หยุดเวลา หวนคืนวันวาน

หยุดเวลา หวนคืนวันวาน

หยุดเวลา หวนคืนวันวาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการอยู่อาศัยในบ้านขนาดกะทัดรัด คงคุ้นตากับผลงานพ็อกเก็ตบุ๊คที่ชื่อว่า Small & Chic Homes โดย โสฬส ศรีสมนึก รองบรรณาธิการนิตยสาร Casaviva มากันบ้างไม่มากก็น้อย หนังสือเล่มนี้เป็นข้อมูลชั้นยอดสำหรับหลายคนที่เพิ่งเริ่มขยับขยายพื้นที่บ้าน เรามาดูกันว่า ผู้คร่ำหวอดในการแต่งบ้านไซส์เอส จะแต่งบ้านของตัวเองได้อย่างช่ำชองเพียงใด

"ผมเป็นคนชอบของสะสม เวลาเดินทางไปที่ไหนก็ต้องได้ของติดไม้ติดมือกลับมา ของบางชิ้นได้มาจากตลาดนัดรัชดาไนท์ในคืนวันเสาร์ หรือลานดินตรงข้าม JJ Mall สวนจตุจักรในคืนวันอาทิตย์บ้าง บางครั้งก็มาจากการเดินทาง เวลาไปต่างจังหวัดก็จะถามคนละแวกนั้นว่ามีร้านขายเฟอร์นิเจอร์อยู่ที่ไหน ผมชอบที่เชียงใหม่เป็นพิเศษ เพราะจะมีของให้เราได้เดินเลือกเยอะมาก เช่น ‘กาดทรัพย์ทองคำ' จานเซรามิกรูป เหมา เจ๋อ ตุง หรือรูปปั้นในหลวงสไตล์ป็อบอาร์ตก็ได้มาจากที่นี่ ส่วนรูปปั้นเหมา เจ๋อ ตุง อีกสองชิ้นได้มาจากคนละมุมโลก ชิ้นแรกเพื่อนซื้อมาฝากมาจากตลาดนัดของเก่าที่นครปฐม ส่วนอีกชิ้นได้มาจากตลาดนัดของเก่าที่ฮ่องกง"
ถึงแม้คุณโสฬสจะชอบซื้อของแต่งบ้านเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์ว่าจะต้องเป็นงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง สินค้าราคาถูกก็สามารถนำมาตกแต่งให้กับบ้านอันเป็นที่รักได้

"ผมไม่ได้จำกัดถึงแบรนด์หรือราคาต้องสูง เราเป็นคนนิยมของถูกอยู่แล้ว ถ้าถูกใจด้วยก็จะซื้อง่ายมากขึ้น อย่างรูปปั้นในหลวงซื้อมาในราคา 1,800 บาท ซึ่งผมคิดว่าถูกมากกับอายุของชิ้นงานที่ทำขึ้นในปี 2525 ครั้งสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยบ้านส่วนใหญ่จะมีท่านเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจอยู่แล้วในลักษณะของรูปภาพ แต่ผมแสดงออกในรูปของงานปั้น และรู้สึกว่าสีสันของงานชิ้นนี้ดูเป็นป็อปอาร์ตทันสมัยดี"

 


เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ของคุณโสฬส จะซื้อจากร้าน JOE'S BO ด้วยความสนิทสนมกับคุณโจเจ้าของร้านมานาน เวลามีของชิ้นใหม่คุณโจก็จะแจ้งข่าวสารให้กับลูกค้าประจำ ทำให้คุณโสฬสไม่พลาดที่จะได้ของดีกลับไปเสมอ

"คือเราจะถูกใจของร้านนี้อยู่แล้ว เพราะจะมีแต่เฟอร์นิเจอร์สไตล์เรโทร และสแกนดิเนเวีย ผมเลยชอบเป็นพิเศษ ตู้วางทีวีก็มาจากร้านนี้ พี่โจยกให้เป็นของขวัญตอนขึ้นบ้านใหม่ และคงเพราะความที่เราเติบโตมากับยุค 60-70'S เวลาเห็นของพวกนี้ทำให้เรารู้สึกผูกพัน และมีความสุขเมื่อได้อยู่กับมัน"

ไม่ว่าจะหันซ้าย หรือแลขวา ก็จะเจอกับของสะสมในสไตล์ที่หลากหลาย อาทิ วิทยุ นาฬิกา อายุเกินหลักสิบอย่างแน่นอน จึงทำให้เกิดความเชื่อจากที่หลายคนพูดกันว่า "ของเก่ามักดีและทนเสมอ" แล้วก็ดีเช่นนั้นจริงๆ เพราะยังใช้งานได้แทบทุกชิ้น

