[รีวิว] ASUS Zenfone 2 Laser ทางเลือกใหม่ของคนงบ 6,990 บาท

[รีวิว] ASUS Zenfone 2 Laser ทางเลือกใหม่ของคนงบ 6,990 บาท

[รีวิว] ASUS Zenfone 2 Laser ทางเลือกใหม่ของคนงบ 6,990 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

    ถ้าพูดถึงมือถือที่มีกล้องที่โฟกัสได้รวดเร็วเพราะมีระบบที่เรียกว่า Laser Focus โดยใช้แสง Laser ที่ใช้ในการดึงวัตถุทำให้ภาพที่ออกมาโฟกัสได้ชัดและง่ายต่อการถ่ายภาพ จะต้องมีราคาแพงเป็นหมื่น

แต่ทั้งหมดนั้นกำลังจะถูกเปลี่ยนแปลงเพราะมือถือที่เราจะรีวิวนี้ คือ ASUS Zenfone 2 Laser ที่มีราคาอยู่ในช่วง 4,990 บาท ถึง 6,990 บาทเท่านั้น

รายละเอียดของ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE551KL)

- ขนาดตัวเครื่อง 143.7 x 71.5 x 10.5  มม.
- สีตัวเครื่อง หน้าสีดำ หลังมีให้เลือกได้แก่ Ceramic White, Black
- น้ำหนัก 140 กรัม
- CPU Qualcomm Snapdragon 410 Quad Core 1.2 GHz
- GPU Adreno 306
- RAM 2GB
- ความจุในตัว 16GB
- เพิ่มได้ด้วย Micro SD 128GB
- 3G 850 / 900 / 1900 / 2100  HSDPA 42.2 Mbps
- 4G LTE 1(2100), 2(1900), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 20(800) Cat 4 150/50
- WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth V4.0
- หน้าจอ 5.5 นิ้วความละเอียด 1280x720
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล Auto Focus | กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล Laser Focus + Dual LED Flash
- แบตเตอรี่ 3,000 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1

รูปร่าง

    ด้านหน้า ASUS Zenfone 2 Laser ได้มารีวิวนี้เป็นขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1280x720 อาจจะดูน้อยไปสักหน่อยกับหน้าจอขนาดนี้ แต่เชื่อเถอะครับ ว่าคนใช้ส่วนใหญ่ถ้าไม่ติดเรื่องความละเอียดมากมันก็เพียงพอ แต่ถ้าต้องการความละเอียดที่สมบูรณ์กว่านี้คงต้องไปเลือก Zenfone 2 Laser ขนาด 5 นิ้ว เพราะคุณจะได้ความละเอียดเท่ากัน

ส่วนบนมีกล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 5.5 นิ้วหรือ 5 นิ้ว พร้อมไฟแจ้งเตือนสถานะ และ หูฟังสถานสนทนา

    ส่วนล่างมีปุ่มกด Back Home และ Recent

    ด้านข้างซ้าย เรียบไม่มีอะไร แต่การตกแต่งกำลังดี

    ด้านข้างขวา มีร่องเปิดฝาหลังด้านล่าง

หากถ่ายมุมนี้นั้นจะเห็นได้ว่าตัวเครื่องด้านหลังมีความโค้งมนเล็กน้อย

    ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 ตัดเสียงรบกวน ปุ่ม Power และช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

    ด้านล่างมีช่องเสียบ Micro USB และไมโครโฟนสนทนา

    ด้านหลังมีกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับ Laser Focus พร้อมกับ LED Flash คู่ พร้อมปุ่มกดปรับระดับเสียง โลโก้ ASUS และลำโพงตัวเครื่อง รายละเอียดนั้นเรียกได้ว่าเหมือนกับ Asus Zenfone 2 และ Asus Zenfone Selfie พอสมควร

กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

ส่วนล่างของด้านหลังจะมีช่องลำโพง

ถ้าจะแยกให้ออกว่ารุ่นไหนคือรุ่นไหน จากด้านหลัง คำตอบคือ ส่วน Laser Focus Zenfone 2 Laser จะไว้ฝั่งขวา ส่วน LED Flash จะไว้ฝั่งซ้าย และดวงกลมและโตกว่านิดหน่อย ส่วนถ้าเป็นรุ่นจอ 5 นิ้วกล้องจะลดขนาดเหลือ 8 ล้านพิกเซล

    ภายใน สามารถใส่ซิมแบบ Micro SIM คู่ เพิ่มความจำด้วย Micro SD ได้ และมีแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วย ถ้าเป็นรุ่นจอ 5 นิ้ว จะได้แบตเตอรี่ขนาด 2400 mAh


        รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby) ใช้งานร่วมกับซิมการ์ดแบบ microSIM เท่านั้น

ประสิทธิภาพของ ASUS Zenfone 2 Laser

    จากที่ได้ลองวัดประสิทธิภาพกับหลายโปรแกรมทดสอบพบว่า Antutu ทำได้ที่ 23,391 Nenamark 2 53.5FPS รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด ถือว่าทำได้ดีในระดับของมัน แล้วการใช้งานจริงพบว่าการตอบสนองของ Apps และการใช้งานหลาย ๆ อย่างพร้อมกันสามารถตอบโจทย์ทั้งการเล่นเกมได้พอสมควร แต่ถ้าเกมหนัก ๆ ทำใจว่ามันไม่ได้ดีกว่าที่คิด แต่ถ้าคนใช้งานทั่วไป เท่านี้เพียงพอแล้วครับ

    แบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh เท่ากับ ASUS Zenfone Selfie ทุกประการ แต่เมื่อใช้ขุมพลังที่แรงน้อยกว่าทำให้แบตเตอรี่กลับอยูได้นานกว่าถึง 7 ชั่วโมงกว่า ๆ แต่ถ้าใครกลัวว่าจะหมดระหว่างวัน ASUS ก็จัดระบบบริหารจัดการพลังงานมาให้เยอะพอสมควร

คุณสมบัติลูกเล่นที่น่าสนใจของ


    UI ของ ASUS Zenfone 2 Laser ยังให้เหมือนกับในตระกูลของ Zenfone และ Zenpad ที่เรียกว่า Zen UI ที่สามารถบอกเรื่องสิ่งที่ต้องทำและรูปแบบ UI ที่เรียบง่าย ครบถ้วน ปรับแต่งได้เหมือนเดิม และสามารถสั่งรวม icon ได้ด้วย

พร้อมทั้ง Apps ที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องมากมายเช่น


- Trend Micro Dr.Safety ระบบป้องกันเครื่องที่ค่อยตรวจสอบเกี่ยวกับภัยต่าง ๆ

- ZenTalk

- What's Next ค่อยตรวจสิ่งที่อยู่ข้างหน้าและแจ้งเตือนได้ทั้งใน Home Screen และ Lock Screen

- เชื่อมต่อกับ ASUS WebStorage

- Kids Mode

- My ASUS

    สำหรับเรื่องความบันเทิงของ ASUS Zenfone 2 Laser ยังคงเหมือนกับ ASUS Zenfone รุ่นอื่นที่ให้วิทยุ Fm Radio พร้อมกับระบบปรับเสียงผ่าน Audio Wizard ที่สามารถปรับเสียงได้ง่ายดาย และยังมีโปรแกรมแต่งภาพมาให้เพื่อความเพลิดเพลินในการแต่งภาพ

    นอกจากนี้ยังให้เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, ปฏิทิน, ไฟฉาย และอื่น ๆ อีกเพียบ มีครบทุกอย่างแต่จะใช้หมดหรือเปล่านี่แหล่ะคือประเด็น


    กล้องหลังของ ASUS Zenfone 2 Laser ให้มา 2 แบบ สำหรับ รุ่น 5 นิ้วให้กล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล แต่สำหรับรุ่นที่รีวิวนี้เป็นขนาด 5.5 นิ้วจะได้กล้องที่มีความละเอียดมากถึง 13 ล้านพิกเซล สิ่งที่เหมือนกันคือ LED Flash คู่และ Laser Focus ซึ่งทำให้การโฟกัสทำได้รวดเร็วและถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้มีลูกเล่นมากมายเหมือกับรุ่นพี่ทำให้การถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ทำได้ง่าย แถมยังมี Pro Mode ปรับภาพได้เอง การถ่ายวีดีโอทำได้ระดับ 1080P สิ่งที่ต้องติกับกล้องตัวนี้คือ คาดว่าค่า F น่าจะอยู่ที่ 2.0 ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยเช่นไฟตรงถนนจะมี Noise รบกวนเยอะจนทำให้ภาพไม่สวยเท่าที่ควร

     ส่วนกล้องหน้าที่ไม่ว่ารุ่น 5 นิ้วหรือ 5.5 นิ้วก็เหมือนกันคือความละเอียดที่ 5 ล้านพิกเซล นอกจาก Mode ลูกเล่นกล้องหน้าที่เยอะเหมือนกับ Zenfone รุ่นอื่นแล้ว ยังมี Auto Focus มาให้ด้วย คราวนี้หน้าชัดมากหลังเบลอมากสามารถทำได้ง่ายดายเลยล่ะ

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก ASUS Zenfone 2 Laser)

สรุปในภาพรวมของ ASUS Zenfone 2 Laser

     จากในบรรดา 3 รุ่นใหม่ของ ASUS ที่พึ่งเปิดตัวไป กลุ่มของ Zenfone 2 Laser ถือว่าน่าจับตามองเพราะได้เทคโนโลยีการถ่ายภาพที่เรียกได้ว่า ให้ความคมชัดในเรื่องการโฟกัสที่รวดเร็วแม่นยำแม้จะมีขนาดหน้าจอเพียง 5 นิ้วเท่านั้น เรียกได้ว่ามาเหนือกว่าใคร แต่ยังคงข้อเสียเดิมในเรื่อง Low Light อยู่ แต่ะกล้องหน้าดีขึ้น และลูกเล่นที่เรียกได้ว่าเชื้อไม่ทิ้งแถว แต่รุ่น 5.5 นิ้วถือว่าทำได้ดีตั้งแต่การเล่นเกมและใช้งานปกติจนเรียกได้ว่า ไม่จำเป็นต้องเอา Zenfone 2 รุ่นล่างเลยก็ว่าได้

     แม้ว่ารุ่น 5 นิ้ว 3G ราคาเริ่มต้นที่ 4,990 บาท รุ่น 5 นิ้ว LTE ราคา 5,990 บาท และรุ่นที่รีวิวกับขนาด 5.5 นิ้วเปิดราคามา 6,990 บาทเท่ากับ Zenfone 2 รุ่นที่ให้ CPU 1.8GHz แต่ถ้าคิดว่าต้องการความพอดีไม่และเชื่อถือได้กับ CPU Qualcomm ASUS Zenfone 2 Laser 5.5 ถือว่าน่าสนใจมากอีกรุ่นหนึ่ง แต่ถ้าแนะนำให้ซื้อจริง ๆ รุ่น 5 นิ้ว LTE ก็เพียงพอแล้วครับ ส่วนคู่แข่งนั้นก็มากมายแต่รุ่นนี้อาจจะด้อยกว่ากลุ่มของมือถือจีนที่ไว้ใจได้และมาใหม่หลาย ๆ ตัวอยู่ครับ ฉะนั้นการตัดสินใจขึ้นอยู่กับตัวคุณเองครับ

ข้อดี

- กล้องหลังมี Laser Focus

- ลูกเล่นไม่มีตัด เหมือนกับรุ่นแพงกว่า

- มีให้เลือกหลายรูปแบบตามความเหมาะสม

- ราคาไม่ได้สูงอย่างที่คิด

- แบตเตอรี่รุ่น 5.5 นิ้วใหญ่และทนมาก

ข้อควรปรับปรุง

- การถ่ายภาพกลางคืนยังทำได้ไม่ดี

- รุ่น 5.5 นิ้ว จะมีคุณสมบัติเหมือนกันกับรุ่นอื่นของ Brand นี้เกินไป

- ประสิทธิภาพต้องทำใจเมื่อเล่นเกมหนัก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook