รักไม่ช่วยอะไรเลย! เปิดข้อสอบชีวะ ถึงเขียนคำตอบมาแบบนี้ ยังไงก็ได้ 0
งานนี้ต่อให้รักแค่ไหน มันก็ไม่ใช่คำตอบ เมื่อนักเรียนสอบวิชาชีววิทยา แต่คิดว่าน่าจะไม่น่าตอบคำถามนี้ได้จริงๆ เลยเขียนคำตอบแบบนี้ลงมาในข้อสอบ แต่ครูคงไม่น่าจะเห็นใจ
แท็ก
งานนี้ต่อให้รักแค่ไหน มันก็ไม่ใช่คำตอบ เมื่อนักเรียนสอบวิชาชีววิทยา แต่คิดว่าน่าจะไม่น่าตอบคำถามนี้ได้จริงๆ เลยเขียนคำตอบแบบนี้ลงมาในข้อสอบ แต่ครูคงไม่น่าจะเห็นใจ
การตรวจข้อสอบโดยเฉพาะข้อสอบแบบอัตนัยเขียนตอบนั้นเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคุณครู เพราะว่าต้องมาลุ้นกันว่าจะเจอคำตอบอะไรบ้างในข้อสอบที่นักเรียนเขียนตอบมาให้
เด็กนั้นเรียกว่ามีความคิดที่บริสุทธิ์คิดอะไรก็แสดงออกมาแบบนั้นเลยจริงๆ โดยเฉพาะกับการบ้านที่เป็นอัตนัยให้เขียนคำตอบตามความคิดของตัวเอง ที่ทำเอาครูกลั้นขำไม่อยู่มานักต่อนัก
ปิดข้อสอบวิชาประวัติศาสตร์นักเรียนมัธยม เขียนคำตอบมาแบบนี้บอกเลยว่า เอาไปเถอะ 10 คะแนนเต็ม ตอบแบบจริงใจของแทร่ ถึงจะตอบแบบสั้นๆ แต่โอเค รู้เรื่อง
ต้องบอกได้เลยว่าเป็นลายมือที่ทำเอาอาจารย์ถึงกับงงไปเลย เมื่อต้องมาตรวจงานข้อสอบนักศึกษาที่ลายมือค่อนข้างสวยแบบแปลกๆ อ่านไปงานนี้เหมือนกับจะถูกสะกดจิตไปอะไรอย่างนั้น
การตรวจข้อสอบ หรือตรวจการบ้าน ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ท้าทายสำหรับผู้เป็นครูเลยก็ว่าได้ เพราะว่าครูไม่มีทางรู้เลยว่าจะต้องเจอกับคำตอบอะไรที่นักเรียนเขียนลงมาบ้าง
งานนี้ครูผิดแหละ ออกคำสั่งมาไม่ชัดเจนเอง เจอแบบนี้จะมาโทษนักเรียนไม่ได้นะ จุดนี้ชีวิตคุณครูคือหนึ่งวันพันเหตุการณ์เลยจริงๆ เจอแบบนี้ทุกวันครูคงปวดหัวแน่นอน
งานนี้บอกได้คำเดียวเลยว่าคุณครูถึงกับต้องเอ่ยคำว่าขอโทษ ครูคงสอนไม่ดีเอง เมื่อสอบกลางภาคให้นักเรียนเขียนชื่อวิชาที่สอบลงในกระดาษคำตอบ แต่ละคนเขียนชื่อวิชาไม่ตรงกันซักคน
ต้องบอกเลยว่าเคล็ดลับการทิ้งดิ่งข้อสอบนั้นไม่ใช่ว่าจะใช้ได้เสมอไป เพราะว่าในบางครั้งการทิ้งดิ่งทำข้อสอบก็อาจจะให้ผลต่างจากที่เราคาดหวังก็ได้นะ
บางครั้งความท้าทายของการเป็นครู นั่นก็คือการตรวจข้อสอบให้นักเรียน ที่เหมือนลุ้นการจับฉลาก ว่าจะออกมาดีหรือร้าย ยิ่งเป็นข้อสอบอัตนัยเติมคำด้วย บอกได้เลยว่าต้องเตรียมใจ
ทุกๆ การสอบเราเชื่อว่าหลายคนเมื่ออยู่ในสมัยวัยเรียนที่ผ่านมาก็ต้องมีบ้างแหละที่ต้องมีการเดาข้อสอบและกามั่วกันแบบไม่ติดเยอะ แต่จะให้กาแบบไม่มีทิศทางมันก็คงไม่ได้มันต้องมีเทคนิคถึงจะได้คะแนน
หรือว่านี่คือความในใจที่อยากจะส่งไปให้ถึงคุณครู เมื่อคุณครูตรวจข้อสอบ แล้วให้นักเรียนเขียนชื่อคุณครูผู้สอนลงไปในกระดาษข้อสอบ เปิดอ่านดูถึงกับกลั้นขำไม่อยู่
เราคงจะต้องได้อยู่ด้วยกันอีกปีแล้วแหละ เมื่อคุณครูพยายามสู้ให้นักเรียนได้ผ่านการสอบเลื่อนระดับชั้นแบบเต็มที่แล้ว แต่นักเรียนสู้กลับ ผลสุดท้ายมันก็ต้องเป็นแบบนี้นี่แหละ
การตรวจข้อสอบนักเรียนนั้นก็เปรียบเสมือนความท้าทายอย่างหนึ่งที่คนเป็นครูต้องได้เจอ เพราะมันกับเหมือนกับการเสี่ยงดวงที่บางครั้งก็ทำให้ยิ้มบางครั้งก็เหมือนโดนช็อตฟีลแสนล้านโวลต์
แล้วครูจะเอาคะแนนตรงไหนให้หนูเนี่ย เมื่อคุณครูตรวจข้อสอบ แล้วเจอกับกระดาษคำตอบสุดปวดหัว มีตัวเลือกให้ 3 แต่นักเรียนตอบมาเกินแบบนี้ ครูหมดคำจะพูด หมดแรงจะตรวจจริงๆ
เมื่อคุณครูตรวจกระดาษทด สำหรับข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ หวังว่าจะเห็นหลักการคิดข้อสอบคิดโจทย์วิชาคณิตของเหล่านักเรียนที่ตั้งใจทำข้อสอบกันอย่างเต็มที่ แต่เปิดกระดาษแต่ละหน้าน้ำตาครูแทบไหล
ปากกาในมือคุณครูสั่นแล้ว จะให้คะแนนหนูยังไงดี คำชี้แจงแจ้งมายังไง หนูก็ทำตามที่โจทย์สั่งมาแบบตรงเป๊ะ จนครูตรวจข้อสอบไปถึงกับกุมขมับแบบหมดแรงจะสู้กันเลยทีเดียว
คุณครูถึงกับต้องตั้งคำถามกับตัวเอง นี่เราเรียนกันมาทั้งปีจริงๆ รึเปล่าเนี่ย ทำไมจำชื่อครูกันไม่ได้ เมื่อคุณครูทำข้อสอบข้อพิเศษเหมือนให้คะแนนฟรีๆ กับนักเรียน แค่เพียงตอบชื่อของคุณครูให้ถูกต้อง แต่คำตอบของนักเรียนแต่ละคนทำคุณครูถึงกับหมดแรงสู้
เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยผ่านการทำข้อสอบที่รู้ตัวว่า ทำไม่ได้กันอย่างแน่นอน ซึ่งทุกคนก็มีวิธีที่จะมั่วข้อสอบที่แตกต่างกันออกไป ตามความถนัดของแต่ละคน และสิ่งที่เรียกว่าเป็นตัวเลือกแรกๆ ของการมั่วข้อสอบนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นการใช้เคล็ดลับทิ้งดิ่ง การรัวไปเลยแบบข้อเดียวทั้งแถว
แน่นอนว่าการเข้าห้องสอบนั้นเป็นการวัดระดับความรู้ที่ตัวของเราได้เล่าเรียนและศึกษามา ว่าสามารถตักตวงวิชาและความรู้ที่คุณครูสอนไปได้แค่ไหน แต่เมื่อรู้ตัวเองว่ายังไงก็ไม่น่าจะทำข้อสอบได้ นี่คือสิ่งที่เราควรทำเพื่อขอคะแนนสงสารคุณครู