หนุ่มน้อยดอยแม่สลอง ม.หอการค้าไทย ปลูกชาออร์แกนิคส่งต่อสุขภาพดีสร้างรายได้ระหว่างเรียน

หนุ่มน้อยดอยแม่สลอง ม.หอการค้าไทย ปลูกชาออร์แกนิคส่งต่อสุขภาพดีสร้างรายได้ระหว่างเรียน

หนุ่มน้อยดอยแม่สลอง ม.หอการค้าไทย ปลูกชาออร์แกนิคส่งต่อสุขภาพดีสร้างรายได้ระหว่างเรียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พื้นที่สูงดอยแม่สลอง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่มีอากาศค่อนข้างหนาวและมีความสูงที่ได้ระดับที่เหมาะสมกับการปลูกชา เกษตรกรส่วนใหญ่เน้นการปลูกชาเป็นหลัก มีทัศนียภาพที่สวยงาม ดอยแม่สลองได้ชื่อใหม่เป็นบ้านสันติคีรีมีการออกบัตรประชาชนให้เมื่อปีพ.ศ.2521 ดอยแม่สลองคืนสู่ความสงบ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญนับแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

854743

นายทักษิณ ทวีอภิรดีบุญสืบ (น้องเฉิน) นักศึกษาวิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชั้นปีที่2 เจ้าของแบรนด์ชา Ar.FONG Tea เล่าว่า “ครอบครัวผมปลูกชาดอยแม่สลอง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายบนพื้นที่ 8 ไร่ ตั้งแต่สมัยก่อนรุ่นคุณพ่อไปจนถึงรุ่นบรรพบุรุษ แต่เราจะเน้นปลูกไว้ทานเองและมีส่งให้ญาติผู้ใหญ่ในวาระพิเศษต่างๆ ผมเลยเห็นถึงโอกาสที่จะนำสิ่งที่เรามีต้นทุนอยู่แล้วมาต่อยอดให้มันเป็นธุรกิจประจวบเหมาะกับมีเทรนด์เรื่องสุขภาพเข้ามาและมีแนวโน้มที่เติบโตมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วิทยาลัยผู้ประกอบการได้มีการผลักดันให้ทำธุรกิจตั้งแต่ยังเรียนพร้อมมอบทุนในการทำธุรกิจ เราเลยนำชาตัวนี้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชา Ar.FONG Tea พันธุ์ชาที่ปลูก คือ ชาอู่หลงแต่พอเข้าสู่กระบวนการคัดชาเมื่อเราแบ่งส่วนต่างๆ ของต้นชาแล้วจะได้ออกมาเป็น 2 รสชาติคือ ชาอู่หลงต้นตำหรับกับชาเขียวอู่หลง เมล็ดพันธุ์ที่เราใช้ปลูกมาจากรุ่นคุณปู่ ได้ปลูกชาพันธุ์นี้จนกระทั่งกลายมาเป็นสายพันธุ์ชาอู่หลง ที่ดอยแม่สลอง ด้านวิธีการเก็บเกี่ยวทั้ง 3 ฤดูเราจะเก็บได้ฤดูละครั้ง ซึ่งฤดูฝนปริมาณน้ำค่อนข้างมากผลผลิตได้มากแต่ในทางกลับกันมันทำให้ตัวใบชารับน้ำมากเกินไปจึงรสชาติของชาทำให้ไม้เข้มข้นเท่ากับฤดูร้อนและฤดูหนาว ส่วนฤดูหนาวจะเป็นฤดูที่ชาที่ดีที่สุดเพราะไอหนาว หมอกจะกระทบกับหน้าดินและใบชาชื้นพอดีไม่เปียกชุ่มจนเกินไปทำให้ชารับน้ำในปริมาณที่พอดีและไม่มากเกินไปพอเรานำมาแปรรูปและชงออกมาจะเป็นชาที่มีความเข้มข้นซึ่งแตกต่างจากชาในฤดูฝน จุดเด่นความเป็นชา Ar.FONG Tea ของเราแต่เดิมเรามีการปลูกไว้ทานเองอยู่แล้วชาทุกต้นบนที่ดินของเราจะไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง จะไม่ผสมหัวเชื้อเพื่อให้ชามีกลิ่นหอม เราเน้นการปลูกที่มีคุณภาพ ในเชิงธุรกิจเราจะไม่เน้นปริมาณว่าเราต้องผลิตให้ได้จำนวนเยอะๆ เพื่อนำมาขายให้ได้กำไรเยอะๆ เราจะไม่เน้นในเรื่องของปริมาณ ต้นทุนที่ใช้ในการผลิตแต่เราจะเน้นในเรื่องของคุณภาพที่เราจะทำออกมาให้มันดีที่สุดโดยเราจะไม่ใช้สารเคมีเข้ามาช่วยเลยเพื่อเราจะได้รักษารสชาติของชา คุณประโยชน์ที่อยู่ในชาให้ได้มากที่สุด”

ar.fongtea2

“ในแต่ละเดือนมียอดขายเฉลี่ย 1,000 ห่อต่อเดือน ตอนนี้ธุรกิจชา Ar.FONG Tea ของเราอยู่ในช่วงเริ่มต้น การขายชาของเราไม่ได้มุ่งให้ขายแล้วรวยแต่เรากำลังส่งต่อในเรื่องของสุขภาพที่ดี ความรัก เรื่องราวดีดีผ่านชา Ar.FONG Tea ส่วนหนึ่งที่เราเลือกขายชาเพราะว่าตอนนี้ในเชิงธุรกิจมีการขายชามากมายใส่สารเคมี ใส่หัวเชื้อเพื่อแต่งกลิ่น ขายในราคาที่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับคุณภาพ มันเลยทำให้เรารู้สึกว่าคนทั่วไปที่ดื่มชาต้องได้รับชาที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับราคาจริงๆ คนดื่มชาทุกคนหวังเรื่องสุขภาพไม่ใช่สารพิษต่างๆ ที่ได้จากการดื่มชาซึ่ง Ar.FONG Tea อยากให้คนที่ดื่มชาได้รับประโยชน์ตรงนี้จริงๆ ปัจจุบันได้ปรับแพ็คเกจจิ้งใหม่มีการนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีความแตกต่างจากท้องตลาดให้มากขึ้นและในส่วนของการเพาะปลูกชาอาจจะมีการขนาดที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูกให้เพิ่มมากขึ้น ในอนาคตมีแผนตั้งโรงงานเป็นของตัวเองเพื่อใช้ในการผลิตชาออร์แกนิคแปรรูปของเราเองโดยผ่านอ.ย. เพื่อเป็นการการันตีให้ผู้บริโภคที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของเราไปด้วยว่าได้ผลิตภัณฑ์มาจากเรา 100% ไม่ต้องผ่านกระบวนการผลิตจากโรงงานอื่นๆ ท่านใดสนใจสามารถติดตามได้ที่เฟสบุ๊ค : Ar.FONG Tea หรืออินสตาร์แกรม : ar_fong_Tea ” น้องเฉิน กล่าวทิ้งท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook