ถ้าอวัยวะในร่างกายพูดได้ คุณจะได้ยินเสียงเรียกร้องอะไรจากพวกเขาบ้าง?

ถ้าอวัยวะในร่างกายพูดได้ คุณจะได้ยินเสียงเรียกร้องอะไรจากพวกเขาบ้าง?

ถ้าอวัยวะในร่างกายพูดได้ คุณจะได้ยินเสียงเรียกร้องอะไรจากพวกเขาบ้าง?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เสียงกระซิบจากอวัยวะภายใน: 6 อวัยวะสำคัญอยากบอกอะไรกับคุณบ้าง?

ร่างกายของเราเป็นเครื่องจักรที่น่าอัศจรรย์ซึ่งทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน แต่น้อยครั้งที่เราจะหยุดฟังเสียงของอวัยวะภายในที่กำลังส่งสัญญาณเตือนหรือร้องขอการดูแล ลองจินตนาการดูว่า หากวันหนึ่งอวัยวะเหล่านี้สามารถพูดคุยกับเราได้ พวกเขาจะบอกอะไรกับเราบ้าง บทความนี้จะพาคุณไปเงี่ยหูฟัง "เสียงกระซิบ" จากอวัยวะสำคัญ เพื่อให้เราหันกลับมาใส่ใจดูแลสุขภาพองค์รวมให้ดียิ่งขึ้น

ร่างกายของเราสื่อสารกับเราอยู่เสมอผ่านอาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความเหนื่อยล้า ความเจ็บปวด หรือความผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้น เพียงแต่เราอาจจะละเลยหรือไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของสัญญาณเหล่านั้น การสวมบทบาทสมมติว่าอวัยวะต่าง ๆ พูดได้ จะช่วยให้เราเข้าใจความต้องการของร่างกายและตระหนักถึงผลกระทบจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

เสียงจากอวัยวะสำคัญ: พวกเขาอยากบอกอะไร?

สมอง: ขอเวลาให้ฉันได้พักและจัดระเบียบเสียบ้าง

สมองทำงานหนักตลอดเวลา ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว และยังรับข้อมูลไม่หยุดหย่อนตลอดทั้งวัน สิ่งที่สมองต้องการคือการพักผ่อนอย่างเต็มที่ในตอนกลางคืน เพราะการนอนหลับที่มีคุณภาพจะช่วยให้สมองได้จัดระเบียบความทรงจำ กำจัดของเสีย และเตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่ได้อย่างสดใส นอกจากนี้ ควรหาเวลาทำสมาธิหรือกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เพื่อลดความเครียดที่ถาโถมเข้ามา

หัวใจ: ช่วยขยับร่างกายหน่อย ฉันจะได้แข็งแรง

หัวใจคือเครื่องปั๊มเลือดที่ทำงานโดยไม่มีวันหยุด เพื่อส่งออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงทุกส่วนของร่างกาย แต่การนั่งนิ่ง ๆ เป็นเวลานาน ทำให้หัวใจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หัวใจจึงอยากขอให้คุณลุกขึ้นมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น และช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ ได้โปรดลดอาหารเค็ม ๆ มัน ๆ ลงบ้าง เพราะสิ่งเหล่านั้นคือภาระหนักที่ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักเกินไป

ปอด: ขออากาศบริสุทธิ์ให้ฉันได้หายใจเต็มที่ได้ไหม

ทุกครั้งที่ร่างกายสูดควันพิษเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นควันบุหรี่ ฝุ่น PM2.5 หรือมลภาวะต่าง ๆ มันเหมือนกับการส่งผู้ร้ายเข้ามาทำลายปอดโดยตรง ปอดต้องการอากาศที่สะอาดและบริสุทธิ์เพื่อแลกเปลี่ยนออกซิเจนให้ร่างกายมีชีวิตชีวา หากเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับมลภาวะ ก็ควรป้องกันด้วยการใส่หน้ากากอนามัย และหาโอกาสไปพักผ่อนในสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์บ้าง

กระเพาะอาหารและลำไส้: ได้โปรดกินให้เป็นเวลา

การกินอาหารไม่ตรงเวลาทำให้ระบบย่อยอาหารต้องปั่นป่วนกับการหลั่งน้ำย่อยออกมาเก้อ เมื่อถึงเวลากิน เธอกลับรีบเร่งเคี้ยวไม่ละเอียด หรือกินอาหารที่ย่อยยากและไม่มีประโยชน์ ทำให้ระบบย่อยอาหารต้องทำงานหนักมากเกินไป ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงอย่างผักผลไม้ เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี และอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะน้ำคือตัวช่วยสำคัญในทุกกระบวนการ

ตับ: อย่าส่งสารพิษมาให้ฉันกำจัดมากเกินไปเลย

ตับเปรียบเสมือนโรงงานกำจัดของเสียของร่างกาย ทุกครั้งที่ดื่มแอลกอฮอล์ กินยาเกินความจำเป็น หรือรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงและผ่านการแปรรูปมาก ๆ ภาระหนักจะตกมาอยู่ที่ตับ แม้ตับจะแข็งแกร่งและฟื้นฟูตัวเองได้ แต่หากใช้งานหนักเกินไปเรื่อย ๆ สักวันตับอาจจะป่วยและไม่สามารถทำงานให้ร่างกายได้เหมือนเดิม

ดวงตา: พักสายตาจากหน้าจอบ้างนะ

ดวงตาทนกับความน่าสนใจของโลกในจอทั้งสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ แต่การจ้องมองแสงสีฟ้าเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ตาแห้งและเมื่อยล้าเหลือเกิน ควรพักสายตาทุก ๆ 20 นาที ด้วยการมองไปไกล ๆ สัก 20 วินาที และกะพริบตาให้บ่อยขึ้น เพื่อให้น้ำตามาหล่อเลี้ยง ดวงตาอยากทำหน้าที่ให้คุณได้มองเห็นความสวยงามของโลกใบนี้ไปตราบนานเท่านาน

บทสรุป: ถึงเวลาฟังเสียงร่างกายของคุณ

แม้ในความเป็นจริงอวัยวะต่าง ๆ จะไม่สามารถพูดกับเราได้ แต่ "อาการ" ที่ร่างกายแสดงออกมาคือรูปแบบการสื่อสารที่สำคัญที่สุด การปวดหัวเรื้อรัง อาการอ่อนเพลีย ท้องอืด หรือแม้แต่ความรู้สึกไม่สดชื่น ล้วนเป็น "เสียง" ที่ร่างกายพยายามจะบอกเราว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้น แทนที่จะรอให้ร่างกายประท้วงจนเจ็บป่วย ลองเริ่มต้นเป็น "ผู้ฟังที่ดี" ตั้งแต่วันนี้ ใส่ใจกับอาหารที่รับประทาน ขยับร่างกายให้มากขึ้น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม การดูแลเอาใจใส่อวัยวะทุกส่วนก็เหมือนกับการขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่ทำงานหนักเพื่อเรามาทั้งชีวิต เพื่อให้พวกเขาสามารถอยู่กับเราและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไปอีกนานแสนนาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล