ห้ามสั่ง ผัดกระเพรา' ในโรงอาหาร ทบ.

สำหรับคนที่รักการตื่นเช้าแล้วมานั่งจับเจ่ารอชมข่าวทางโทรทัศน์ และรายการที่น่าดูไม่แพ้รายการข่าวอื่นใดที่ออกอากาศทางช่อง 3 นั่นก็คือรายการเรื่องเล่าเช้านี้ที่คุณสรยุทธ์เป็นพิธีกรและเป็นผู้จัดรายการนั่นเอง โดยข่าวละวันที่หยิบยกมาพูดคุยนำเสนอนั้นก็ล้วนมีที่มาที่ไปชัดเจน เป็นการหยิบมาแถลงให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนมากกว่าการเสนอข่าวแบบทั่วไป เพราะคุณสรยุทธ์จะให้การเจาะลึกในประเด็นเนื้อหาข่าวที่ค่อนข้างลึกมาก ดังนั้น ใครที่อยากทราบข่าวเด็ดหรืออยากติดตามข่าวสารแปลกใหม่ที่เจาะลึก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

และข่าวที่เพิ่งกลายเป็นประเด็นไปหยกๆ ก็คือข่าวห้ามสั่งผัดกระเพรา ที่เกิดขึ้นในโรงอาหาร ทบ. นั้น มีแหล่งข่าวระบุว่า สำนักเลขา นุการ ทบ. ติด ป้ายประกาศห้ามร้านอาหารตามสั่งขาย "ผัดกะเพรา" โดยเด็ดขาด ระบุกลิ่นฉุนแสบจมูกรบกวน "ผู้ใหญ่" จนไม่เป็นอันทำงานทำการ สำหรับข่าวนี้ถือเป็นข่าวที่แปลกอีกข่าวหนึ่งกันเลยทีเดียว เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่า ผัดกระเพราถือได้ว่าเป็นอาหารยอดนิยมในบ้านเรา และมักนิยมรับประทานกันเป็นประจำ ซึ่งผัดกระเพราก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเมนูอาหารนิยมในเฉพาะบ้านเราเท่านั้น ยังดังไปไกลยังต่างประเทศกันอีกด้วย แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเมนูผัดกระเพราในขณะที่ทำการปรุงอาหารอยู่จะได้กลิ่นฉุนของกระเพราเป็นอย่างมาก ซึ่งงานนี้แหล่งข่าวระบุอีกว่ากลิ่นของผัดกระเพราทำให้ส่งผลรบกวนจิตใจอันมีผลต่อการทำงาน จึงได้มีการประชุมกันเพื่อแก้ปัญหา

โดยในเบื้องต้นจึงให้สั่งห้ามทำผัดกระเพรา ห้ามในที่นี้คือห้ามทำกันสดๆ ในโรงอาหารแห่งนี้ แต่ถ้าทำมาจากที่บ้านแล้วนำมาวางขายแบบนี้สามารถอนุญาตให้ขายได้ และจากการสำรวจแล้วสาเหตุที่ทำให้กลิ่นของผัดกระเพราะกระจายไปไกลเกิดจากเครื่องดูดควันในโรงอาหารทำงานได้ไม่ดี เนื่องจากเวลาใช้จะมีเสียงดังมากทำให้รบกวนพ่อค้าแม่ค้าที่ปรุงอาหารอยู่ภายในโรงอาหารด้วย ทั้งๆ ที่ทำการจัดซื้อมาด้วยราคาที่ค่อนข้างแพง  ดังนั้นใครที่ไปทานอาหารในโรงอาหาร ทบ. ช่วงนี้คงต้องงดสั่งผัดกระเพรากันไปก่อน หรือถ้าอยากทานจริงๆ คงต้องออกมาหาทานด้านนอกกันแล้ว

เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่านำมาฉุกคิดเหมือนกันนะคะ และทำให้เราควรต้องมองวิถีการใช้ชีวิตของตัวเองไปพร้อมกัน บางอาชีพหรือบางสิ่งที่เราทำอาจจะเกิดผลเสียหายหรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนรอบตัวเราไหม อะไรควรและคิดว่าดีก็จงตั้งใจทำกันต่อไปแต่หากอะไรที่ทำแล้วเดือดร้อนกันภายหลังก็ควรฟังเสียงข้างมากเอาไว้ก่อนแล้วมาพิจารณาแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความยุติธรรมกันทั้งสองฝ่ายต่อไป