6 ประเภท ออกกำลังกายง่ายๆ สำหรับสตรีมีครรภ์
ความเชื่อผิดๆ ที่ว่าสตรีมีครรภ์ไม่ควรออกกำลังกาย แต่แท้จริงแล้วการออกกำลังกายนับว่าเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ที่ช่วยให้สตรีมีครรภ์สามารถคลอดบุตรได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยลดภาวะโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ได้อีกด้วย
ถึงแม้สตรีมีครรภ์จะสามารถออกกำลังกายได้ แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถทำท่าพิสดารผาดโผนได้เหมือนตอนยังสาวๆ โดยควรเลือกเป็นกีฬาหรือท่าทางที่สามารถออกแรงได้พอเหมาะ ไม่หักโหมจนเกินไป และท่าทางต่างๆ ไม่ควรเป็นท่าที่ใช้แรงยึด กระโดด บิด ฯลฯ ที่มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติต่อคุณแม่และลูกน้อยได้ อีกทั้งสถานที่ควรเลือกเป็นที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้อย่างทั่วถึง ซึ่งครั้งนี้เรามีการออกกำลังกาย 6 ประเภทที่เหมาะกับสตรีมีครรภ์มาฝาก
เดิน สามารถออกกำลังกายได้ทุกช่วงอายุครรภ์ซึ่งถือเป็นวิธีที่เรียบง่ายและเหมาะสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์มากที่สุด โดยการเดินที่ถูกต้องควรเริ่มจากเดินในระยะทางที่สั้นๆ แล้วจึงค่อยเพิ่มระยะทางไปเรื่อยๆ ควรก้าวเท้ายาวๆ หลังตรง และเงยหน้าขึ้นตลอดเวลาทั้งนี้เลือกช่วงเวลาเช้าๆ ได้ยิ่งส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์
ออกกำลังกายแขน สามารถออกกำลังกายได้ทุกช่วงอายุครรภ์ โดยมีอุปกรณ์เสริม คือ ดัมเบลอันเล็กๆ ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด และหลีกเลี่ยงดัมเบลที่มีน้ำหนักเกินตัว ซึ่งการยกดัมเบลจะช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับและแข็งแรงขึ้น
แอโรบิก คุณแม่ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 3-7 เดือน ควรเลือกใช้เพลงประกอบการเต้นจังหวะที่ไม่เร็วจนเกินไป และไม่ใช้ท่าที่ลงจังหวะวางแรงๆ มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้กระทบบริเวณท้องจนกระเทือนไปยังลูกน้อยในครรภ์
ปั่นจักรยาน คุณแม่ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 3-7 เดือน การปั่นจักรยาน ในที่นี้หมายถึงในฟิตเนสหรือปั่นจักรยานกลางอากาศเท่านั้น เพราะหากเป็นการปั่นจักรยานที่ปั่นตามท้องถนนจะเสี่ยงต่อการกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้
โยคะ คุณแม่ที่เริ่มมีอายุครรภ์ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ควรใช้โยคะท่านั่งและยืนเป็นหลัก เริ่มทำจากการยืดกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ของร่างกายให้มี ความยืดหยุ่น ซึ่งการเคลื่อนไหวในแต่ละท่วงท่าควรอยู่ในระดับช้า และใช้การหายใจเข้า-ออกเป็นตัวกำหนดจังหวะ ส่วนท่าไหนที่รู้สึกว่าเริ่มเกร็งไปถึงหน้าท้องให้หลีกเลี่ยงไว้ก่อนได้ยิ่งดี
ว่ายน้ำ คุณแม่ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 4-8 เดือนแล้ว ก่อนลงสระว่ายน้ำ ควรวอร์มร่างกายเพื่อป้องกันการเกิดตะคริว เริ่มจากเดินช้าๆ ในสระว่ายน้ำ ซึ่งวิธีนี้คุณแม่อาจใช้แรงต้านทานมากกว่าปกติ แต่เมื่อเราอยู่ในน้ำจะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์เหมือนการเดินบนพื้นปกติทั่วไป อีกทั้งการอยู่ในน้ำยังช่วยส่งเสริมให้ลูกน้อยมีอิสระในการเคลื่อนไหวมากขึ้นอีกด้วย