 


"ของสะสมภายในบ้านส่วนใหญ่อายุน่าจะเกิน 40 ขึ้นนะ ผมพยายามจะให้ของสะสมอยู่ในยุค 60-70'S ทั้งหมด เพื่อให้รู้สึกว่าชีวิตเราหยุดอยู่ในเวลานั้นจริงๆ แล้วคิดว่าของสไตล์เรโทรที่ผลิตขึ้นในยุคนั้น ไม่มีวันล้าสมัย ต่อให้อีก 30 ปี หรือ 40 ปี มันก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ และยังคงมีเสน่ห์ของมันอยู่ ก็เลยคิดอยากจะสะสมของเหล่านี้เก็บไว้"

หลักการแต่งบ้านให้มีสไตล์โดยใช้การผสมผสาน มีข้อจำกัดที่ไม่ยาก คุณโสฬสได้ให้ข้อมูลกับเราอย่างง่ายๆ และลงตัว ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
"ถ้าชอบแต่งบ้านสไตล์ผสมผสาน หรือมิกซ์แอนด์แมทซ์ ควรเลือกแนวทางที่เราชอบเป็นพิเศษก่อน อย่างผมชอบสไตล์เรโทรดูป็อปๆ หน่อย ก็อาจจะแบ่งสไตล์ชิ้นงานภายในบ้านให้อยู่ที่ เรโทร 60% โมเดิร์น 30% และ วินเทจ 10% ซึ่งจะดูกลมกลืน และดูละเมียดละไม ทำให้ห้องน่ามองแล้วก็น่าอยู่มากยิ่งขึ้น"

เสน่ห์อันเย้ายวนจากของเก่า ทำให้คุณโสฬสหลงใหลอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ตู้ไม้ใส่รองเท้า ที่เกือบไม่ได้มาเป็นเจ้าของ เพราะทัศนะคติลูกค้ากับพ่อค้าไม่ตรงกัน
"ผมซื้อมาจากตลาดนัดสวนจตุจักร ตู้ใบนี้มาแบบเดิมๆ เลย ผมถามคนขายว่าราคาเท่าไหร่ เขาก็ถามกลับว่าจะเอาไปทำอะไร ผมก็บอกว่าจะเอาไปใส่รองเท้า เขาเลยคิดราคามาห้าพันบาท เขาบอกว่าของดีๆ จะเอาไปใส่รองเท้าได้ยังไง ผมก็เลยบอกงั้นไม่เอา เขาก็เลยลดให้เหลือสามพันห้า เพราะจริงๆ ของที่เราซื้อ มันก็คือของที่เราใช้ เป็นสิทธิ์ของเรา อีกอย่างถ้าอยากได้ของตามตลาดนัดต่างๆ แนะนำให้แต่งตัวธรรมดาๆ เข้าไว้ เพราะถ้าแต่งตัวดีๆ มา โดนบวกราคาแน่นอน เพราะฉะนั้นความธรรมดาเรียบง่ายตามปรัชญาแต่งตัวน้อยๆ แต่ต่อมากๆ จะดีที่สุด ได้ของถูกด้วย"

 


คุณโสฬสบอกกับเราว่า ของในบ้านจะถูกเปลี่ยนทุก 2 เดือน แต่ยังเป็นสไตล์เดิม ของเดิมที่ไม่ใช้จะเก็บไว้ เผื่ออนาคตจะนำของทั้งหมดไปตกแต่งเกสต์เฮ้าส์ในต่างจังหวัดสักที่หนึ่ง ซึ่งเป็นแผนธุรกิจต่อไปที่นำมาต่อยอดจากของรัก


สิ่งที่เราได้กลับมาจากคอนโดฯ ห้องนี้ คือความผูกพันกับของใช้ และความอบอุ่นในมิตรภาพ โดยผ่านเรื่องเล่าจากชิ้นงานของเก่าแต่ละชิ้นที่เป็นตัวแทนสื่อความหมาย เชื่อมโยงไมตรีของบุคคลรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ที่หลงใหลในสไตล์คล้ายกัน จนทำให้รู้สึกว่า เนื้อแท้จากของเก่ามันช่างมีมนต์ขลังเสียจริง

Did You Know?
การทำโต๊ะเข้ามุมเป็นรูปทรงวงกลม ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องพื้นที่คับแคบ ไม่เกะกะทางสัญจร และการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์รูปทรงวงกลมยังใช้งานได้สะดวก ทำให้บรรยากาศภายในดูซอฟท์ขึ้น อีกทั้งยังเหมาะกับห้องขนาดเล็กๆ เป็นที่สุด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook