"ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" ห่างไกลไข้หวัดใหญ่

"ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" ห่างไกลไข้หวัดใหญ่

"ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" ห่างไกลไข้หวัดใหญ่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาธารณสุขพะเยา แนะวิธีปฏิบัติตน ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด ให้ห่างไกลโรคไข้หวัดใหญ่

นายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ในปี 2561 สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2561 มีรายงานผู้ป่วยจำนวน 2,241 ราย อัตราป่วยเท่ากับ 471.97 ต่อประชากรแสนคน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ซึ่งพบจำนวนผู้ป่วยมากกว่าในปี 2560 พบผู้ป่วยมากที่สุดในเดือนมกราคม กลุ่มเด็กอายุแรกเกิด –14 ปี ซึ่งผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่จะพบเป็นกลุ่มก้อนในสถานที่ที่คนอยู่หนาแน่น เช่น ศูนย์เด็กเล็ก สถานศึกษา หอพัก รวมทั้งในสถานประกอบการ/สถานที่ทำงาน การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์ ในปี 2562 คาดว่าในช่วงนี้จะมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น เนื่องจากกำลังเข้าสู่ฤดูกาลระบาดของโรค ประกอบกับช่วงนี้สภาพอากาศแปรปรวนหนาวเย็นสลับร้อนและมีฝนตก ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทันทำให้เจ็บป่วยได้ และอาจจะส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในชุมชนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เด็กเล็กและหญิงตั้งครรภ์

ดังนั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา จึงได้กำชับให้หน่วยบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ในจังหวัดพะเยา มีการเฝ้าระวังและคัดกรองกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ตามมาตรฐานการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดใหญ่อย่างเข้มข้น และหากพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนให้มีการตรวจจับและสอบสวนโรคในพื้นที่เพื่อควบคุมโรคอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญเน้นการประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้กับประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง โดยเน้นสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เช่น โรงเรียน สถานประกอบการ สถานที่ทำงาน ค่ายทหาร สถานประกอบการ ห้องชุด/หอพัก โดยใช้มาตรการ ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ ดังนี้

  1. ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม

  2. ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น ลูกบิด ราวบนรถโดยสาร

  3. เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย

  4. หยุด คือ เมื่อป่วย ควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เด็กเล็กและหญิงตั้งครรภ์ ควรดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้ามีไข้ให้กินยาลดไข้ หากไม่ดีขึ้นใน 2 -3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook