โรคปอดบวม มีสาเหตุมาจากพัดลมไอน้ำจริงหรือ?

โรคปอดบวม มีสาเหตุมาจากพัดลมไอน้ำจริงหรือ?

โรคปอดบวม มีสาเหตุมาจากพัดลมไอน้ำจริงหรือ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เฟซบุ๊ค ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว พูดถึงข่าวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขอให้ญาติผู้ป่วยงดการใช้พัดลมไอน้ำ เพื่อคลายร้อนแก่ผู้ป่วย เพราะอาจเป็นการแพร่เชื้อโรคที่ทำให้เป็นปอดบวมได้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วเราสามารถใช้พัดลมไอน้ำได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักโรคปวดบวมจากหมอแมวกันก่อนค่ะ

 

โรคปอดบวม คืออะไร

โรคปวดบวม หรือ Legionnaires' disease มีต้นกำเนิดในปี2519ที่ฟิลาเดเฟีย มีงานทหารผ่านศึก มีทหารผ่านศึกจำนวนมากไปประชุมที่โรงแรมแห่งนึง หลังงานประชุม ก็กลับบ้านกันไป

ปรากฎว่า หลังจากนั้น มีหมอรพ.นึงไปเจอเคสปอดบวมรุนแรง และไปพบว่าอาการเกิดพร้อมกับผู้ป่วยอีกรายที่เป็นทหารผ่านศึกเหมือนกัน พอพบว่าอาการเดียวกัน มาจากโรงแรมเดียวกัน เลยลองเช็คดู ปรากฎว่าทหารที่ไปงาน มีหลายคนที่ป่วยและเสียชีวิต

หลังจากผ่านไปหลายเดือน จึงได้พบว่าเป็นเชื้อชนิดใหม่ จึงได้ตั้งชื่อโรคนี้ว่า Legionnaires' disease เพราะไปเกิดในงานทหารผ่านศึก (Legion - ทหาร)

อัตราการเสียชีวิตตกอยู่ที่ 5-30% และการติดเชื้อเกิดในคนที่อายุมากกับมีโรคประจำตัว

 

โรคปอดบวม มาจากไหน?

หลังจากหากันนาน ก็พบว่าเชื้อมันซ่อนอยู่ในหอทำความเย็นของอาคาร โดยอาคารใหญ่ๆ จะมีหอปรับอากาศอยู่ที่ดาดฟ้า หอนี้จะพ่นน้ำลงมา เอาอากาศไปผ่านน้ำ จากนั้นอากาศที่เย็นจะหมุนลงไปที่ห้องในอาคาร พอหมุนลงไปที่อาคาร ไปเจอคน ไปเจอของร้อนๆ ก็จะดึงกลับขึ้นไป พ่นให่เย็นใหม่แล้ววนกลับลงไปอีก

ในขั้นตอนการพ่นน้ำแล้วลดอุณหภูมิอากาศ จะมีละอองน้ำที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าลอยไปด้วย ในหอปรับอากาศของโรงแรมนั้น บังเอิญมีเชื้อ Legionnaires นี้อยู่ มันเลยลงไปที่ห้องพัก และลอยเข้าไปกับอากาศที่หายใจลงปอดได้

 

มีเครื่องอื่นๆ ที่นำเชื้อโรคมาได้อีกหรือไม่?

มีรายงานวิจัยเรื่องเชื้อนี้ ว่าเจอการระบาดจากเครื่อง พัดลมไอน้ำ (mist machine) ในหลายประเทศ (พบไม่บ่อย) และเจอการติดเชื้อจากเครื่องสร้างหมอควันแบบ Ultrasonic ในตึกเด็ก

ส่วนพัดลมไอเย็น ยังไม่พบข้อมูล ส่วนนึงคือพัดลมไอเย็นมีหลายแบบด้วย บางแบบใช้แล้วไม่ปล่อยไอน้ำ บางแบบมีความชื้นออกมาด้วย และในทางทฤษฎี เราพบว่า ละอองน้ำเล็กๆที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สามารถนำเชื้อโรคได้ทั้งนั้น อย่างกรณีการระบาดของเชื้อSARS ที่ตึกเอมอยการ์เดน ก็มาจากละอองน้ำที่ลอยขึ้นจากท่อในห้องน้ำ

งานวิจัยหลายชิ้นก็ระบุว่าละอองที่เกิดจากการกดชักโครก สามารถพาเชื้อโรคไปได้หลายเมตร ดังนั้น อะไรก็ตามที่ปล่อยความชื้นออกมาในรูปละอองน้ำ แม้ไม่เห็นด้วยตาเปล่าก็เสี่ยงได้ทั้งนั้น

 

ป้องกันจากเชื้อโรคตัวนี้ได้อย่างไร?

เชื้อนี้ไม่ได้เจอง่าย เพราะต้องอาศัยหลายปัจจัยคือ เช่นต้องมีเชื้อตัวนี้ / ต้องมีเชื้ออีกชนิดนึงประกอบ และเชื้อก็ไม่ได้อยู่ดีๆเกิดเอง แต่ต้องติดมาจากที่อื่น ดังนั้นวิธีป้องกันก็คือ

- ใช้น้ำที่สะอาดในเครื่องใดๆที่ปล่อยไอน้ำ หรือทำความเย็นแบบที่มีความชื้นเพิ่มขึ้น

- ใครใช้เครื่องทำความเย็นพวกพัดลมไอเย็นแล้วไม่แน่ใจว่ายังไง ลองเอาตัวจับความชื้นไปวางในห้องแล้วเปิด ถ้าความชื้นขึ้นชัดเจน ก็ระวังไว้ก่อน เพราะการมีความชื้นขึ้น ก็แปลว่าไอน้ำมันก็ออกมาด้วยได้

- ล้างเครื่อง / ล้างภาชนะใส่น้ำ ให้สะอาด ในบางครั้ง ไม่เจอเชื้อในน้ำ แต่ไปเจอเชื้อเกาะอยู่ตรงจุดที่มีลมพัดผ่านหรือตัวกรอง

 

อันตรายกับคนทั่วไปหรือไม่?

ยังไม่ทราบแน่ชัด เพียงแต่ตั้งแต่มีการใช้พัดลมไอน้ำกันมาหลากหลายที่ ยังไม่มีที่ไหนที่ก่อให้เกิดโรคระบาดใหญ่โต

ในงานวิจัยตรงข้อ 3 ลองไปอ่านๆดู บางอันพบว่าพนักงานมีภูมิต่อเชื้อในขั้นสูงแบบไม่มีอาการ (แปลว่าติดเชื้อนี่แหละ แต่ไม่เป็นไร)

 

หมอแมวทิ้งท้ายไว้ว่า ขอให้ ล้างพัดลมไอน้ำให้สะอาด ใช้น้ำให้ดี และอย่าไปใช้กับคนที่ป่วยหรือภูมิต่ำค่ะ

 

อ่านบทความจากหมอแมวได้เต็มๆ ด้านล่างค่ะ

 

ขอบคุณเนื้อหาจาก เฟซบุ๊ค ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว
ภาพประกอบจาก Pixabay

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook