ภัยห้องน้ำปั๊มน้ำมัน

ภัยห้องน้ำปั๊มน้ำมัน

ภัยห้องน้ำปั๊มน้ำมัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ระวังห้องน้ำในปั๊มและรถที่ขับตามมา ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใย โปรดกระจายข่าวต่อให้กับคนที่คุณรัก... สัตว์โลกทั้งหลายพึงตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ความตายอยู่รอบตัว

เขาเคยคิดว่าภาพข่าวอาชญากรรมที่มีให้เห็นบนหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวันเป็นเรื่องไกลตัว จนกระทั่งกลางดึกคืนหนึ่งในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันที่เปิดไฟฟ้าสว่างไสว ศิลปินฝึกหัดของบริษัทดังของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย จึงตระหนักว่าไม่ว่าใครก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมได้พอๆกัน

วันที่เกิดเหตุผมไปคุยเรื่องงานดนตรีกับเพื่อนๆ และพี่ๆที่พรีเมียร์พระรามเก้า กว่าจะคุยเสร็จก็ตีสาม ปกติก็ไม่ได้กลับบ้านดึกขนาดนี้ แต่วันนั้นคุยกันค่อนข้างซีเรียสก็เลยใช้เวลานาน พอคุยเสร็จต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน

ผมขับรถเกือบจะถึงบ้านแล้ว ผ่านปั๊มแห่งหนึ่งก็เลยแวะเข้าไป จริงๆแล้วไม่ถึงกับอยากเข้าห้องน้ำขนาดทนไม่ได้ แต่อยากซื้อขนมกับไอติมไปกินที่บ้านมากกว่า

ตอนนั้นไม่มีรถคันอื่นเข้ามาเติมน้ำมันเลย ผมขับไปจอดหน้ามินิมาร์ต พอเข้าไปซื้อของเสร็จก็ตั้งใจจะเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาซะหน่อย ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำก็เลยไปล็อกรถให้เรียบร้อย

ห้องน้ำของปั๊มอยู่หลังมินิมาร์ต ตอนนั้นไม่มีใครในห้องน้ำเลย แต่ไฟสว่างมาก เพราะเป็นไฟนีออน ผมกำลังจะรูดซิปกางเกงก็ได้ยินเสียงตึง เป็นเสียงคนเดินเข้ามา พอเอี้ยวตัวไปมองก็เห็นปืนจ่ออยู่ตรงหน้า ความรู้สึกแรกคือไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะถูกปล้น แต่พอได้สติรู้ว่านี่ของจริง จังหวะนั้นเป็นอะไรที่เร็วมากๆ พอผมเอี้ยวตัวไป เห็นคนเดินตามหลังมาอีกสองคน คนถือปืนขึ้นลำปืนแล้วก็พูดด้วยเสียงดุๆว่า...

"ถ้ามึงไม่อยากตายหันหลังไป"

พอผมหันกลับ เขาก็ผลักผมกระเด็นไปติดกำแพงห้องน้ำ แล้วก็เอาด้ามปืนตบที่ท้ายทอยผมซ้อนๆกันหลายครั้ง ผมพร่ำบอกเขาว่า พี่อยากได้อะไรเอาไปเลย หวังว่าเขาจะไม่ทำอะไรร้ายแรง แต่ปรากฏว่าเขาไม่สนใจ เอาแต่ทุบเอาๆแล้วอีกคนก็เดินเข้ามาจับมือผมไปไพล่หลัง ผมได้ยินเสียงเทปกาวดังแควกก่อนที่เขาจะเอาเทปนั้นมัดมือผมไว้

พอมัดเสร็จมันก็จับตัวผมหันมา แล้วต่อยเข้าที่ท้องผมอย่างแรง หมัดเดียวแต่จุกมาก ตอนนั้นผมทรุดลงไปนอนตัวงออยู่ที่พื้น ต่อจากนั้นพวกมันก็จับขาผมรวบให้นั่งบนพื้นแล้วทำท่าเหมือนจะเอาเทปมามัดที่เท้า แต่เปลี่ยนใจมาพันที่หน้าก่อน เริ่มจากปิดตา ปิดปาก ตอนปิดปากมันปิดจมูกไปด้วย ผมพยายามร้องว่าหายใจไม่ออก แต่เสียงมันดังออกมาแค่อือๆเท่านั้น โชคดีที่ว่ามันพันไม่แน่นเท่าไหร่ ยังพอเหลือช่องให้หายใจได้ หลังจากนั้นมันก็เอาเทปมามัดที่เท้าต่อ แล้วก็ค้นตัวผมเอากุญแจรถไป

แล้วทุกอย่างก็เงียบ... ตอนแรกผมคิดว่าพวกมันคงทิ้งผมเอาไว้ เอาแต่รถไปอย่างเดียว ผมตั้งใจว่ารออีกเดี๋ยวจะค่อยๆกลิ้งไปหาคนช่วย แต่ยังไม่ทันโล่งใจก็รู้สึกว่าตัวเองถูกยกลอยขึ้น ตอนนั้นตกใจสุดขีดเลย ตกใจกว่าตอนเห็นปืนอีก เพราะคิดว่าคราวนี้คงถูกเอาไปยิงทิ้งแน่ๆ ผมดิ้นสุดชีวิต เลยโดนอัดหรือเตะไม่รู้หลายที

หลังจากนั้นผมก็ไม่เชิงว่าจะมีสติครบถ้วน แต่ก็กึ่งรู้สึกตัวกับไม่รู้สึกตัว เนื่องจากถูกปิดตาเอาไว้ด้วย ทำให้ไม่รู้ว่าถูกอุ้มไปไหน รู้สึกแต่ว่าหลังแตะโดนอะไรสักอย่าง คิดว่าน่าจะเป็นรถ เพราะพอวางผมเสร็จรถก็ออกตัว ตอนนั้นผมนึกถึงแต่พ่อกับแม่ว่าท่านจะอยู่อย่างไร เพราะผมเป็นลูกคนเดียว แล้วก็นึกถึงพระ ตอนนั้นเริ่มปลงแล้วว่าท่าจะไม่รอดแน่

รถวิ่งไปได้สักพักก็หยุด ผมรู้สึกว่าถูกยกตัวลอยอีกครั้ง ก่อนจะถูกโยนโครมลงไปที่หญ้า คาดว่าคงเป็นข้างทางที่ไหนสักแห่ง ตอนนั้นผมกลั้นใจว่าจะโดนอะไรอีกไหม แล้วก็รู้สึกว่าจะถูกเตะเข้าที่กลางลำตัวอีกสองครั้ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงขับรถออกไป  พอผมแน่ใจว่าพวกนั้นไปแล้วแน่ๆ ก็พยายามแกะเทปกาวออกแล้วตะกายไปขอความช่วยเหลือ พอดีมีคนใจดีขับรถผ่านมาเห็นและช่วยพาส่งโรงพยาบาล ผมนอนห้องไอซียูอยู่หนึ่งคืน

เขาคนนี้ยังโชคดีที่ยังได้กลับไปหาพ่อแม่เค้า แต่ถ้าคนโชคไม่ดีล่ะ โลกนี้มันมีทั้งเรื่องดีงาม แล้วก็เรื่องที่ไม่ดี มันเป็นโลกแห่งความเป็นจริง ขอให้ระวังตัวไว้เสมอ อย่าได้ชะล่าใจ หลายๆคนมักคิดว่าไม่เป็นไรแค่นี้เอง แต่แค่นี้เองบางทีมันเท่ากับเราได้เอาชีวิตเราเข้าไปเสี่ยงแล้ว แม้จะไม่ห่วงตัวเองก็ขอให้คิดถึงคนที่บ้านที่เป็นห่วงเราอยู่ด้วยก็แล้วกันนะครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook