจจุบันนี้ แชมป์ได้ถอนตัว เนื่องจากปัญหาสุขภาพ และกลายเป็นดราม่า ครั้งล่าสุดที่เขาโพสต์สเตตัสอย่างเผ็ดร้อน ตอบโต้ สุรบถ หลีกภัย ส่วน จอร์จ เพิ่งขอแยกทางไปได้ไม่นาน

3. ไม่ต้องอยู่ในฟรีทีวี แต่สปอนเซอร์ก็วิ่งเข้าหา

ตัวเลขรายได้ของ VRZO หลายคนต้องตาลุกวาว โดยแยกเป็นรายได้จากผู้สนับสนุนรายการ 70% อีก 30% มาจากการขายสินค้า VRZO

4. ฮิตแล้วกลับมาทำธุรกิจเสื้อผ้าที่เคยตั้งใจ

VRZO ให้ฮิตติดตลาด นักธุรกิจหนุ่มหัวก้าวหน้าคงยึดมั่นว่า ‘น้ำขึ้นให้รีบตัก’ จึงตั้งหน้าตั้งตาขยายแบรนด์อย่างไม่หยุดหย่อนความที่ VRZO เริ่มต้นจากเป็นแบรนด์เสื้อผ้า แต่หลังจากทำรายการในชื่อเดียวกันแล้วได้รับความนิยมอย่างสุดๆ ทำให้เสื้อผ้าต้องหันมาผูกติดกับรายการ โดยเขาเริ่มผลิตเสื้อผ้าที่มีโลโก้ของรายการ หรือสกรีนคาแร็กเตอร์ตัวละครในรายการ ส่วนสินค้า VRZO ก็มีหลากหลายขึ้น จากเมื่อก่อนที่ผลิตเฉพาะเสื้อผ้า ตอนนี้ขยายไปสู่ของใช้และแอ็คเซสโซรี่ เช่น กระเป๋า หมวก กำไล และปากกา สุรบถบอกว่ายอดขายของสินค้ากระเตื้องขึ้นเรื่อยๆ

5. แบรนด์ดังแล้วก็ขายชื่อแบรนด์เป็นเฟรนไชส์ด้วยเสียเลย

ช่องทางทำเงินอีกแหล่งหนึ่งของสุรบถคือการขาย Brand License ที่ผ่านมาเขาได้ขาย Brand License ของ VRZO ให้ญาติเพื่อไปเปิดร้านกาแฟ ‘VRZO Coffee’ ซึ่งตอนนี้เปิดให้บริการคอกาแฟอยู่แถวๆ เกษตร-นวมินทร์

6. ไม่แคร์แม้จะถูก Hate Speech

“ผมมองเป็นเรื่องธรรมดาครับ มีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียด จะเกลียดผมเพราะอะไรก็แล้วแต่ จะบอกให้ฟังนะ บางคนที่ไม่ชอบผมแล้วมาคอมเมนต์แรงๆ ไม่เคยดูรายการที่ผมทำด้วยซ้ำไป แต่ตั้งตัวว่าไม่ชอบตั้งแต่แรกแล้ว ผมมีภูมิต้านทานต่อคำด่าหยาบคาย พอโดนคอมเมนต์เสียๆ หายๆ ผมไม่เก็บมาคิดให้ทำลายความเชื่อมั่นของตัวเองหรอก เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ในโลกออนไลน์

“ฝากถึงคนที่เสพติดการคอมเมนต์คนอื่นด้วยคำหยาบคายหน่อยแล้วกันครับ โอเคว่าคนอย่างผมรับเรื่องนี้ได้ แต่สำหรับบางคนที่ Sensitive สิ่งที่คุณทำมันไปทำร้ายเขาเลยนะ ยังไงแล้วการใช้สื่ออินเตอร์เน็ตก็ต้องคำนึงถึงมารยาทในการแสดงความเห็นด้วย อย่าสนุกจนเกินขอบเขตโดยการสาดเสียเทเสียใส่คนอื่นไปทั่ว มันเถื่อนและถ่อย คุณสนุกอยู่คนเดียวนะ แต่ผมว่ามันไม่เจ๋ง ไม่คูล ไม่ทำให้คนอื่นสนใจตัวคุณขึ้นมาได้เลยสักนิด”

7. คู่รักที่ชื่อทับทิม

“ผมไม่ใช่พวกมองโลกสวยงามไปเสียหมด เพราะรู้ว่าคนเราก็ต้องมีด้านสวยงามและด้านมืดอยู่ในตัว ผมและทับทิมรับด้านที่ไม่ค่อยสวยหรูของกันและกันได้เสมอ ผมรักในสิ่งที่เป็นตัวทับทิมทั้งหมด คนอาจอิจฉาที่ได้แต่งงานกับเน็ตไอดอลที่เป็นที่คลั่งไคล้ของหนุ่มๆ ในโลกออนไลน์ แต่ผมรู้สึกว่าโชคดีที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ชื่อทับทิมต่างหากครับ ตัวจริงของทับทิมน่ารัก เปรี้ยว ซ่า แก่นเฟี้ยวเหมือนที่เห็นในรายการนั่นแหละครับ เป็นผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเองมาก (ลากเสียง) ตรงไปตรงมา ผมรักทับทิมเพราะความดีของเธอครับ”

Credit

ข้อมูลและภาพประกอบ : นิตยสาร GM#415 Vol.27 February 2013

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook