9 ต้นไม้ยอดฮิตที่ "ไม่ควร" ปลูกในบ้าน ถ้าไม่อยากเจอปัญหาไม่รู้จบ!

9 ต้นไม้ที่ไม่ควรปลูกในบ้าน: สวยแต่รูปแต่อาจสร้างปัญหาไม่รู้จบ
ต้นไม้ในบ้านไม่เพียงแต่ช่วยประดับตกแต่งให้สวยงาม แต่ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศให้สดชื่น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ต้นไม้ทุกชนิดจะเหมาะกับการเติบโตในร่ม โดยเฉพาะต้นไม้เมืองร้อนที่ต้องการความชื้นสูง หรือไม้ดอกที่ต้องการแสงแดดจัดเกินกว่าที่ริมหน้าต่างจะให้ได้
นอกจากนี้ ต้นไม้บางชนิดอาจเติบโตเร็วเกินไปจนเบียดบังพื้นที่ใช้สอย หรือกลายเป็นแหล่งสะสมของศัตรูพืชและเชื้อรา ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนในครอบครัว นี่คือ 9 ต้นไม้ที่คุณควรเลี่ยงการปลูกไว้ในบ้าน แม้จะปลูกในกระถางก็ตาม
9 ต้นไม้ที่ไม่ควรปลูกในบ้าน
1. พุดซ้อน
แม้จะมีใบสีเขียวเข้มเป็นมันเงาและดอกสีขาวส่งกลิ่นหอมชวนหลงใหล แต่พุดซ้อนเป็นพืชที่เอาใจยากมากหากปลูกในร่ม เพราะต้องการแสงแดดจัดและความชื้นสูง อีกทั้งยังเป็นเป้าหมายหลักของไรแดง เพลี้ยแป้ง และแมลงหวี่ขาว หากอยากชื่นชมความงาม ควรปลูกลงดินไว้ในสวนนอกบ้านจะดีกว่า
2. เบญจมาศ
ต้นเบญจมาศสีสันสดใสอาจดูสวยงามในตอนซื้อมาใหม่ๆ แต่ส่วนใหญ่มักจะออกดอกตามฤดูกาลและบานอยู่ได้ไม่นานเมื่ออยู่ในบ้าน เมื่อดอกร่วงโรยไปแล้วมักจะดูโทรมและไม่ค่อยออกดอกซ้ำ หากต้องการต้นไม้ประดับในบ้าน ควรเลือกไม้ใบที่ทนทานหรือไม้ดอกที่บานได้สม่ำเสมอในที่ร่มแทน
3. กุหลาบ
กุหลาบต้องการแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับการปลูกในบ้าน แม้จะเป็นกุหลาบพันธุ์จิ๋วก็ยังเลี้ยงยาก เพราะพวกมันต้องการอากาศที่ถ่ายเทและอุณหภูมิที่เหมาะสม หากอากาศนิ่งเกินไปจะกลายเป็นแหล่งสะสมของเพลี้ยและไรแดงทันที
4. ลาเวนเดอร์
ลาเวนเดอร์เป็นพืชแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่รักแสงแดดและอากาศเย็น (ประมาณ 15 องศาเซลเซียส) เมื่อนำมาปลูกในบ้าน ลาเวนเดอร์มักจะไม่ยอมออกดอก ทำให้เราพลาดโอกาสที่จะได้รับกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่คนส่วนใหญ่เลือกปลูกพืชชนิดนี้
5. โรสแมรี่
เช่นเดียวกับลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ต้องการแดดจัดและการระบายน้ำที่ดีเยี่ยม แม้จะวางไว้ริมหน้าต่างที่สว่างที่สุด แต่ในบ้านมักมีอากาศที่แห้งและนิ่งเกินไป ทำให้โรสแมรี่ในกระถางขาดน้ำได้ง่ายและใบร่วงจนยืนต้นตายในที่สุด
6. กระบองเพชร
หลายคนคิดว่าแคคตัสเลี้ยงง่าย แต่จริงๆ แล้วพวกมันต้องการแสงแดดจัดไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวันเพื่อให้ทรงต้นสวยงาม นอกจากเรื่องแสงแล้ว หนามที่แหลมคมยังเป็นอันตรายต่อเด็กและสัตว์เลี้ยง และในทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าหนามของแคคตัสสร้าง "พลังลบ" ที่ขัดขวางโชคลาภและทำให้คนในบ้านเกิดความขัดแย้งได้
7. พลูด่าง
พืชยอดนิยมที่โตไวและราคาถูก แต่หากปล่อยไว้เพียง 2 ปี พลูด่างอาจเติบโตจนหนาทึบและเลื้อยไปทั่ว พุ่มที่แน่นเกินไปจะกลายเป็นที่สะสมของฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย ซึ่งส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนพืชจะคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา หากห้องไม่มีอากาศถ่ายเทอาจทำให้รู้สึกอึดอัดและนอนหลับไม่สนิท
8. เฟิร์นบอสตัน
เฟิร์นที่ดูเขียวขจีในกระเช้าแขวนนอกบ้านมักจะกลายเป็นฝันร้ายเมื่ออยู่ในร่ม เพราะมันต้องการความชื้นในอากาศสูงมากและไม่ชอบลมโกรก หากความชื้นไม่พอ ใบเฟิร์นจะร่วงกราวสร้างความสกปรกและต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง หากชอบเฟิร์นจริงๆ แนะนำให้เปลี่ยนไปปลูก เฟิร์นข้าหลวง หรือ เฟิร์นหนังตะลุง จะดูแลง่ายกว่า
9. ไฮเดรนเยีย
ไม้พุ่มดอกสวยที่ใครๆ ก็อยากมีไว้ในครอบครอง แต่ไฮเดรนเยียเป็นพืชที่ต้องการความเย็นและความชื้นสูงมากในการรักษาความสดของดอกและใบ การปลูกในบ้านที่อากาศมักจะแห้งและร้อนเกินไปจะทำให้ไฮเดรนเยียเหี่ยวเฉาได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ก่อนจะตัดสินใจซื้อต้นไม้มาวางในบ้าน ควรศึกษาความต้องการพื้นฐานของพืชชนิดนั้นให้ดี เพื่อไม่ให้ความตั้งใจที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียว กลายเป็นภาระหรือปัญหาสุขภาพในภายหลัง
ขอบคุณข้อมูลจาก
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี