ทำไม "ยาอมแก้เจ็บคอ" ที่มี "ยาต้านแบคทีเรีย" ถึงอันตราย?
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/he/0/ud/5/27893/throat-pills.jpgทำไม "ยาอมแก้เจ็บคอ" ที่มี "ยาต้านแบคทีเรีย" ถึงอันตราย?

    ทำไม "ยาอมแก้เจ็บคอ" ที่มี "ยาต้านแบคทีเรีย" ถึงอันตราย?

    2021-04-05T15:56:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    เจ็บคอเมื่อไร เลี่ยงยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เมื่อนั้น อาการเจ็บคอจากการเป็นไข้หวัด สามารถหายเองได้โดยไม่ต้องกินยาเสมอไป เพราะนาอมแก้เจ็บคอที่มียาต้านแบคทีเรีย หรือยาแก้อักเสบ อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

    ส่วนประกอบของยาอมแก้เจ็บคอ ที่มียาปฏิชีวนะเป็นส่วนประกอบ

    ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า ยาอมบรรเทาอาการเจ็บคอบางชนิด มียาปฏิชีวนะ (ยาต้านแบคทีเรีย) เป็นส่วนประกอบ

    • นีโอมัยซิน
    • แบซิเทรซิน
    • ไทโรทริซิน

    ยาอมเหล่านี้มียาชาเป็นส่วนประกอบ จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ชั่วขณะ แต่ยาปฏิชีวนะที่ผสมอยู่เป็นยาส่วนเกิน เพราะไม่มีผลในการรักษาอาการเจ็บคอให้หายเร็วขึ้น

    เจ็บคอแบบไหน ควรกินยาชนิดใด

    เจ็บคอจากการติดเชื้อไวรัส

    ยาปฏิชีวนะ เป็นยาต้านแบคทีเรีย ไม่มีผลต่อการฆ่าเชื้อไวรัส จึงไม่ควรใช้ยาผมที่ผสมยาปฏิชีวนะ

    เจ็บคอจากแบคทีเรีย

    ยาปฏิชีวนะในยาอมไม่สามารถขจัดแบคทีเรียที่คอ หรือต่อมทอนซิลให้หมดไปใด้ จึงไม่ควรใช้ยาอมที่ผสมยาปฏิชีวนะ

    ยาปฎิชีวนะ เสี่ยงทำให้ดื้อยา

    หากเรากินยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ กินยาโดยไม่จำเป็น ยาปฏิชีวนะที่ถูกกลืนลงสู่ทางเดินอาหาร จะสัมผัสโดนแบคทีเรียประจำถิ่นในลำไส้ใหญ่ แบคทีเรียปกติก็จะถูกกระตุ้นให้กลายเป็นเชื้อดื้อยา

    ข้อควรทราบ เกี่ยวกับยาแก้เจ็บคอ

    ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขได้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาอมบรรเทาอาการเจ็บคอที่มียาปฏิชีวนะเป็นส่วนประกอบทุกตำรับ โดยประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 19 มีนาคม 2564

    ขอขอบคุณ

    ข้อมูล :ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

    ภาพ :iStock