ทิศทางธุรกิจการศึกษา ปี 2558

ทิศทางธุรกิจการศึกษา ปี 2558

ทิศทางธุรกิจการศึกษา ปี 2558
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในรอบปีที่ผ่านมา สถานการณ์แวดวงการศึกษาไทยมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่แน่ไม่นอน เนื่องจากปัญหาการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ทำให้ความต่อเนื่องของนโยบายการศึกษาไม่ต่อเนื่อง เลยไปถึงเรื่องราวของธุรกิจการศึกษาที่ได้รับผลกระทบไม่น้อยค่ะ

ทิศทางธุรกิจการศึกษา ปีทิศทางธุรกิจการศึกษา ปี

ทิศทางธุรกิจการศึกษา ปี"58

หนึ่ง กวดวิชาอ่วมเตรียมโดนรีดภาษี เป็นประเด็นร้อนของทุกปี เพราะสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะชงเรื่องเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในทุกรัฐบาลให้กระทรวงการคลังเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชาโดยเมื่อกลางเดือน ธ.ค. 2557 ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการที่ ป.ป.ช.เสนอมา และให้ ศธ.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำเป็นรายละเอียดในการปฏิบัติ เพื่อเสนอกลับมายัง ครม.อีกครั้งภายใน 30 วัน

ผลเช่นนี้จึงมีผลต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของ ศธ.ที่เกี่ยวข้องโดยตรง หากดูจากทีท่าของเลขาธิการ "บัณฑิต ศรีพุทธางกูร" เหมือนจะตกอยู่ในภาวะอีหลักอีเหลื่อ โดยเขาบอกว่าที่ผ่านมาเคยมีการหยิบยกประเด็นนี้มาพูดคุยกันแล้วหลายครั้ง และกรมสรรพากรมีข้อสรุปว่าไม่ควรเก็บ เพราะจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ต้องจ่ายค่าเรียนเพิ่มขึ้น

สอง บูมโรงเรียนนานาชาติ การก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 นี้จะเป็นการเปิดมิติใหม่ด้านการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ความเข้าใจภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้ปกครองต่างก็ให้ความสำคัญถึงประเด็นนี้อย่างมาก โดยคนที่มีกำลังทรัพย์สูงเลือกที่จะส่งลูกเข้าโรงเรียนนานาชาติ เพื่อเตรียมวางรากฐานชีวิตให้ลูกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉลี่ยจะมีโรงเรียนนานาชาติเปิดใหม่ปีละ 3-5 แห่ง และมีแนวโน้มเปิดใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รองรับจำนวนนักเรียนที่มากขึ้นจากทั้งเด็กไทยและต่างชาติ ซึ่งไม่เพียงแต่โรงเรียนนานาชาติสัญชาติไทย ยังมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาชิมลาง อาจเพราะมองเห็นว่าทำเลที่ตั้งของไทยน่าจะเป็นฮับทางการศึกษาของเอเชียในอนาคต

สาม สถาบันสอนภาษาอังกฤษรับอานิสงส์เปิดเออีซี นอกเหนือจากการเปิดประชาคมอาเซียนจะทำให้โรงเรียนนานาชาติได้รับความสนใจมากขึ้น ยังส่งผลให้ตลาดธุรกิจสถาบันสอนภาษาอังกฤษกระเตื้องขึ้นอีกด้วย เพราะเมื่อมิติของพรมแดนเลือนหายไป การติดต่อสื่อสารและการทำงานกับประเทศอื่นต้องอิงภาษากลางอย่างภาษาอังกฤษเป็นหลัก นั่นหมายความว่าผู้ใหญ่วัยทำงานต้องพัฒนาทักษะด้านภาษาของตัวเอง

สี่ มหาวิทยาลัยแห่เปิดแคมปัสใหม่ มหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนเดินหน้าลงทุนเพิ่ม ทั้งรีโนเวตแคมปัสเดิมให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น รวมถึงขยายแคมปัสแห่งใหม่

ห้า ค่ายใหม่ๆ กระโดดจัดงานมหกรรมการศึกษา ปกติแล้วงานมหกรรมการศึกษาที่จัดเป็นประจำทุกปี คืองานมหกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู มหกรรมค้นอาชีพที่เหมาะกับตนของนักเรียน

วันนี้สถานการณ์ของบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร คนทำธุรกิจด้านการศึกษาก็คงต้องลุ้นตามไปด้วยค่ะ


เรียบเรียง :Yingmass
อ้างอิงข้อมูลจาก : http://www.prachachat.net

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook