เงินเดือน 15,000 บาท ควรผ่อนรถยนต์เดือนละเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ไม่ตึงจนเกินไป
ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์กลายเป็นสิ่งจำเป็นของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลเรื่องที่พักอยู่ไกลที่ทำงาน, ทำงานที่ต้องเดินทางติดต่อกับลูกค้าอยู่เป็นประจำ ฯลฯ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักศึกษาจบใหม่ เพิ่งรับเงินเดือนเริ่มต้น ก็ต้องมองหารถยนต์คันแรกไว้ใช้งานแล้ว
ปัจจุบันฐานเงินเดือนของผู้ที่จบปริญญาตรีส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 15,000 บาท ซึ่งว่ากันตามจริงก็ยังถือว่าค่อนข้างน้อยสำหรับการซื้อรถ โดยเฉพาะผู้ที่มีภาระอื่นๆ ร่วมด้วย และไม่มีรายได้ทางอื่นเสริมเข้ามา
แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีภาระด้านการเงินอื่นๆ หรือมีรายได้เสริมจากช่องทางอื่นด้วย ฐานเงินเดือน 15,000 บาท ก็เพียงพอที่จะซื้อรถยนต์ได้ เนื่องจากไฟแนนซ์จะคิดเอารายรับอื่นๆ เช่น โอที, โบนัส, คอมมิชชั่น ฯลฯ มาหารเฉลี่ยคิดเป็นรายได้ทั้งหมด ซึ่งรายได้แต่ละเดือนนั้น จะต้องมากกว่ายอดผ่อน 2-3 เท่า จึงจะได้รับการอนุมัติ
ดังนั้น รถยนต์สำหรับผู้ที่มีเงินเดือนประมาณ 15,000 บาท ควรมียอดผ่อนต่อเดือนมากที่สุดไม่เกิน 7,500 บาท (แต่หากมียอดหักอื่นๆ เช่น ประกันสังคม, ภาษี, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฯลฯ ก็จะลดลงไปอีก) ซึ่งส่วนมากเป็นรถยนต์ระดับอีโคคาร์ที่มีราคาจำหน่ายราว 4-6 แสนบาท
ยกตัวอย่างเช่น Toyota Yaris ATIV รุ่น Sport ราคา 549,000 บาท ใช้เงินดาวน์ 30% หรือเท่ากับ 165,000 บาทโดยประมาณ ระยะเวลาผ่อนชำระ 60 เดือน ก็จะมียอดผ่อนต่อเดือนรวมดอกเบี้ยรถใหม่ อยู่ที่ประมาณ 7,400 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ดี การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของไฟแนนซ์ไม่เพียงเฉพาะรายรับต่อเดือนเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุงาน, ความน่าเชื่อถือของบริษัท, ประวัติการชำระสินเชื่อ ฯลฯ ควบคู่กันไปด้วยนะครับ