เตือน! ตรุษจีน ระวังประทัด ดอกไม้ไฟ เสี่ยงอัมพาต-เสียชีวิต

เตือน! ตรุษจีน ระวังประทัด ดอกไม้ไฟ เสี่ยงอัมพาต-เสียชีวิต

เตือน! ตรุษจีน ระวังประทัด ดอกไม้ไฟ เสี่ยงอัมพาต-เสียชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ หรือพลุ ในพิธีเซ่นไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ ซึ่งในประทัดจะมีส่วนประกอบที่เป็นวัตถุระเบิดสามารถทำให้เกิดอันตรายได้ โดยหลายปีที่ผ่านมาจะพบว่ามีผู้ที่ได้รับอันตรายจากพลุและดอกไม้ไฟ รวมถึงประทัดจำนวนไม่น้อย ทั้งนี้ สถิติและสถานการณ์การเกิดเหตุการณ์อุบัติภัยจากการระเบิดประเภทพลุ ดอกไม้ไฟ บั้งไฟในประเทศไทย รอบ 10 ปี (พ.ศ.2548 – 2557) สรุปได้ดังนี้ พบเหตุการณ์ ทั้งหมด 76 เหตุการณ์ (ไม่รวมเหตุการณ์ที่เกิดจากเด็กเล่นประทัด) ซึ่งเหตุการณ์ส่วนใหญ่ จำนวน 46 เหตุการณ์ มีสาเหตุมาจากพลุ รองลงมาเกิดจากบั้งไฟเป็นสาเหตุจำนวน 11 เหตุการณ์ และสรุปการเกิดเหตุการณ์แยกรายจังหวัด พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ และสุพรรณบุรี เกิดเหตุการณ์สูงสุด 10 และ 7 ครั้งตามลำดับ


สำหรับอันตรายจากประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุ มีผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนี้

1.อันตรายจากการเกิดไฟไหม้และการระเบิด จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต การบาดเจ็บ และทรัพย์สินที่เสียหาย

2.อันตรายจากการได้รับสารเคมี ได้แก่ สารโปแตสเซียมเปอร์คลอเรต ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ, สารซัลเฟอร์หรือกำมะถัน เมื่อเผาไหม้เกิดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ทำให้เกิดอาการตาแดง ผิวหนังอักเสบ หายใจขัด เกิดการระคายเคืองที่ระบบทางเดินหายใจ, สารโปตัสเซียมไนเตรต ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และทางเดินหายใจ, สารแบเรียมไนเตรต ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อหู ตา จมูก และผิวหนัง ทำลายตับ ม้าม และเกิดอัมพาตที่แขน ขา ในบางรายอาจทำให้เสียชีวิตได้

3.อันตรายจากความดังของเสียงระเบิดจากพลุและดอกไม้เพลิงมีระดับเสียงกระแทกสูง มีผลทำให้เกิดอาการหูตึงชั่วคราว แต่หากต้องได้ยินติดต่อกันเป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดอาการหูตึงถาวร และยังมีผลต่อเรื่องของสุขภาพจิต ทำให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิด รำคาญ ส่งผลให้นอนไม่หลับ ทำให้สุขภาพร่างกายอ่อนแอ รวมทั้งมีผลต่อผู้ป่วยโรคหัวใจและความดันโลหิต

4.อันตรายจากความร้อนและแรงระเบิด พลุและดอกไม้ไฟใช้การจุดระเบิดเป็นตัวทำปฏิกิริยา เกิดความร้อนทำให้ผิวหนังไหม้และทำให้บาดเจ็บและอาจสูญเสียอวัยวะสำคัญ ซึ่งบางรายรุนแรงถึงขั้นทำให้ตาบอดหรือนิ้วขาดได้


นายแพทย์อำนวย กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการผลิตดอกไม้ไฟ ควรตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น ผู้ผลิตเองต้องเป็นผู้ที่มีทักษะความชำนาญ เพราะในช่วงนี้มักจะมีผู้ลักลอบทำพลุขายเองในย่านชุมชน ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงหลายครั้งดังนั้น สิ่งที่ต้องพึงระวังคือระมัดระวังมิให้เกิดการเสียดสี และการใช้ประกายไฟ หรือความร้อนในบริเวณที่มีวัตถุระเบิด เพราะอาจจะนำมาซึ่งสาเหตุแห่งการเกิดปฏิกิริยาของวัตถุระเบิด ส่วนผู้ขายควรเก็บดอกไม้เพลิงให้ห่างจากแหล่งของความร้อนหรือประกายไฟ ไม่ควรขนย้ายดอกไม้ไฟโดยไม่จำเป็น ต้องมั่นใจว่าลูกจ้างภายในร้านมีความรู้ความเข้าใจว่าจะดำเนินการอย่างไรถ้าเกิดอัคคีภัยขึ้น โดยการอบรมให้ความรู้แก่ลูกจ้างเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย


ในโอกาสนี้ ขอแนะนำประชาชนผู้เล่นประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุ เพื่อความปลอดภัย ต้องอ่านคำแนะนำก่อนจุดชนวน เด็กควรอยู่ในการกำกับดูแลของผู้ใหญ่ เก็บไว้ให้ห่างจากประกายไฟความร้อนบุหรี่ จุดให้ห่างจากตัวประมาณ 1 ช่วงแขนและเล่นในบริเวณที่โล่งแจ้ง ควรสวมเสื้อผ้าที่เป็นผ้าฝ้าย ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่เป็นใยสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสทีลีน เพราะอาจจะติดไฟง่าย ควรเตรียมภาชนะที่บรรจุน้ำไว้ใกล้กับบริเวณที่เล่น เผื่อไว้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ดับเพลิงที่จุดแล้วไม่ติด ที่สำคัญหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วมาเล่น นอกจากนี้ ผู้ผลิต ผู้ขาย ผู้เล่นประทัด ดอกไม้ไฟ หรือพลุ ควรตั้งอยู่บนความไม่ประมาท เพื่อการเริ่มต้นเทศกาลที่ดีเป็นมงคล ปลอดโรคและปลอดภัย หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook