"คาร์ซีท" (Car Seat) เบาะรถยนต์สำหรับเด็ก กับสิ่งที่พ่อแม่ควรรู้ก่อนใช้งาน

"คาร์ซีท" (Car Seat) เบาะรถยนต์สำหรับเด็ก กับสิ่งที่พ่อแม่ควรรู้ก่อนใช้งาน

"คาร์ซีท" (Car Seat) เบาะรถยนต์สำหรับเด็ก กับสิ่งที่พ่อแม่ควรรู้ก่อนใช้งาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อพูดถึงความปลอดภัยบนรถยนต์ หลายคนคงนึกถึงเข็มขัดนิรภัยมาเป็นอันดับแรก แต่เมื่อพูดถึงความปลอดภัยบนรถยนต์สำหรับเด็ก บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า คาร์ซีท หรือ เบาะรถยนต์สำหรับเด็ก มีประโยชน์และช่วยป้องกันอันตรายให้กับลูกน้อยของคุณได้ แต่ก่อนที่จะซื้อเบาะรถยนต์สำหรับเด็กมาใช้งาน คุณพ่อคุณแม่ควรจะต้องทราบอะไรบ้าง ทาง Hello คุณหมอ ได้นำเรื่องนี้มาฝากกัน


คาร์ซีท เบาะรถยนต์สำหรับเด็ก (Car Seat) คืออะไร?

คาร์ซีท เบาะรถยนต์สำหรับเด็ก หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เบาะนิรภัยสำหรับเด็ก ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องลูกของคุณเมื่ออยู่ในรถ จากอุบัติเหตุในท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นอย่าง การชนกันของรถยนต์ แต่การที่จะทำให้ลูกของคุณปลอดภัยมากขึ้นได้นั้น คุณพ่อคุณแม่ก็จำเป็นจะต้องเลือกเบาะรถยนต์สำหรับเด็กให้ถูกต้อง ทั้งน้ำหนัก ขนาด และควรเลือกให้เหมาะกับอายุของเด็ก รวมทั้งเหมาะกับรถยนต์ของคุณด้วย และนี่คือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทราบ เพื่อจะได้เลือกที่นั่งให้เหมาะสมกับลูกของคุณ

สิ่งที่พ่อแม่ควรรู้เกี่ยวกับ คาร์ซีท เบาะรถยนต์สำหรับเด็ก  เลือกเบาะรถยนต์สำหรับเด็กที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์ เรียนรู้วิธีติดตั้งเบาะและการใช้สายรัดก่อนที่จะให้ลูกๆ ของคุณได้นั่ง หากต้องการความช่วยเหลือหรือตรวจสอบว่าคุณติดตั้งเบาะรถยนต์สำหรับเด็กได้ถูกต้องหรือไม่ ให้ไปที่สถานที่ที่คุณซื้อเบาะมา เพื่อให้ผู้ขายได้ช่วยตรวจสอบให้อีกครั้ง ทารกควรเริ่มต้นการใช้เบาะรถยนต์สำหรับเด็กด้วยการหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ หรือใช้เบาะแบบที่เปลี่ยนได้ และเมื่อเด็กๆ โตขึ้น ค่อยเปลี่ยนให้พวกเขานั่งหันหน้าไปทางด้านหน้าของรถยนต์

นอกจากสิ่งที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ไว้ ก่อนที่จะทำการเลือกซื้อเบาะรถยนต์สำหรับเด็ก ให้กับลูกน้อยของคุณอีก ดังนี้

1. ซื้อ คาร์ซีทมือสอง มาใช้งานโดยไม่ยอมทำการบ้านมาก่อน

หากคุณกำลังพิจารณาที่จะซื้อ เบาะรถยนต์สำหรับเด็กมือสอง มาใช้งาน คุณต้องแน่ใจว่า

คาร์ซีท มือสอง จะต้องมาพร้อมกับคำแนะนำ ฉลากแสดงวันที่ผลิต และหมายเลขรุ่น ยังไม่ได้รับการเรียกคืน ไม่หมดอายุ หรือมีอายุมากกว่า 6 ปี ไม่มีความเสียหายที่มองเห็น หรือต้องไม่มีชิ้นส่วนที่หายไป หากไม่ทราบประวัติที่ชัดเจนของเบาะรถยนต์สำหรับเด็ก แนะนำว่าไม่ควรเลือกมาใช้งาน

2. วางเบาะรถยนต์ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง

สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในการวางเบาะรถยนต์สำหรับเด็ก คือ เบาะหลังซึ่งห่างจากถุงลมนิรภัย หากวางเบาะรถยนต์สำหรับเด็กเอาไว้ที่ด้านหน้า เมื่อถุงลมนิรภัยพองขึ้น มันอาจจะทำให้เบาะที่นั่งด้านหลังไปกระแทกกับหัวของลูกคุณได้ ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ลูกเกิดอาการบาดเจ็บสาหัส หรือถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้น เด็กที่นั่งอยู่ในเบาะรถยนต์นิรภัยที่หันไปทางด้านหน้า อาจได้รับอันตรายจากถุงลมนิรภัยได้

หากจำเป็นจำต้องเดินทางด้วยยานพาหนะ เช่น รถปิ๊กอัพที่มีที่นั่งแถวเดียว ควรจะปิดการใช้งานถุงลมนิรภัยด้านหน้า หรือติดตั้งสวิตช์เปิด-ปิด เพื่อป้องกันไม่ให้ถุงลมนิรภัยเกิดการชน และถ้าหากคุณต้องวางเบาะรถยนต์สำหรับเด็ก ควรวางเอาที่เบาะหลัง ในช่วงกึ่งกลางของที่นั่ง แทนที่จะวางเอาไว้ติดกับประตู เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บระหว่างการชน

3. ติดตั้งเบาะรถยนต์อย่างไม่ถูกต้อง

ก่อนที่คุณจะติดตั้งเบาะรถยนต์สำหรับเด็กเข้ากับเบาะรถยนต์ ควรจะอ่านคำแนะนำของผู้ผลิตและส่วนที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ในคู่มือสำหรับเจ้าของรถ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่นั่งนั้นมีความแน่น สามารถเคลื่อนไหวได้ไม่เกิน 1 นิ้ว หรือ 25 เซนติเมตร โดยวัดจากทางด้านข้าง หรือด้านหน้าไปด้านหลัง เมื่อจับพบจุดที่จะติดตั้งแล้ว ให้หันหน้าเบาะรถยนต์สำหรับเด็กไปทางทิศทางที่ถูกต้อง

หากคุณใช้เบาะรถยนต์สำหรับเด็กทารก ควรจะต้องหันเบาะไปยังด้านหลังของรถยนต์ และโปรดจำเคล็ดลับเหล่านี้ไว้

  • ใช้ช่องใส่สายรัดตามที่คู่มือการใช้งานระบุเอาไว้ โดยเบาะติดสายคาดนิรภัยจะอยู่ที่ด้านล่าง หรือที่ไหล่ของเด็ก

  • วางสายรัดเหนือไหล่ของลูก หัวเข็มขัดของสายรัด และคลิปในการรัดสาย ควรอยู่บริเวณหน้าอก โดยต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า สายรัด และคลิปในการรัดสายนั้นราบไปกับหน้าอก และสะโพกของลูกโดยไม่หย่อน

  • หากจำเป็นให้วางผ้าห่มเล็กๆ ที่ม้วนแน่นไว้ข้างลูกน้อยของคุณ เพื่อใช้ในการรองรับศีรษะและคอ

4. เบาะรถยนต์สำหรับเด็กอยู่ในมุมที่ไม่ถูกต้อง

ความจริงแล้วตำแหน่งที่ถูกต้องของการบางเบาะรถยนต์สำหรับเด็กทารก ก็คือ ควรปรับเบาะให้หันไปทางด้านหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะของลูกคุณพลิกไปข้างหน้า นอกจากนั้นแล้วควรต้องรัดเข็มขัดนิรภัย เพื่อเปิดทางเดินลมหายใจของลูกให้สะดวก แต่เมื่อลูกของคุณโตขึ้น คุณอาจจะต้องปรับเบาะรถยนต์สำหรับเด็กให้เหมาะสมอีกครั้ง โดยดูรายละเอียดได้จากคำแนะนำของผู้ผลิต

5. การย้ายตำแหน่งเบาะไปข้างหน้าเร็วเกินไป

การวางเบาะรถยนต์สำหรับเด็กในตำแหน่งหันไปข้างหน้า ก็เพียงเพื่อให้คุณเห็นลูกๆ ได้จากกระจกมองหลัง แต่คำแนะนำที่ดีที่สุดก็คือ การหันหน้าไปทางข้างหลังรถยนต์ให้เป็นเวลานานที่สุด จนกว่าเด็กจะมีน้ำหนักและส่วนสูงเป็นไปตามที่ผู้ผลิตเบาะรถยนต์กำหนดไว้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของเบาะรถยนต์สำหรับเด็กไปทางด้านหน้าควรทำตามขั้นตอน ดังนี้

  • ติดตั้งเบาะรถยนต์สำหรับเด็กตามคำแนะนำของผู้ผลิต โดยใช้เข็มขัดนิรภัย หรือจุดยึดที่อยู่ด้างล่างของเบาะ

  • ใช้สายรัดเกี่ยวกับด้านบนของเบาะรถยนต์ เพื่อให้เกิดความมั่นคง

  • ปรับสายรัดให้อยู่ที่ไหล่ หรือสูงกว่าไหล่ของเด็ก

  • ควรปรับให้อยู่ในตำแหน่งที่พอดีกับเด็กจะเป็นการดีที่สุด


6. ไม่ถอดแจ็คเก็ตหนาๆ หรือเอาผ้าห่มของเด็กออก

แจ็คเก็ตหนาๆ หรือผ้าห่ม สามารถป้องกันการรัดของเข็มขัดนิรภัยที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น หากนำแจ็คเก็ตหนาๆ หรือผ้าห่มมาคลุมเอาไว้บนตัวลูกน้อย ยังจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับเด็กๆ ได้อีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook