อยากติดแอร์ให้ลูก...ต้องรู้! ก่อนปัญหาสุขภาพถามถึงโดยไม่รู้ตัว

โดยปกติแล้ว เด็กทารกควรจะได้อยู่ภายในห้องมากกว่าการพาเขาออกมาอยู่ภายนอก เพราะในห้องจะมีอุณหภูมิที่ให้ระดับคงที่มากกว่าอากาศที่อยู่ภายนอกห้องนั่นเอง ทั้งยังสามารถช่วยป้องกันลมและมลพิษอื่นๆ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเจ้าตัวเล็กได้พร้อมๆ กันด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ด้วยเพราะอากาศร้อนอบอ้าวจึงทำให้คุณแม่ต้องเปิดแอร์เลี้ยงลูกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการที่เด็กจะได้อยู่แต่ในห้องแอร์เพียงอย่างเดียวใช่ว่าจะเป็นผลดีเสมอไป เพราะการเปิดแอร์ให้ลูกตลอดเวลานั้นจะทำให้สภาพอากาศของห้องมีความอับชื้นสูง เป็นโอกาสดีทีเดียวที่เหล่าเชื้อโรคจะเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ยิ่งหากเด็กทารกคลอดก่อนกำหนดด้วยแล้ว การทำงานของปอดที่ยังไม่แข็งแรง บวกกับยังมีภูมิต้านทานต่ำก็อาจจะทำให้ทารกปอดบวมง่ายขึ้นได้

ให้ลูกอยู่ห้องแอร์ เสี่ยงปัญหาสุขภาพใดบ้าง?

นอกเหนือจากดังที่กล่าวมาแล้ว การที่เด็กทารก หรือเด็กวัยซนขึ้นมาหน่อยและแม้แต่ผู้ใหญ่เองก็ยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นภูมิแพ้ขึ้นได้เช่นกัน เพราะถ้าเด็กๆ มีอาการแพ้สปอร์จากเชื้อรา และหากภายในตัวเครื่องปรับอากาศเป็นแหล่งเพาะเชื้อราชั้นดีด้วยแล้ว เมื่อมันพ่นอากาศออกมาทั่วทั้งห้อง ลูกของคุณก็ย่อมต้องสูดอากาศเข้าปอด นอกจากหายจากการเป็นภูมิแพ้ยากแล้วยังอาจส่งผลกระทบทำให้หายใจไม่ออกได้มากขึ้นด้วย

อีกประการหนึ่งที่คุณแม่ยังคาดไม่ถึงก็คือ เนื่องจากเด็กทารกมีสรีระกายภาพที่ค่อนข้างเล็กทุกส่วน โดยเฉพาะในส่วนของรูจมูกที่ยังค่อนข้างเล็กอยู่ ถ้ามีอะไรเข้าไปกระตุ้นซึ่งอาจจะเป็นฝุ่นผง ความเย็นหรือความชื้นจากอากาศก็ตาม เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้รูจมูกบวมขึ้นมาได้ จนทำให้มีน้ำมูกไหลและรูจมูกก็อาจตันจากน้ำมูกได้เช่นเดียวกัน หากคุณแม่สังเกตเผินๆ ก็จะคิดไปว่าลูกเป็นหวัด ซึ่งแต่อันที่จริงแล้ว อาการอุดตันในรูจมูกเช่นนั้นจะทำให้เจ้าตัวน้อยรำคาญ ไม่สบายตัว นอนไม่หลับและส่งผลทำให้เขาไม่สบายได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

อากาศภายในห้องลูกจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจดูแล

การทำงานของเครื่องปรับอากาศโดยทั่วไปจะทำหน้าที่คอยควบคุมอุณหภูมิ และความเย็นภายในห้องนั้นๆ ได้อย่างทั่วถึง จึงทำให้เรารู้สึกสบายตัว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ด้วยเพราะอากาศที่เย็นสบายตัวเวลา อีกทั้งยังสามารถกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ในตัวอีกด้วย สังเกตได้ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ที่หากได้อยู่ภายในห้องแอร์แล้วมักจะส่งผลให้นอนหลับสนิท หลับสบาย และทำให้อารมณ์ดีแจ่มใสดีกว่าการอยู่ห้องที่ไม่มีแอร์ เพราะอากาศร้อนอบอ้าวจึงทำให้เหนียวตัวเหนอะหนะ หงุดหงิดง่ายและอารมณ์เสียบ่อยๆ

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.thisoldhouse.com/

ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจติดแอร์ภายในห้องนอนของลูกก็ควรเลือกขนาดของ BTU แอร์ให้สอดคล้องกันกับความกว้างของตัวห้องด้วย รวมถึงการติดตั้งพัดลมดูดอากาศเพื่อให้มีออกซิเจนไหลเวียนภายในห้องเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ควรดูแลรักษาความสะอาด โดยจะต้องหมั่นล้างที่กรองฝุ่นเป็นประจำทุกสัปดาห์ หากไม่ล้างอยู่เสมอย่อมทำให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและทำให้มันเจริญเติบโต จนทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่ำลง ทำให้เด็กมีสุขภาพที่อ่อนแอ และเจ็บป่วยง่ายตามมาในที่สุด

ด้วยเพราะสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในทุกๆ วัน บ้านไหนไม่มีแอร์บอกเลยว่าแม้แต่ผู้ใหญ่เราเองยังแทบทนอยู่ไม่ไหว นับประสาอะไรจริงมั้ยคะกับเด็กทารกหรือเด็กเล็กๆ เราจึงควรติดแอร์ในบ้านจะดีกว่า และสมควรอย่างยิ่งที่การติดแอร์จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม พร้อมกับหมั่นทำความสะอาดที่กรองอยู่เสมอ หากทำได้ตามนี้... การติดแอร์ให้ห้องนอนเจ้าตัวน้อยก็มาพร้อมความปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้นแล้วค่ะ