'บุหรี่ไฟฟ้า' ไม่ใช่ทางเลือกช่วยเลิกบุหรี่

'บุหรี่ไฟฟ้า' ไม่ใช่ทางเลือกช่วยเลิกบุหรี่

'บุหรี่ไฟฟ้า' ไม่ใช่ทางเลือกช่วยเลิกบุหรี่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้า ไม่สามารถทำให้เลิกบุหรี่ได้ พร้อมย้ำว่า ทั้งบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่จริง ต่างให้โทษต่อร่างกาย ซึ่งขัดแย้งกับนักสูบ ที่เชื่อว่า บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะให้โทษต่อร่างกาย แต่ก็มีสารพิษน้อยกว่าบุหรี่จริง
ในปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งมีกลิ่นและรสชาติที่ดีกว่าบุหรี่จริง ทำให้นักสูบบางกลุ่มเชื่อว่า มันสามารถทำให้เลิกบุหรี่ได้ และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แม้บุหรี่ไฟฟ้าจะมีการใช้งานเพียง 10 ปี ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าในระยะยาวนั้น จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย

อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยัน ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ชี้ชัดว่า บุหรี่ไฟฟ้า สามารถช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่ได้ แต่พบว่า เยาวชน และผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย ตัดสินใจซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาทดลองสูบ และเสพติดในที่สุด ที่สำคัญในบุหรี่ไฟฟ้า ยังมีสารพิษโดยเฉพาะสารเสพติดอย่างนิโคติน และสารกลุ่มโลหะหนักต่างๆ ที่เป็นสารก่อมะเร็งมากกว่าบุหรี่จริง

เทปด้าน ผู้ใช้งานรายหนึ่ง รู้ดีว่า 'บุหรี่ไฟฟ้า' เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย แต่เชื่อว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เลิกบุหรี่จริงได้ จึงตัดสินใจใช้ เช่นเดียวกับที่ภาครัฐรณรงค์ 'เลิกบุหรี่' แต่ก็ไม่ได้ทำให้เลิกได้ทั้งหมดเช่นกัน ที่สำคัญการซื้อบุหรี่ไฟฟ้านั้น ยากยิ่งกว่าการหาซื้อบุหรี่ทั่วไป 

'บุหรี่ ไฟฟ้า' ประกอบไปด้วยสารกลุ่มโลหะหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งมากกว่าบุหรี่ทั่วไป ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว ที่สำคัญยังเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ห้ามขาย ผู้ใดฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ และริบสินค้า ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ.2557 

และ 'บุหรี่ไฟฟ้า' ไม่ได้เสียภาษี‬ ดังนั้นการครอบครองสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษี‬ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook